เมนูนำทาง
นามสกุล นามสกุลในประเทศไทยก่อนหน้านี้ กฎหมายไทยกำหนดให้ผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว จะต้องเปลี่ยนมาใช้นามสกุลสามี แต่ในปัจจุบัน ศาลรัฐธรรมนูญได้ชี้ขาดให้ผู้หญิงมีสิทธิในการเลือกใช้นามสกุลของตัวเองหรือของสามีได้ ซึ่งถือเป็นการให้สิทธิแก่สตรีตรงตามที่รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 มาตรา 30 ระบุไว้
เดิมทีคนไทยไม่ได้มีนามสกุล[1] จะมีเพียงชื่อเรียกเท่านั้น ในสมัย พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 จึงโปรดให้มีการตั้งนามสกุลเหมือนกับประเทศอื่น ๆ โดยให้ตราพระราชบัญญัติขนานนามสกุล เมื่อวันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2455 มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2456 และมีการพระราชทานนามสกุลให้แก่หลายครอบครัวที่เรียกว่า นามสกุลพระราชทานจำนวน 6,432 นามสกุล และหลายครอบครัวก็ตั้งนามสกุลตามชื่อของผู้นำของครอบครัวนั้น หรือตามถิ่นที่อยู่อาศัยของครอบครัวนั้น นามสกุลแรกของประเทศไทย คือ สุขุม
รัชกาลที่ 6 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามสกุลไว้ทั้งหมด 6,464 นามสกุล แบ่งเป็น
เมื่อมีพระราชบัญญัติขนามนามสกุลฯ ขึ้น ราษฎรไทยจึงต้องตั้งนามสกุลสำหรับใช้ในครอบครัวหรือตระกูลของตน โดยมีความนิยมหลายอย่างด้วยกัน ดังนี้
พระราชบัญญัติชื่อบุคคล พ.ศ. ๒๕๐๕ กำหนดหลักเกณฑ์การตั้งชื่อสกุลไว้ว่า
มาตรา ๘ ชื่อสกุลต้อง
(๑) ไม่พ้องหรือมุ่งหมายให้คล้ายกับพระปรมาภิไธย หรือพระนามของพระราชินี
(๒) ไม่พ้องหรือมุ่งหมายให้คล้ายกับราชทินนาม เว้นแต่ราชทินนามของตน ของผู้บุพการี หรือของผู้สืบสันดาน
(๓) ไม่ซ้ำกับชื่อสกุลที่ได้รับพระราชทานจากพระมหากษัตริย์ หรือชื่อสกุลที่ได้จดทะเบียนไว้แล้ว
(๔) ไม่มีคำหรือความหมายหยาบคาย
(๕) มีพยัญชนะไม่เกินกว่าสิบพยัญชนะ เว้นแต่กรณีใช้ราชทินนามเป็นชื่อสกุล
เมนูนำทาง
นามสกุล นามสกุลในประเทศไทยใกล้เคียง
นามสกุล นามสกุลพระราชทาน นามสกุลของไฟล์ นามสกุลที่นิยมใช้ นามสกุลบุคคลญี่ปุ่น รายนามสกุลทั่วไปของญี่ปุ่นแหล่งที่มา
WikiPedia: นามสกุล http://www.khonthai.com/online/WCHECKLNAME/ http://www.alro.go.th/alro/alro_prov/template/hist... http://www.ecitizen.go.th/intro.php?SystemModuleKe...