ความเสียหายในประเทศไทย ของ น้ำป่า

เหตุการณ์ภัยพิบัติน้ำป่าไหลหลาก ก่อนและหลังเกิดเหตุประมาณ 2-3 นาที ที่วังตะไคร้ จังหวัดนครนายก เมื่อวันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2537 มีผู้เสียชีวิต 21 คน

ในช่วง 26 ปีที่ผ่านมาเหตุการณ์น้ำป่าแผ่นดินถล่มที่บ้านกระทูนเหนือ อำเภอพิปูน จังหวัดนครศรีธรรมราช (วันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2531) ทำให้มีผู้บาดเจ็บและตายมากกว่า 230 คนบ้านเรือนเสียหายกว่า 1,500 หลัง มูลค่าเสียหายมากกว่า 1,000 ล้านบาท ที่บ้านน้ำก้อ อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ (11 สิงหาคม พ.ศ. 2544) มีผู้เสียชีวิตและสูญหาย 140 คน บ้านเรือนพังทลาย และเสียหาย 599 หลัง ค่าเสียหาย 650 ล้านบาท และที่เพิ่งเกิดขึ้นที่ภาคเหนือพร้อมกันหลายจังหวัดเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2549 คาดว่าอาจมีผู้บาดเจ็บ สูญหายและเสียชีวิตมากถึง 100 คน ทั้งนี้ยังไม่นับความเสียหายของทรัพย์สินและการแตกร้าวของครอบครัวของผู้เสียชีวิต ตัวเลขของกรมทรัพยากรธรณีบ่งชี้ว่า ประเทศไทยมีพื้นที่เสี่ยงต่อน้ำป่ามากถึง 1,940 หมู่บ้าน ใน 250 อำเภอ ใน 51 จังหวัด ซึ่งเป็นกรณีคล้ายคลึงกับเหตุการณ์น้ำป่าคร่าชีวิตนักท่องเที่ยวที่ธารน้ำตกสาริกา อุทยานแห่งชาติวังตะไคร้ จังหวัดนครนายกเมื่อวันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2537 เวลาประมาณ 14.00 น. ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 21 คน[1]

ล่าสุดเมื่อวันที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2550 เวลาประมาณ 15.20 น. ได้เกิดน้ำป่าฉับพลันไหลหลากลงจากเทือกเขาบรรทัดสู่น้ำตกสายรุ้ง น้ำตกไพรสวรรค์ และน้ำตกลำปลอก อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 38 คนและบาดเจ็บอีกจำนวนมากก