ภูมิหลัง ของ ประธานศาลสูงสุดสหรัฐ

รัฐธรรมนูญสหรัฐมิได้สถาปนาตำแหน่งประธานศาลสูงสุดไว้โดยชัดแจ้ง ทว่า กล่าวเป็นนัยถึงการมีอยู่ของตำแหน่งนี้ไว้ในบทบัญญัติเพียงมาตราเดียว คือ หมวด 1 มาตรา 3 ข้อ 6 ซึ่งว่า "ในการพิจารณาคดีเกี่ยวกับประธานาธิบดีสหรัฐนั้น ให้ประธานศาลสูงสุดนั่งเป็นประธาน" และไม่มีกล่าวถึงอีกเลย แม้แต่ความต่างระหว่างประธานศาลสูงสุดกับตุลาการสมทบในศาลสูงสุดก็มิได้เอ่ย

แต่เดิมในภาษาอังกฤษ ชื่อตำแหน่งนี้ใช้ว่า "Chief Justice of the Supreme Court of the United States" ต่อมา มาตรา 1 ใน ลักษณะ 28 ของรัฐธรรมนูญสหรัฐ เปลี่ยนไปใช้ว่า "Chief Justice of the United States" ตามข้อเสนอของ แซลเมิน พี. เชส (Salmon P. Chase) ประธานศาลสูงสุดคนที่หก ผู้ต้องการเน้นย้ำบทบาทฝ่ายตุลาการให้เสมอกับฝ่ายบริหาร ที่ตำแหน่งประธานาธิบดีใช้ว่า "President of the United States" อย่างไรก็ดี ตำแหน่งตุลาการสมทบในศาลสูงสุด ในภาษาอังกฤษยังคงใช้ว่า "Associate Justices of the Supreme Court of the United States" มิใช่ "Associate Justices of the United States" และอันที่จริงแล้ว ประธานศาลสูงสุดเป็นตำแหน่งในฝ่ายตุลาการตำแหน่งเดียวที่รัฐธรรมนูญสหรัฐอ้างถึงโดยใช้คำว่า "Justice" (คำว่า "justice" ย่อมาจาก arbiter of justice มีความหมายไปในทางยกย่อง[1]) ส่วนตุลาการคนอื่น ใช้คำว่า "Judge" (คำว่า "justice" และ "judge" ในภาษาไทย ไม่มีความต่าง แปลอย่างเดียวกัน คือ ผู้พิพากษา หรือตุลาการ)

เช่นเดียวกับตุลาการศาลสหรัฐทั้งมวล ประธานศาลสูงสุดได้มาโดยวิธีที่ประธานาธิบดีสหรัฐเสนอชื่อให้วุฒิสภาให้ความเห็นชอบ รัฐธรรมนูญสหรัฐว่า "บรรดาตุลาการศาลสูงสุดทุกคน ให้อยู่ในตำแหน่งตราบที่มีสภาวการณ์อันดี" หมายความว่า ตุลาการเหล่านั้นจะพ้นจากตำแหน่งเมื่อตาย เมื่อลาออก หรือเมื่อฝ่ายนิติบัญญัติไต่สวนและลงโทษ ส่วนเงินเดือนของประธานศาลสูงสุดนั้น รัฐสภาสหรัฐกำหนด ซึ่งจะสูงกว่าของตุลาการสมทบในศาลสูงสุดเพียงเล็กน้อย โดยนับแต่ ค.ศ. 2010 สืบมา ประธานศาลสูงสุดได้รับเงินปีละ 223,500 ดอลลาร์สหรัฐ[2]

ว่ากันทางประเพณีแล้ว อำนาจแต่งตั้งประธานศาลสูงสุดเป็นของประธานาธิบดี แต่ก็รัฐธรรมนูญก็มิได้ห้ามใช้กระบวนการเลือกสรรอย่างอื่นนอกจากการที่ประธานาธิบดีเสนอชื่อให้ฝ่ายนิติบัญญัติรับรอง ดังนั้น จึงมีนักวิชาการบางคนเสนอว่า ควรให้ฝ่ายตุลาการเลือกประธานศาลสูงสุดกันเอง แล้วเสนอชื่อให้ประธานาธิบดีแต่งตั้ง ไม่ต้องให้ผู้ใดรับรองอีก[3]

มีประธานศาลสูงสุดบางคน เช่น วิลเลียม เรห์นควิสต์ (William Rehnquist) เลื่อนมาจากตำแหน่งตุลาการสมทบในศาลสูงสุด ในกรณีเช่นนี้ จำต้องได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภา ถ้าวุฒิสภาไม่เห็นชอบ ก็จะกลับไปดำรงตำแหน่งตุลาการสมทบดังเดิม ประธานศาลสูงสุดส่วนใหญ่ ซึ่งรวมถึง จอห์น รอเบิตส์ (John Roberts) ได้รับแต่งตั้งมาโดยยังไม่เคยปฏิบัติหน้าที่ในศาลสูงสุดมาก่อน ขณะที่บางคน เช่น เอิร์ล วาร์เรน (Earl Warren) ไม่เคยมีประสบการณ์ด้านตุลาการเลย

ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา มีบุคคลสิบแปดคนได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งนี้ และได้รับความเห็นชอบ แต่มีเพียงหนึ่งคนที่ไม่ได้ดำรงตำแหน่งจริง คือ วิลเลียม คัชชิง (William Cushing) ซึ่งได้รับเลือกในเดือนมกราคม ค.ศ. 1796 แต่ปฏิเสธไม่รับตำแหน่ง โอลิเวอร์ เอลส์เวิร์ธ (Oliver Ellsworth) จึงเข้าสู่ตำแหน่งแทน ทว่า วุฒิสภาไม่รับรองเขา และเห็นชอบให้ จอห์น เจย์ (John Jay) กลับมารับตำแหน่งประธานศาลสูงสุดอีกครั้ง และจอห์น เจย์ ก็บอกปัดตำแหน่งอีกคน ให้เหตุผลว่า สุขภาพเขากำลังย่ำแย่ และตำแหน่งในศาลสูงสุดนั้นไร้เกียรติยศตามความคิดเห็นของเขา ที่สุด จอห์น มาร์แชล (John Marshall) จึงได้รับการเสนอชื่อและความเห็นชอบต่อมา

เมื่อประธานศาลสูงสุดอสัญกรรมในตำแหน่ง หรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ หรือไม่สมัครใจปฏิบัติหน้าที่ ตุลาการสมทบในศาลสูงสุดคนที่มีอาวุโสมากที่สุดจะปฏิบัติหน้าที่แทนไปพลางก่อน จนกว่าจะได้ประธานศาลสูงสุดคนใหม่[3]

ใกล้เคียง

ประธานาธิบดีสหรัฐ ประธานรัฐสภาไทย ประธานาธิบดีเม็กซิโก ประธานาธิบดีเปรู ประธานาธิบดีลาว ประธานาธิบดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ประธานศาลสูงสุดสหรัฐ ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส