น้อยโหน่ง (
อังกฤษ: Custard-apple, Bullock's-heart)
ผลไม้ชนิดหนึ่ง มี
ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Annona reticulata อยู่ใน
วงศ์กระดังงา สกุลเดียวกับ
น้อยหน่า (A. squamosa) เป็น
ไม้พุ่มขนาดเล็กถึงขนาดกลาง มี
ดอกคล้ายดอกของน้อยหน่า แต่ผลมีขนาดโตกว่า เปลือกบางแต่เหนียว ค่อนข้างเรียบ ไม่นูนเป็นตา ๆ
สีเขียวจาง ๆ ปน
สีแดงเรื่อ ๆ ความสูงของลำตัวประมาณ 5-8
เมตร ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับ เป็นรูปขอบขนานแกมรูปใบหอก หรือใบประกอบแบบขนนกออกเรียงสลับเป็นรูปใบหอก ปลายและโคนใบแหลม
สีเขียวสด ปลูกได้ใน
ดินทั่วไปเนื้อในผลหนา
สีขาว รสชาติ
หวานแต่ไม่เท่าน้อยหน่า มีเมล็ดมาก มีคุณค่าทางอาหาร คือ
วิตามินเอมากกว่าน้อยหน่า นอกจากนี้แล้วยังมีสรรพคุณทางยา คือ ผลทั้งดิบและสุกแก้
ท้องร่วง โรคบิด โรคซาง ลมจุกเสียด แก้
พยาธิในท้อง และพยาธิผิวหนัง, รากใช้แก้เหงือกบวม รักษาโรค
เรื้อน เปลือกและต้นแก้บิด
ท้องเสีย เป็นยาห้ามเลือดและสมานแผล,
ใบใช้ฆ่าพยาธิผิวหนัง แก้บวมและฟกช้ำ เมล็ดใช้เป็นยาสมานแผล นอกจากนี้แล้วทั้งผลดิบและใบสดยังสามารถใช้ต้มเอาน้ำทำเป็น
สีย้อมผ้าให้
สีดำและ
สีน้ำเงินที่สวยงามและติดทนนานอีกด้วย
[1][2]น้อยโหน่ง จะนิยมรับประทานน้อยกว่าน้อยหน่าเนื่องจากผลมีกลิ่นฉุน ยังมีชื่อเรียกต่างกันไปตาม
ภาษาถิ่นในแต่ละภาคอีกด้วย เช่น มะโหน่ง หรือ มะเนียงแฮ้ง (
ภาคเหนือ), น้อยหนัง (
ภาคใต้) เป็นต้นทั้งน้อยโหน่งและน้อยหน่า มิใช่พืชพื้นเมืองของ
ไทยหรือภูมิภาค
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่เป็นพืชพื้นเมืองของภูมิภาค
อเมริกากลาง เชื่อว่าถูกเข้านำมาครั้งแรกใน
สมัยอยุธยา[3] แต่ปัจจุบัน สามารถพบน้อยโหน่งและน้อยหน่าได้ทั่วไปทั้งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้,
ไต้หวัน,
อินเดีย,
ออสเตรเลีย และ
แอฟริกาตะวันตก