ประวัติ ของ นำขบวน_หนองกี่พาหุยุทธ

นำขบวนแรกเริ่มไม่ได้เป็นนักมวยไทยที่เก่งกาจหรือชกเป็นคู่เอกแต่อย่างใด เพราะถือเป็นนักมวยที่ชกตามนำพล ผู้เป็นพี่ชาย และเคยทำสถิติแพ้น็อกเร็วที่สุดด้วยโดยแพ้น็อกยกแรก ในเวลาเพียง 33 วินาทีให้กับ วังจั่นน้อย ส.พลังชัย มาแล้ว ซึ่งทำให้วังจั่นน้อยได้รับฉายาว่า "ไอ้หมัด 33 วิ"

แต่เมื่อในปี พ.ศ. 2534 ที่นำพลพี่ชายแขวนนวมไปจากอุบัติเหตุทางรถ นำขบวนซึ่งขณะเกิดเหตุได้นอนดูวิดีโออยู่ที่บ้าน จึงไม่ได้รับบาดเจ็บด้วย จากนั้นมานำขบวนได้พัฒนาฝีมือขึ้นมา กลายเป็นยอดมวยที่ชกได้สวย กลายเป็นมวยเอกภายในระยะเวลาไม่นาน นำขบวนมีท่าไม้ตายทีเด็ดคือ "ไถนา" คือการจับขาของคู่ชกแล้วไถดันไปข้างหลังให้เสียหลัก จึงได้รับฉายาจากแฟนมวยว่า "จอมไถนา"

นำขบวน หนองกี่พาหุยุทธ เป็นนักมวยหน้าตาดี ชกได้สวยเหมือนนำพล พี่ชาย เคยไปชกที่ประเทศญี่ปุ่นโดยพบกับ "ไอ้แรดดง" เหนือธรณี ทองราชา โดยเหนือธรณีออกอาวุธได้หนักหน่วงกว่า จะแจ้งกว่า แต่นำขบวนสามารถใช้ลีลาแม่ไม้มวยไทยได้สวยงามกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ท่ามณโฑนั่งแท่น ซึ่งเป็นแม่ไม้ที่ไม่ค่อยมีนักไทยคนไหนใช้กัน เนื่องจากใช้ยาก กรรมการจึงตัดสินให้นำขบวนชนะคะแนนไป และสร้างประวัติศาสตร์โดยเป็นแชมป์รุ่นจูเนียร์ไลท์เวท (130 ปอนด์) ของเวทีลุมพีนียาวนานถึง 6 ปี โดยไม่มีใครสามารถชิงแชมป์ได้ จนต้องสละตำแหน่งไป และเคยเป็นแชมป์ของสภามวยไทยโลกด้วย โดยมีค่าตัวการชกสูงสุดถึง 260,000 บาท

จากการที่นำขบวนชอบใช้ลูกไถนานี้ จึงได้มีการประชุมกติกาและตกลงกันใหม่ว่า ห้ามนักมวยไทยใช้ลูกไถนานี้อีก เนื่องจากเป็นการเอาเปรียบคู่ต่อสู้ ซึ่งยังใช้เป็นกติกามาจนปัจจุบัน