ตัวอย่างเนื้อหา ของ ปรมัตถทีปนี

ตัวอย่างจากโลภสูตร ในขุททกนิกาย อิติวุตตกะ เอกนิบาต ปาฏิโภควรรคที่ 1 ซึ่งว่าด้วยการว่าด้วยละโลภะได้เป็นพระอนาคามี ซึ่งขนาดสั้นมาก แต่ปรมัตถทีปนี ภาคอิติวุตตกวรณนา ได้ให้อรรถาอธิบายที่ครอบคลุมและกว้างขวางขึ้น โดยมีการนิยามศัพท์ คือคำว่า "ภควา" คำว่า "อรหัง" คำว่า "ปาฏิหาริย์" เป็นต้น มีการแสดงประวัตินางขุชชุตตรา อุบาสิกาผู้เป็นเอตทัคคะในฝ่ายผู้แสดงธรรม และเป็นผู้กล่าวคำนิทาน หรือที่มาของพระสูตรนี้ [5]

นอกจากนี้ ยังมีการอธิบายว่า สาเหตุที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายว่า "ภิกฺขเว" หรือ "ภิกษุทั้งหลาย" เมื่อจะทรงแสดงธรรมโดยไม่ทรงแสดงธรรมทีเดียว เพราะเพื่อให้เกิดสติ ด้วยว่าภิกษุทั้งหลาย อาจกำลังนั่งคิดอย่างอื่นบ้าง นั่งพิจารณาธรรมบ้าง นั่งมนสิการกรรมฐานบ้าง หากพระผู้มีพระภาคเจ้าไม่ตรัสเรียกก่อน ทรงแสดงธรรมไปเลย ภิกษุทั้งหลายไม่อาจกำหนดได้ว่า เทศนานี้มีอะไรเป็นเหตุ มีอะไรเป็นปัจจัย ดังนี้ [6]

ต่อมามีการขยายความข้อธรรมที่เกี่ยวกับการบรรลุมรรคผลเป็นพระอนาคามี ตามพุทธพจน์ว่า "โลภํ ภิกฺขเว เอกธฺมมํ ปชหถ อหํ โว ปาฏิใภโค อนาคามิตาย ดูก่อน ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอละธรรมอย่างหนึ่ง คือ โลภะได้ เราเป็นผู้รับรองพวก เธอเพื่อความเป็นพระอนาคามี" ซึ่งโดยพระอรรถกถาจารย์ อธิบายเพิ่มเติมว่า ผู้เห็นแจ้งในอุปทานขันธ์ 5 ว่าไม่เที่ยง รู้ทันความโลภ ด้วยการกำหนดรู้ด้วยการรู้ และด้วยการกำหนดรู้ด้วยการพิจารณาด้วยปัญญา ย่อมละกิเลสที่เหลือไม่ให้เกิดขึ้นในสันดานของตนอีกต่อไป ย่อมไม่มาสู่โลกนี้อีกในกาลไหนๆ [7]