เศรษฐกิจและการค้า ของ ประเทศลิทัวเนีย

  • สกุลเงินยูโร (EUR) เริ่มใช้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 แทนเงินสกุลลีตัส (Litas)
  • ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) 22.287 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (GDP ต่อหัว 6487 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อปี)
  • อัตราการเจริญเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ ร้อยละ 6.7
  • อัตราเงินเฟ้อ ร้อยละ 2.9
  • อัตราการว่างงาน ร้อยละ 11.4 (จำนวนแรงงาน 1.5 ล้านคน)
  • ดุลการค้า ขาดดุล 3.14 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
  • นำเข้า/ส่งออก 12.78 และ 9.64 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
  • ประเทศคู่ค้านำเข้าสำคัญ รัสเซีย (ร้อยละ 22.34) เยอรมนี (ร้อยละ 16.89) โปแลนด์ (ร้อยละ 7.56) เนเธอร์แลนด์ (ร้อยละ 3.95) ลัตเวีย (ร้อยละ 3.8)/ ประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป (ร้อยละ 63)
  • ประเทศคู่ค้าส่งออกสำคัญเยอรมนี (ร้อยละ 10.24) ลัตเวีย (ร้อยละ 10.06) รัสเซีย (ร้อยละ 9.10) ฝรั่งเศส (ร้อยละ 6.31) สหรัฐอเมริกา (ร้อยละ 5.32)/ ประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป (ร้อยละ 66.45)
  • สินค้านำเข้าสำคัญ ผลิตภัณฑ์แร่ธาตุ เครื่องจักร เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบ อุปกรณ์ที่ใช้ในการขนส่ง เคมีภัณฑ์ โลหะ
  • สินค้าส่งออกสำคัญ ผลิตภัณฑ์แร่ธาตุ เครื่องจักร เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์สิ่งทอ อุปกรณ์ที่ใช้ในการขนส่ง เคมีภัณฑ์

การท่องเที่ยว

การเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยของชาวลิทัวเนียเริ่มขึ้นในปี 2533 จากสถิติในปี 2542 มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางมาไทยจำนวน 478 คน ในปี 2544 มีจำนวน 616 คนซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2543 ร้อยละ 20.55 ในปี 2545 มีจำนวน 683 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.88 และในปี 2546 มีจำนวน 575 คน ลดลงร้อยละ 15.81 สำหรับในช่วงมกราคม-ตุลาคม ปี 2547 มีนักท่องเที่ยวชาวลิทัวเนียเดินทางมาประเทศไทยทั้งหมด 658 คน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2546 ร้อยละ 55.56 ในช่วงแรกประเทศไทยได้รับความนิยมจากชาวลิทัวเนียในฐานะที่เป็นแหล่งการค้า อย่างไรก็ดี ในปัจจุบันชาวลิทัวเนียเดินทางมายังประเทศไทยในฐานะนักท่องเที่ยวมากขึ้น แหล่งท่องเที่ยวที่นิยม คือ กรุงเทพฯ พัทยา ภูเก็ต เกาะสมุย และชาวลิทัวเนียนิยมท่องเที่ยวในลักษณะแบบครอบครัว และการท่องเที่ยวในรูปแบบผจญภัยเช่น ดำน้ำ ล่องแก่ง และปีนภูเขา