ปกรณ์ เปรมภักดิ์ ชื่อเล่น บาสเท้าข้างถนัด: เล่นได้ทั้งซ้ายและขวาตำแหน่ง: กองหน้า-ริมเส้นด้านขวาจุดเด่น:ยิงลูกนิ่ง ฟรีคิก ลูกโยนริมเส้นนักเตะที่ชื่นชอบ:เดวิด เบคแฮมบุตรชายคนเดียวของคุณแม่ลัดดาวัลย์ พลอยประดับ กับคุณพ่อจิรวัฒน์ เปรมภักดิ์(ปัจจุบันคุณพ่อเป็นโค้ชฟุตบอลที่โรงเรียนสามโคก อบจ.ปทุมธานี)ฝึกฟุตบอลครั้งแรกกับคุณพ่อจิรวัฒน์ เปรมภักดิ์จากนั้นมาเรียนอะคาเดมี่ฟุตบอลกับทีมรวมมณี จันทบุรีชั้นประถมศึกษาตอนต้นเรียนที่โรงเรียนศักดิเดช อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรีชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลายโรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สวนกุหลาบวิทยาลัย ปทุมธานีปัจจุบันกำลังศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยราชพฤกษ์แชมป์ฟุตซอล กทม.ลีก รุ่น 12ปี ชนะโรงเรียนปทุมคงคาแชมป์ไพร์สมินิสเตอร์ ปทุมธานี รุ่น14,16,18 ปีเซ็นสัญญานักเตะอาชีพครั้งแรกกับสโมสรฟุตบอลอินทรีเพื่อนตำรวจเมื่อปี2555(2012)กับพลตำรวจเอกวรพงษ์ ชิวปรีชา ประธานสโมสรฟุตบอลอินทรีเพื่อนตำรวจชุดแชมป์ฟุตบอลยามาฮ่าลีกวัน ดิวิชั่น12015(2558)ในนามสโมสรฟุตบอลเพื่อนตำรวจ Police Unitedจนกระทั่งปี2559(2016)สัญญานักเตะกับสโมสรเพื่อนตำรวจได้สิ้นสุดก็ได้รับการทาบทามจาก มาดามแป้ง-นวลพรรณ ล่ำซ่ำ ประธานสโมสรฟุตบอลการท่าเรือเอฟซีให้มาเป็นส่วนหนึ่งสิงห์เจ้าท่า

นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาโดยครั้งแรกใส่เสื้อหมาย9 ปัจจุบันสวมใส่เสื้อหมายเลข7ในปัจจุบัน

วันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2554 ปกรณ์ได้ทำหน้าที่ให้แก่ทีมชาติไทย ยู-19 ปี

ในการแข่งขันฟุตบอลนัดอุ่นเครื่อง ที่สนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน โดยทีมของเขาเป็นฝ่ายชนะทีมชาติญี่ปุ่น ด้วยผลการแข่ง 1 ประตูต่อ 0 [1] จากนั้นในเดือนตุลาคม2554 ปกรณ์ได้เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลแม่โขงคัพ ที่ประเทศกัมพูชา โดยได้พบกับทีมชาติพม่า ในรอบชิงชนะเลิศ และทีมของเขาได้ตำแหน่งรองแชมป์ โดยเป็นฝ่ายแพ้ในช่วงต่อเวลา ด้วยผลการแข่งที่ 1 ประตูต่อ 2 แต่ปกรณ์ เปรมภักดิ์ ได้รับรางวัลดาวซัลโว รองเท้าทองคำ[2]

ปกรณ์ เปรมภักดิ์ เคยทำหน้าที่ให้แก่ทีมชาติไทย ยู-19 ปี ในวันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 ของการแข่งขันฟุตบอลเยาวชนชิงแชมป์เอเชีย 2012 รอบคัดเลือก เขาได้เป็นผู้ทำประตูชัยให้แก่ทีมชาติไทยเมื่อครั้งที่พบกับทีมชาติจีนไทเป[3][4] รวมถึงในวันที่ 5 พฤศจิกายน ของรายการเดียวกันนี้ เขาได้เป็นหนึ่งในผู้ทำประตูชัยให้แก่ทีมชาติไทย เมื่อครั้งที่พบกับฟุตบอลทีมชาติกวม โดยเขาสามารถทำได้ถึง 4 ประตู[5] และใน พ.ศ. 2556 เขาได้รับการเปิดตัวในฐานะนักฟุตบอลทีมชาติชุดใหญ่ครั้งแรกเมื่อครั้งที่พบกับทีมชาติจีน ซึ่งทีมชาติไทยเป็นฝ่ายชนะด้วยผลการแข่ง 5 ประตู่อ 1

วันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 ปกรณ์ยังเป็นหนึ่งในผู้ทำประตูเมื่อครั้งที่พบกับทีมชาติหมู่เกาะแฟโรให้แก่ทีมชาติไทย ยู-23 ปี ในการแข่งขันนัดอุ่นเครื่องปรีซีเกมส์ ที่จัดขึ้น ณ สนามศุภชลาศัย[6] นอกจากนี้ เขายังได้รับเลือกให้เป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติไทยในการแข่งขันเมอร์เดกาคัพ 2013 ที่ประเทศมาเลเซีย โดยปกรณ์เป็นผู้ทำประตูชัยเมื่อครั้งที่พบกับทีมชาติสิงคโปร์ ยู-23 ปี ในการแข่งขันดังกล่าว[7][8][9] รวมถึงได้เป็นตัวแทนของทีมชาติไทย ยู-23 ปี ในการแข่งขันซีเกมส์ 2013 โดยที่เขาได้มีอาการบาดเจ็บจากการแข่งขันในรอบแรก[10][11][12][13]

เดือนมกราคม พ.ศ. 2557 ปกรณ์ได้ทำหน้าที่ให้แก่วิทยาลัยราชพฤกษ์ในการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 41 และเป็นหนึ่งในผู้ทำประตูชัยให้แก่ทีมเมื่อครั้งที่พบกับทีมมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์[14] จากนั้น ในเดือนมีนาคมของปีเดียวกัน ปกรณ์ได้ทำหน้าที่ให้แก่สโมสรฟุตบอลเพื่อนตำรวจหลังจากหายบาดเจ็บ โดยเขาเป็นผู้มีส่วนช่วยให้ทีมของเขาเป็นฝ่ายชนะทีมสโมสรฟุตบอลแอร์ฟอร์ซ เอวิเอ ด้วยการยิงประตูจากที่ระยะกว่า 40 หลา[15]

ผลงานการทำประตูในระดับนานาชาติ

รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี