เมนูนำทาง
บ่อเหล็กลอง ประวัติบ่อเหล็กลอง หรือ บ่อเหล็กเมืองลอง เป็นเหล็กที่มีความสำคัญมากในยุคจารีตเพราะใช้ผลิตทั้งอาวุธ เครื่องมือเครื่องใช้ และสร้างสิ่งก่อสร้างต่างๆ ซึ่งแร่เหล็กเมืองลองยุคจารีตถือว่าเป็นเหล็กที่มีคุณภาพดี และสันนิษฐานว่านำไปใช้อย่างกว้างขวางในล้านนาดังมีคำเปรียบว่า เหล็กดีเหล็กเมืองลอง ตองดีตองพะเยา กล่าวกันว่าบ่อเหล็กเมืองลองเป็นบ่อเหล็กที่ใช้ทำศาสตราวุธหรือที่เรียกว่า ดาบสรีกัญไชย ของกษัตริย์ล้านนา โดยจะคัดเลือกเอา ม้อนเหล็กลอง คือ เม็ดก้อนแร่เหล็กที่เกิดอยู่ภายในก้อนแร่เหล็กลองที่หุ้มคล้ายตลับอยู่ภายนอกอีกชั้นหนึ่ง เมื่อเขย่าจะเกิดเสียงอยู่ภายในมีสีเขียวปีกแมลงทับ ช่างตีเหล็กจะนำมาตีผสมกับเหล็กปิว (เหล็กลองน้ำหนึ่งหลุมแรก) เป็นดาบสรีกัญไชยของกษัตริย์ ส่วนเหล็กปิวที่ไม่ตีผสมม้อนเหล็กลองใช้ทำอาวุธสำหรับเจ้าเมือง และขุนนาง ประกอบกับภายในเมืองลองมีการสืบทอดช่างเหล็กเป็นตระกูลมาหลายชั่วอายุคน เช่น ตระกูลช่างเหล็ก ตระกูลฟูเหล็ก ฯลฯ อาวุธที่ผลิตขึ้นในเมืองลองจึงถือกันว่าเป็นอาวุธชั้นหนึ่ง มีคุณสมบัติสนิมไม่กินเนื้อเหล็ก มีความคมหากเอาเส้นผมวางบนคมแล้วเป่าเส้นผมจะขาดออกจากกันทันทีโดยเฉพาะเหล็กลองน้ำหนึ่งที่เรียกว่า เหล็กปิว มีความเหนียวหากตีเป็นดาบที่บางจะสามารถหักทบงอหรือขดม้วนได้ ถ้าตีหนาสามารถตัดดาบเหล็กลองที่น้ำต่ำกว่า หรือดาบจากเหล็กบ่ออื่นได้
ตำนานบ่อเหล็กเมืองลอง เป็นตำนานที่มีต้นเค้ามาจากเรื่องเล่าภายในท้องถิ่น ก่อนมีการจดบันทึกเป็นอักษรธรรมล้านนาลงในใบลานก้อมจำนวน ๑๗ ลาน และคัดลอกอีกทอดใส่สมุดโหราโดยหมื่นกลางโฮง (น้อยแก้ว จาอาบาล) (บุตรชายพ่อนายอินหวัน ต้นตระกูลจาอาบาล สืบเชื้อสายมาจากคหบดีเมืองเชียงใหม่) ตำนานได้กล่าวถึงการเสด็จขึ้นมาของพระนางจามเทวีทางแม่น้ำยม มาขึ้นฝั่งที่วังต๊ะครัวหน้าวัดพระธาตุไฮสร้อย แล้วเสด็จขึ้นไปตามลำน้ำแม่ลอง และกล่าวถึงความสันพันธ์ในการสร้างเวียงลอง การก่อตั้งบ้านนาตุ้ม ที่มาของบ่อเหล็กเมืองลอง ตลอดถึงเชื่อมความสัมพันธ์กับการก่อสร้างพระธาตุศรีดอนคำ ซึ่งตำนานฉบับนี้คล้ายกับตำนานบอกเล่า ต่างกันเพียงตำนานเรื่องนี้ได้ถูกนำมาเรียบเรียงจารลงในใบลานให้เป็นลายลักษณ์อักษร แต่กระนั้นก็ยังคงกลิ่นอายของตำนานบอกเล่าอยู่อย่างมาก
