บริษัทอินเดียตะวันออกอันทรงเกียรติ (
อังกฤษ: Honourable East India Company)
[1] หรือในเวลาต่อมาคือ
บริษัทอินเดียตะวันออกของบริเตน (British East India Company)
[2] เป็นบริษัทร่วมทุนสัญชาติอังกฤษในช่วงแรก ซึ่งเดิมถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อแสวงหาการค้ากับภูมิภาคอินเดียตะวันออก แต่ในภายหลังได้ดำเนินการค้าส่วนใหญ่กับ
อนุทวีปอินเดียและจีน และยังมีหน้าที่
ปกครองอาณานิคมในอนุทวีปอินเดีย บริษัทอินเดียตะวันออกถือได้ว่ามีความเก่าแก่ที่สุดเมื่อเทียบกับบริษัทอินเดียตะวันออกของชาติทวีปยุโรปอื่น ๆ เมื่อแรกก่อตั้ง บริษัทได้รับพระราชทานตราตั้งโดย
สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 ให้เป็น "ข้าหลวงแลบริษัทพาณิชย์แห่งลอนดอนซึ่งจักทำการค้าไปยังอินเดียตะวันออก" เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม ค.ศ. 1600
[3] บริษัทนี้เกิดขึ้นจากการร่วมทุนระหว่างพ่อค้าและชนชั้นสูงในอังกฤษ รัฐบาลมิได้ถือหุ้นอยู่ในบริษัทแต่ก็มีการอำนวยความสะดวกต่างๆให้แก่บริษัท เช่น สนับสนุนด้านกำลังทหารและกองเรือปืน การดำเนินงานของบริษัทนี้มีส่วนแบ่งถึงครึ่งหนึ่งของมูลค่าการค้าระหว่างประเทศของทั้งโลก สร้างรายได้ในรูปแบบภาษีให้แก่รัฐบาลอังกฤษอย่างมหาศาล บริษัทเป็นผู้จัดหาสินค้าสำคัญคือ
ผ้าฝ้าย, ผ้าไหม, สีย้อมผ้า, เกลือ, ดินประสิว, ใบชา และ
ฝิ่นในอินเดียเอง ก็มีนิคมของชาติยุโรปอื่นๆตั้งอยู่เช่นกัน เช่นของปรัสเซีย, เนเธอร์แลนด์ และฝรั่งเศส แต่ในปี 1740 อังกฤษได้ขัดแย้งกับปรัสเซียและฝรั่งเศสจากผลของ
สงครามสืบราชบัลลังก์ออสเตรีย การต่อสู้นั้นเกิดขึ้นทั้งในยุโรปและบางส่วนของอินเดีย
จักรวรรดิโมกุลเลือกที่จะยืนอยู่ข้างฝรั่งเศสและทำสงครามกับบริษัท อย่างไรก็ตาม กองเรือของบริษัทซึ่งนำโดยพันเอก
รอเบิร์ต ไคลฟ์ สามารถมีชัยเหนือกองทัพของโมกุลและฝรั่งเศสได้และบริษัทได้เข้าไป
ปกครองภาคเบงกอล ต่อมาหลังฝรั่งเศสพ่ายแพ้ใน
สงครามเจ็ดปี ฝรั่งเศสก็เสียดินแดนพิหารในอินเดียแก่อังกฤษและฝรั่งเศสจำยอมถอนอิทธิพลออกจากอินเดียเดิมที บริษัทมีอำนาจสิทธิขาดในการจัดการปกครองอินเดียทั้งหมด แต่เมื่อมีการตรา
พระราชบัญญัติรัฐบาลอินเดีย ค.ศ. 1858 บริษัทก็ถูกลดบทบาทลง กฎหมายฉบับนี้ทำให้อำนาจการปกครองในอินเดียหันไปขึ้นกับพระเจ้าแผ่นดินอังกฤษโดยตรง