ประวัติ ของ ปลาซาร์ดีน

ปลาซาร์ดีนว่ายน้ำโดยใช้ตัว-ครีบหาง (body-caudal fin locomotion) และทำตัวเพรียวโดยแนบครีบครีบอื่น ๆ ไว้ที่ตัว

ประวัติการประมงปลาซาร์ดีนในสหราชอาณาจักร

การประมงและแปรรูปปลาพิวชาร์ดได้กลายเป็นอุตสาหกรรมที่เฟื่องฟูในเทศมณฑลคอร์นวอลล์ ประเทศอังกฤษเริ่มจากราว ๆ ปี 1750 จนถึง 1880 แต่หลังจากนั้นปลาก็น้อยลงเรื่อย ๆ จนเกือบหมดลงปลาที่จับได้จะต่าง ๆ กันแต่ละปี ในปี 1871 จับปลาได้เป็นจำนวน 47,000 ถัง (hogshead) เทียบกับปี 1877 ที่จับได้เพียง 9,477 ถังถัง ๆ หนึ่งจะมีปลาซาร์ดีน 2,300-4,000 ตัว และถ้าอัดปลาให้แน่น ก็จะหนัก 476 ปอนด์ (216 กก.)ปลาโดยมากส่งออกไปยังประเทศคริสตังเช่น อิตาลีและสเปน ซึ่งเรียกปลาว่า fermadesตลาดหลักสำหรับน้ำมันปลาก็คือเมืองบริสตอลในอังกฤษ โดยมากใช้เป็นน้ำมันเครื่องยนตร์[72]ตั้งแต่ปี 1997 ปลาซาร์ดีจากคอ์นวอลล์ขายเป็น "Cornish sardines" (ปลาซาร์ดีนคอร์นิช) และตั้งแต่เดือนมีนาคม 2010 ก็ได้กลายเป็นปลาที่มีชื่อคุ้มกันซึ่งเขตภูมิภาคอื่น ๆ ใช้ไม่ได้ (Protected Geographical Status) ตามกฎหมายของสหภาพยุโรป[73]

อุตสาหกรรมพื้นบ้านนี้ปรากฏในงานศิลป์ต่าง ๆ มากมาย (โดยเฉพาะของ Stanhope Forbes และของช่างศิลป์สำนัก Newlyn School)เพลงพื้นบ้าน "Toast to Pilchards" มุ่งหมายการส่งออกปลาไปยังประเทศคริสตังในยุโรป คือ

"Here's health to the Pope, may he live to repentพระสันตะปาปาจงทรงพระเจริญ ขอให้พระองค์มีพระชนม์ชีพเพื่อได้สำนึกบาป And add just six months to the term of his Lent และเพื่อเพิ่มระยะเทศกาลมหาพรตของพระองค์อีก 6 เดือน And tell all his vassals from Rome to the Poles, และเพื่อตรัสบอกข้าบริพารของพระองค์เริ่มตั้งแต่โรมจนถึงคนโปแลนด์ There's nothing like pilchards for saving their souls!" ว่าไม่มีอะไรไถ่บาปได้เหมือนกับปลาพิวชาร์ดอีก![74]

ประวัติการประมงปลาซาร์ดีนในสหรัฐ

ในสหรัฐ อุตสาหกรรมอัดปลาซาร์ดีนใส่กระป๋องได้เจริญสุดในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1950แต่จากนั้นเป็นต้นมาก็เสื่อมลงเรื่อย ๆ โรงงานอัดกระป๋องในอ่าวมอนเตอเรย์ (แคลิฟอร์เนียตอนเหนือ) ซึ่งเป็นที่ดำเนินเรื่องของนิยาย Cannery Row (แปลในชื่อวิมานคนยาก พ.ศ. 2526 โดยณรงค์ จันทร์เพ็ญ) ของจอห์น สไตน์เบ็ค ได้ยุติดำเนินการตั้งแต่กลางคริสต์ทศวรรษ 1950ส่วนโรงงานอัดปลาซาร์ดีนใส่กระป๋องใหญ่ที่สุดในสหรัฐ คือ Stinson Seafood plant ในรัฐเมนได้ยุติดำเนินการในวันที่ 15 เมษายน 2010 หลังจากทำการมาแล้ว 135 ปี[75]

กลางเดือนเมษายน 2015 สภาบริหารการประมงแปซิฟิก (Pacific Fishery Management Council) ได้สั่งสำนักงานการประมงของ NOAA (National Oceanic and Atmospheric Administration) ให้ยุติฤดูการประมงในรัฐออริกอน วอชิงตัน และแคลิฟอร์เนียเพราะจำนวนปลาได้ลดลงอย่างน่าตกใจโดยมีผลต่อเรือประมง 100 ลำที่มีใบอนุญาต แม้จริง ๆ จำนวนน้อยกว่านั้นกำลังจับปลาอยู่ในขณะนั้นฤดูการประมงปกติจะยุติวันที่ 30 มิถุนายน[76]ตอนนั้นคาดว่าจะห้ามจับปลาเกินกว่าปี แต่ก็ยังห้ามอยู่จนถึงเดือนพฤษภาคม 2019[77]

แหล่งที่มา

WikiPedia: ปลาซาร์ดีน http://www.bbcgoodfood.com/content/knowhow/glossar... http://cuptv.com/play/694/18416/%E0%B8%AD%E0%B8%B1... http://www.eatingwell.com/nutrition_health/nutrien... http://www.etymonline.com/index.php?term=sardine http://www.livestrong.com/article/276201-sardine-b... http://www.mailtribune.com/apps/pbcs.dll/article?A... http://www.msnbc.msn.com/id/36503650/ns/business-u... http://www.whfoods.com/genpage.php?tname=nutrient&... http://itpedia.nyu.edu/wiki/Stinky_Sardine_Club http://stephanus.tlg.uci.edu/lsj/#eid=95990