บทสดุดี[1] (
อังกฤษ: Panegyric) คือ
สุนทรพจน์อย่างเป็นทางการ หรือต่อมาหมายถึงบทเขียนที่ใช้ในการกล่าวสรรเสริญบุคคลหรือปรัชญาความคิด และเป็นงานที่เป็นที่ทำการศึกษากันมากที่ไม่ใช่
บทยกย่อง (eulogy) และมิใช่งานเขียนที่มีจุดประสงค์ในการวิพากษ์ “Panegyric” มาจาก
ภาษากรีก “πανηγυρικός” ที่แปลว่า “สุนทรพจน์ที่เหมาะกับที่ประชุมใหญ่” (
ศาสนชุมนุมของกรีก (Panegyris)) ใน
เอเธนส์สุนทรพจน์ดังกล่าวมักจะกล่าวเนื่องในโอกาสที่มีเทศกาลหรือการกีฬาระดับชาติ โดยมีวัตถุประสงค์ในการปลุกเร้าใจพลเมืองให้เห็นดีเห็นงามไปกับการกระทำอันเป็นวีรบุรุษของบรรพบุรุษบทสดุดีที่มีชื่อเสียงที่สุดก็ได้แก่บทสดุดี “Olympiacus” โดย
จอร์จิอัส, “Olympiacus” โดย
ลิเซียส และ “Panegyricus” และ “Panathenaicus” โดย
อิโซคราทีส แต่ไม่ได้กล่าวจริง การกล่าวสดุดีเนื่องในโอกาสงานศพเช่นสุนทรพจน์ที่เขียนโดยนักประวัติศาสตร์ชาวกรีก
ธูซิดิดีสที่กล่าวโดย
เพรีคลีสก็อยู่ในประเภทที่เรียกว่า “บทสดุดี”ในสมัย
โรมันโบราณบทสดุดีจำกัดใช้ในการสรรเสริญผู้ยังมีชีวิตอยู่เท่านั้น และใช้ “บทสรรเสริญผู้ตาย” (funeral oration) สำหรับผู้เสียชีวิตไปแล้วเท่านั้น ตัวอย่างของบทสดุดีที่มีชื่อเสียงใน
ภาษาลาตินก็ได้แก่บทสดุดีที่กล่าวโดย
พลินิผู้เยาว์ใน
วุฒิสภาโรมันเนื่องในโอกาสที่ได้รับตำแหน่งเป็นกงสุล ที่มีเนื้อหาบางส่วนพาดพิงไปถึง
บทยกย่องจักรพรรดิทราจันเมื่อมาถึงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 3 และระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 4 ในสมัยของ
จักรพรรดิไดโอคลีเชียนก็เกิดมีประเพณีการสรรเสริญคุณสมบัติของความเป็นมหาวีรบุรุษของพระจักรพรรดิที่กำลังทรงราชย์อยู่ในงานเทศกาลทางวรรณกรรม ในปี ค.ศ. 336 ยูซีเบียสแห่งเซซาเรียให้บทสดุดีเนื่องในพระราชวโรกาสที่
จักรพรรดิคอนสแตนตินที่ 1 ทรงราชย์ครบรอบ 30 ปี ซึ่งเป็นการสรรเสริญความมั่นศรัทธาทางศาสนาของพระองค์แทนที่จะเป็นการสรรเสริญในพระราชกรณียกิจที่ทรงประสบความสำเร็จในทางโลกที่ได้ทรงทำมาตามประเพณีการกล่าวสดุดีที่ทำกันมาบทสดุดีที่ให้อย่างมีอรรถรส, ประสิทธิภาพ และ มีปฏิภาณเป็นเครื่องมือสำหรับผู้ยังมีอายุไม่มากนักผู้มีการศึกษาแต่ขาดประสบการณ์ในการดึงดูดความสนใจที่ต้องการในบรรยากาศของการแข่งขัน เมื่อกวี
คลอเดียนเดินทางจากอเล็กซานเดรียมายังโรมก่อนปี ค.ศ. 395 ก็มาสร้างชื่อเสียงโดยการให้บทสดุดี และในที่สุดก็ได้เป็นกวีประจำสำนักของ
สติลิโคคาสซิโอโดรัสข้าราชสำนักใน
พระเจ้าธีโอดอริคมหาราชทิ้งงานเขียนบทสดุดีเอาไว้ -- “Laudes” นักชีวประวัติของคาสซิโอโดรัส โอดอนเนลล์บรรยายว่าเป็น “งานที่เป็นที่ทราบกันเป็นสุนทรพจน์ที่มีเนื้อหาสรรเสริญอันเกินเลย; วัตถุประสงค์ของการเขียน (ซึ่งก็คงมีความสำคัญต่อการตัดสินคุณค่า) ก็เพื่อให้เห็นว่าการกล่าวสรรเสริญอันเกินเลยจะทำได้มากเท่าใดโดยไม่เกินขอบเขตของมารยาทและการจำกัดของสังคม”
[2]โคลงสดุดีคาสิดา (Qasida) คือโคลงสดุดีใน
ภาษาอาหรับ,
ภาษาเปอร์เซีย,
ภาษาตุรกี และ
ภาษาอูรดู