สำนักความคิดในสมัยโชซอน ของ ปรัชญาเกาหลี

ราชวงศ์นี้เกิดขึ้นจากระบอบเผด็จการทหารและความวุ่นวายในยุคก่อนหน้า ยุคนี้เป็นการเปลี่ยนผ่านจากพุทธศาสนาเข้าสู่ลัทธิขงจื่อใหม่ มีการเขียนผลงานจำนวนมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งความคิดเห็น และสำนักจูซี เป็นตัวแทนยุคทองของปรัชญาและศาสนาของเกาหลีอย่างแท้จริง การค้นหาเชิงอภิปรัชญาในเวลานี้ได้ทำการตรวจสอบความสัมพันธ์เชิงเทววิทยาระหว่างธรรมชาติดั้งเดิม (이 - อี) กับ ลักษณะทางกายภาพ (기 - คี) และระหว่างแหล่งกำเนิดทั้งสี่ (사단) กับความรู้สึกทั้งเจ็ด (칠총) ลัทธิขงจื่อแห่งโชซอนแบ่งออกเป็นสองสำนักหลัก ได้แก่ : "สำนักพลัง" และ "สำนักหลักการ" ฮวาดัม (Suh Kyungduk, 1489-1546) ผู้ซึ่งเป็นนักปรัชญา ได้นำ "ธรรมชาติดั้งเดิม" (อี) กับ "ลักษณะทางกายภาพ" (คี) มารวมกันและกล่าวถึงการประสานกลมกลืนที่ยิ่งใหญ่ (대화 - แทฮวา)

ในการถกเถียงเรื่องพลังทั้งสี่และอารมณ์ทั้งเจ็ดกับคีแดซอง, ทอ-กฺเย (Yi Hwang, 1501 - 70) ในขณะที่การดำรงอยู่ยังคงเป็นสิ่งตรงกันข้าม โดยแยกตัวออกจากจูซี โดยสนับสนุนแหล่งกำเนิด (호발 - โฮบัล) ของธรรมชาติดั้งเดิม (이 - อี) และลักษณะทางกายภาพ (기 - คี) ที่ให้อิทธิพลซึ่งกันและกัน เมื่อธรรมชาติดั้งเดิมถือกำเนิดขึ้น ก็จะทำให้เกิดลักษณะทั้งสี่ เมื่อลักษณะทั้งสี่หลั่งไหลออกมา ก็จะทำให้เกิดอารมณ์ทั้งเจ็ด ธรรมชาติดั้งเดิมทำให้เกิดลักษณะทางกายภาพ แม้ว่าเขาจะวิจารณ์แนวคิดของทอ-กฺเย ที่ว่าลักษณะทางกายภาพเกิดจากธรรมชาติดั้งเดิมซึ่งดำรงอยู่ภายใต้สภาวะตรงข้าม แต่กระนั้นยุล-กก - 율곡 (Yi I, 1536 - 84) ยังคงใช้ความคิดของเขาที่ว่า "ธรรมชาติดั้งเดิมทำให้เกิดลักษณะทางกายภาพ" มีเพียงลักษณะทางกายภาพเท่านั้นที่ไหลออกมาได้ และธรรมชาติดั้งเดิมจะเคลื่อนย้ายออกมาจากแหล่งกำเนิด ธรรมชาติดั้งเดิมและลักษณะทางกายภาพไม่ใช่ทั้ง "สองสิ่ง" หรือ "สิ่งเดียว" ตามที่ปรากฏในตำรา "การรวมตัวอย่างมหัศจรรย์' (묘합 - มฺโย-ฮับ) สำหรับยุล-กก ธรรมชาติดั้งเดิม (อี) และลักษณะทางกายภาพ (คี) รวมกันเป็นธรรมชาติของมนุษย์เพียงหนึ่งเดียว ความคิดของทอ-กฺเย และ ยุล-กก ถูกหลอมรวมเข้าด้วยกันอย่างลงตัว และกลายเป็นจุดสุดยอดของลัทธิขงจื่อใหม่แห่งเอเชียตะวันออกโดยแสดงความชำนาญทางด้านวิภาษวิธีในการเชื่อมโยงแนวคิดของธรรมชาติดั้งเดิมและลักษณะทางกายภาพ ซึ่งขยายความได้ชัดเจนกว่าของจีน

ทอ-กฺเย ได้พัฒนาแนวคิดของนักขงจื่อใหม่ในเรื่องความใจกว้างหนึ่งเดียว (경 - คยฺอง) ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงความเป็นมนุษย์ที่ชัดเจน ดังที่ได้แสดงโดยการปฏิเสธทั้งหมดของอาณัติของสวรรค์ (준명 - ชุน-มยฺอง) ซึ่งยังคงยึดถือหลักการของจีนอันรวมไปถึงจูซี หลักการคยฺองของทอ-กฺเย ได้นำความรู้สึกจงรักภักดีอย่างเข้มข้นและความพยายามสูงสุด (치성 - ชีซอง) ของเกาหลียุคแรกมาสังเคราะห์เข้ากับแนวคิดการถือครองใจ (직경 - จี-คยฺอง) ของลัทธิขงจื่อ เขาได้สนับสนุนความพยายามในตนเองเพื่อการสร้างชีวิตที่มีความหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งแนวคิดความใจกว้างหนึ่งเดียวซึ่งต่อมาได้ให้อิทธิพลต่อนักขงจื่อใหม่ชาวญี่ปุ่นในยุคโทขุงาวะ

นักขงจื่อใหม่ชาวเกาหลีส่วนมากได้แบ่งปันความหมกมุ่นของทอ-กฺเยด้วยความใจกว้างเพียงหนึ่งเดียวซึ่งส่งสัญญาณการตอกย้ำเกี่ยวกับความจริงในการพัฒนาของลัทธิขงจื่อใหม่แบบเกาหลี การหลอมรวมแนวคิดทางอภิปรัชญาและทางกายภาพ เป็นการนำมาปฏิบัติผ่านความคิด ซึ่งสำคัญเทียบเท่ากับตัวทฤษฎี นี่เป็นประเด็นของการบูรณาการความจริงใจ (성 - ซอง) ด้วยความใจกว้างหนึ่งเดียวของยุล-กก ในแง่นี้ลัทธิขงจื่อใหม่แบบเกาหลีได้ทำลายหลักการดั้งเดิมของสำนักเฉิง-จูแห่งลัทธิขงจื่อใหม่แบบจีน ซึ่งเน้นการคาดเดามากเกินไป

ในยุคโชซอนตอนปลาย ขบวนการซิลฮักซึ่งเป็นรูปแบบของลัทธิขงจื่อใหม่ได้ปรากฎออกมา หนึ่งในนักปรัชญา ซิลฮักที่โดดเด่นที่สุด คือ ชองยักยง