ปลาที่มีครีบเป็นพู่ หรือ
ปลาครีบเป็นพู่ (
อังกฤษ: Lobe-finned fishes) เป็น
ปลาที่อยู่ใน
ชั้นใหญ่ Sarcopterygii (มาจาก
ภาษากรีกคำว่า σαρξ (sarx), "เนื้อ" และ πτερυξ (pteryx), "ครีบ") หรือในบางครั้งอาจใช้ชื่อว่า Crossopterygii (แปลว่า "Fringe-finned fish", มาจากภาษากรีก κροσσός krossos, "ชายขอบ") เป็นปลาที่มีลักษณะแตกต่างจากปลาในชั้นอื่น ๆ คือ มี
เกล็ดเป็นแบบ Cosmoid มีลักษณะเฉพาะ คือ ครีบที่บริเวณหน้าอก
วิวัฒนาการจากครีบธรรมดา ๆ มาเป็นเสมือน
อวัยวะที่ใช้เคลื่อนไหวได้เหมือนการเดินใน
น้ำ โดยลักษณะของครีบจะเป็นพู่เนื้อหรือ
เนื้อเยื่อ มีความแข็งแรงมาก โดยมีแกน
กระดูก จึงเป็นเสมือนรอยต่อของการวิวัฒนาการของปลาซึ่งเป็น
สัตว์น้ำอาศัยอยู่ในน้ำได้อย่างเดียว ขึ้นมาอยู่บน
บกกลายเป็น
สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำก่อนจะวิวัฒนาการเป็น
สัตว์เลื้อยคลานและสัตว์ในชั้นอื่น ๆ ต่อไปปลาที่มีครีบเป็นพู่ ถือกำเนิดมาในยุค
ซิลูเรียนตอนปลาย (418 ล้านปีก่อน) ใน
ทะเลและค่อยคืบคลานสู่แหล่ง
น้ำจืดที่มีลักษณะเป็นหนองหรือ
คลองบึง สันนิษฐานว่าการที่พัฒนาเช่นนี้ คงเป็นเพราะต้องการหนีจากปลาที่เป็นปลากินเนื้อขนาดใหญ่ที่ครองพื้นที่ทะเลในขณะนั้น เช่น
ดังเคิลออสเตียส เป็นต้นปัจจุบัน ปลาในชั้นนี้ได้
สูญพันธุ์หมดแล้ว คงเหลือไว้เพียง 2 จำพวกเท่านั้น คือ
ปลาซีลาแคนท์ ที่ครั้งหนึ่งเคยเชื่อว่าสูญพันธุ์ไปแล้ว กับ
ปลาปอด ที่กลายมาเป็น
ปลาน้ำจืดอย่างถาวร และได้มีพัฒนา
ถุงลมที่ใช้ในการ
ว่ายน้ำและทรงตัวเหมือนปลาทั่วไป กลายเป็นอวัยวะที่ใช้ในการหายใจคล้ายกับ
ปอดของ
สัตว์บก สามารถแลกเปลี่ยน
ออกซิเจนได้เป็นอย่างดี จึงทำให้อาศัยอยู่ในแหล่งน้ำที่คุณภาพน้ำแย่ มีปริมาณออกซิเจนต่ำได้
[1]