ตำนานภายในเมืองลองโดยเฉพาะตำนานประเภทมุขปาฐะ(บอกเล่า) นิยมกล่าวถึง “พระเจ้ากกุสันธะ” พระพุทธเจ้าองค์แรกในภัทรกัปนี้ หรือ “พระนางจามเทวี” ปฐมกษัตริย์แคว้นหริภุญไชย เป็นตัวเดินเรื่องโดยมีเค้าโครงเรื่องเหมือนกัน ตำนานฉบับนี้ก็เช่นกันแต่เดิมเมื่อครั้งเป็นตำนานบอกเล่า ผู้เล่าอาจให้พระเจ้ากกุสันธะหรือพระนางจามเทวีองค์ใดองค์หนึ่งเป็นตัวเดินเรื่อง แต่เมื่อได้นำมาบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรจึงนำมากล่าวรวมกัน คือ ให้ทั้ง “พระเจ้ากกุสันธะ” และ “พระนางจามเทวี” เสด็จมาพร้อมในคราวเดียวกัน ผู้เขียนขอเน้นย้ำว่าตำนานบ่อเหล็กเมืองลองและบ้านนาตุ้ม เมืองลอง ฉบับนี้ อาจไม่ใช่การบันทึกทางประวัติศาสตร์ที่ต้องการเสนอความจริงทั้งหมด แต่บรรพบุรุษในอดีตใช้เป็นเพียงคำอธิบายถึงที่มา ให้ความสำคัญ เน้นย้ำความเก่าแก่ และแสดงถึงความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันของสถานที่ของชุมชนต่างๆ ของชุมชน[1]
พระเจ้ากกุสันธะ นายสมศักดิ์ และพระนางจามเทวี เสด็จมาเมืองลองบัวราณมาตั้งบ้านทีแรกฅนเชียงใหม่มาตั้งลี้เสิก็ม่านมาไท 1992 ปีมานี้ ทีแรก พ.ศ. 115 ปี 1.นายสุธัมม์ 2.นายอนันต์ 3.แม่ฅำแฮ 3 ครอบครัวมาตั้งอยู่ที่บ้านยังบ่มีชื่อบ้านคำเทื่อ พ.ศ. 425 ปีมาตั้งบ้านนาทุ้ม(บ้านนาตุ้ม ในปัจจุบันมี 4 หมู่บ้าน คือ บ้านนาตุ้มหมู่ที่ 1 หมู่ที่ 2 หมู่ที่ 3 (บ้านทุ่งเจริญ) และหมู่ที่ 9 ตำบลบ่อเหล็กลอง อำเภอลอง จังหวัดแพร่) พระพุทธเจ้า กับนายสมสักดิ์ นางจามเทวี ฅนทังหลายมาเซาะหาหนองอ้อ ทีแรกมานอนที่วังทะครัวแม่ยม กินเข้างายแล้วพากันขึ้นห้วยมา ขึ้นแง่ซ้ายมาด้วนกลับล่องห้วยขึ้นแง่ขวามาแผวผาขวางอยู่น้อย 1 พระเจ้าก็หนาวเอาผ้ามาทุ้มอุ่นแล้วขึ้นมาแถมแผวสบห้วยก็ปวดน่อง เอาผ้าเข้าคั้นมันอุ่นหายปวดไป พากันล่องห้วยมาที่ปางพระพุทธเจ้าคึดว่าไปมาเปนห้วยแม่ลองทั้ง 2 ห้วย
พญายักษ์บ่อเหล็กเมืองลองพบพระเจ้ากกุสันธะ
พระญายักข์ได้พบพระเจ้าที่ห้วยแม่ลอง ว่าท่านจะไปไหน พระเจ้าก็ว่าเรานี้มาเซาะหาหนองอ้อ พระญายักข์ก็ว่ากูอยากกินตับมึงแท้ พระเจ้าก็ลุกขึ้นจกเอาตับหื้อผียักข์กิน ผียักข์ก็รับเอาตับพระเจ้ามากิน กินบ่ได้เปนตับเหล็ก ผียักข์ก็ยอมือขึ้นไหว้พระเจ้าขอขืน พระเจ้าว่าขืนบ่ได้ ขอนี้แพงเหลือซื้อ ผียักข์ก็ยอมือกราบไหว้ว่า ภันเตภะคะวา เจ้ากูจักยะชาใด พระเจ้าก็หันแร่เหล็กที่ดอยขุนห้วยแม่ลอง เอาตับแห่งท่านมาเปาะแร่เหล็ก แล้วบอกหื้อผียักข์หื้อมึงเฝ้าที่ดอยบ่อแร่นี้ 10 ปีก็ช่าง 20 ปีก็ช่างหื้อมึงเฝ้าอยู่นี้ เหล็กเสี้ยงเมื่อใดหื้อมึงหนีเมื่อนั้นเนอ
เมนูนำทาง
บ่อเหล็กลอง ประวัติใกล้เคียง
บ่อเหล็กน้ำพี้ บ่อเหล็กลอง บ่อหาน บ่อเต็นแหล่งที่มา
WikiPedia: บ่อเหล็กลอง