วงจรชีวิตและชนิดพันธุ์ต่างถิ่น ของ ปลาสิงโต

นอกจากนี้แล้ว ปลาสิงโตยังกลายเป็นชนิดพันธุ์ต่างถิ่นในฝั่งทะเลด้านตะวันออกของสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะชนิด ปลาสิงโตปีกจุด (P. volitans) บริเวณแคริบเบียน, ชายฝั่งฟลอริดา และหมู่เกาะต่าง ๆ ในมหาสมุทรแอตแลนติกไปจนถึงตอนเหนือของบราซิล ตามท่าเรือ, ชายหาด หรือแนวปะการังทั้งน้ำตื้นและน้ำลึกถึง 600 ฟุต และยังไม่เป็นที่รู้แน่ชัดว่ามีการแพร่กระจายพันธุ์ข้ามคลองปานามาได้หรือไม่ โดยการพบปลาสิงโตครั้งแรกในฐานะชนิดพันธุ์ต่างถิ่นเกิดขึ้นในฤดูร้อนของปี ค.ศ. 2002 ที่ฟลอริดาโดยนักดำน้ำผู้หญิงคนหนึ่งในยามค่ำคืน เมื่อพบกับปลาที่เธอไม่รู้จัก จนกระทั่งต่อมาทราบว่า คือ ปลาสิงโตนั่นเอง[3] เชื่อว่าเกิดจากการเพาะขยายพันธุ์ของนักเลี้ยงปลาสวยงาม หรือพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำท้องถิ่น แล้วปล่อยลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติหรือหลุดรอดออกมา แต่ในความเห็นของ ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการด้านสมุทรศาสตร์ชาวไทยเชื่อว่า คงเกิดจากเรือบรรทุกน้ำมันที่ดูดไข่ปลาสิงโตหรือตัวอ่อนของปลาซึ่งมีสภาพเป็นแพลงก์ตอนข้ามมหาสมุทรไป[8] ซึ่งปลาสิงโตสามารถที่จะขยายพันธุ์ได้เองในธรรมชาติ โดยวางไข่ในป่าชายเลน ปลาหนึ่งตัวภายในเวลาไม่ถึง 30 นาที สามารถกินลูกปลาหรือปลาขนาดเล็กไปได้ถึง 20 กว่าตัวเลยทีเดียว [9]คิดเป็นร้อยละ 60 ของน้ำหนักตัว กระเพาะอาหารของปลาสิงโตสามารถขยายออกได้ถึง 30 เท่าของขนาดกระเพาะปกติ นอกจากนี้แล้วปลาสิงโตยังเป็นปลาที่มีความสามารถในการสืบพันธุ์สูง ปลาตัวผู้จะเป็นฝ่ายเกี้ยวพาดึงดูดปลาตัวเมีย เมื่อตัวเมียตอบรับจะว่ายขึ้นสู่บน ปล่อยไข่ซึ่งเกาะตัวรวมเป็นเหมือนก้อนวุ้นออกมา ตัวผู้จะปล่อยน้ำเชื้อเข้าไปผสมพันธุ์และปฏิสนธิ ก้อนวุ้นนี้จะลอยน้ำชั่วระยะ ก่อนจะค่อย ๆ แตกตัวสลายไปเป็นไข่และฟักออกเป็นลูกปลาตามกระแสน้ำไปไกล ปลาสิงโตสามารถวางไข่ได้ทุก ๆ 3–4 วัน โดยปริมาณไข่ในแต่ละครั้งนับแสนฟอง ปลาสิงโตตัวเมียสามารถวางไข่ได้ถึงปีละ 2 ล้านฟอง เข้าสู่วัยเจริญพันธุ์เมื่ออายุได้ 1–2 ปี[3] แต่ขณะที่ยังเป็นปลาวัยอ่อน ลูกปลาจะมีสภาพเป็นแพลงก์ตอน และตกเป็นอาหารของสัตว์อื่นได้ [8] การแพร่ระบาดของปลาสิงโตที่มหาสมุทรแอตแลนติกพบมีปลาสิงโตแทบทุกพื้นที่ จนมีการกำจัดที่บาฮามาสโดยรัฐบาลที่นั่นเพื่อควบคุมปริมาณในแนวปะการัง รวมถึงมีการแข่งขันจับมารับประทานเป็นอาหาร และทางบริษัทไบโอบอต ได้จัดตั้งหน่วยงามชื่อ ศูนย์บริการหุ่นยนต์เพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อมทางทะเล ขึ้น โดยผลิตหุ่นยนต์ที่ช่วยในการกำจัดปลาสิงโต โดยการปล่อยประจุไฟฟ้าช็อตตัวปลา ทำให้ปลาเกิดความงุนงงและถูกดูดเข้าไปในแคปซูลของตัวหุ่นยนต์ ซึ่งหุ่นยนต์ตัวนี้มีราคาไม่แพง และใช้การควบคุมจากระยะไกล เหมาะสมกับการใช้โดยชาวประมงท้องถิ่น[10] แต่กระนั้น ปลาสิงโตก็ตกเป็นอาหารของปลาที่มีขนาดใหญ่กว่า เช่น ปลาเก๋า เป็นต้น[3]

ใกล้เคียง