ปลาหมูอารีย์ (
ชื่อวิทยาศาสตร์: Ambastaia sidthimunki) ปลาน้ำจืดขนาดเล็กชนิดหนึ่ง ใน
วงศ์ปลาหมู (Botiidae) มีรูปร่างแบนข้าง ลำตัวเรียวยาวเล็กน้อย ลำตัวมี
สีเหลืองสด หลังและกลางลำตัวมีแถบ
สีดำพาด และมีบั้งสีดำพาดลงมาจากสันหลังถึงด้านท้อง ปากค่อนข้างเรียว มีหนวด 3 คู่ ใต้ตามีกระดูกแข็งอยู่ข้างละคู่ซึ่งสามารถพับเก็บได้ ครีบมีแถบสีดำบนพื้นสีจาง ๆ เป็นปลาขนาดเล็ก มีความยาวเต็มที่ไม่เกิน 10
เซนติเมตร โดยเฉลี่ยจะพบแค่ 2-3 เซนติเมตรเท่านั้นเป็นปลาที่ถูกค้นพบเมื่อปี
พ.ศ. 2502 โดยนายดำริ สุขอร่าม ที่ลุ่ม
แม่น้ำแม่กลอง ในเขต
จังหวัดราชบุรีติดต่อกับเขต
จังหวัดกาญจนบุรี โดยปะปนมากับ
ปลาทรงเครื่อง (Epalzeorhynchos bicolor) ต่อมา นายสมพงษ์ เล็กอารีย์ (ผู้ค้นพบ
ปลาปักเป้าสมพงษ์ (Carinotetraodon lorteti),
ปลาซิวสมพงษ์ (Trigonostigma somphongsi) และ
ปลาตะเพียนสมพงษ์ (Poropuntius melanogrammus)) ได้ส่งตัวอย่างปลาให้แก่ ดร.
ฟอน โวล์ฟกัง เคลาเซวิตซ์ ซึ่งเป็นนัก
มีนวิทยาชาวเยอรมัน ได้ศึกษาถึงลักษณะทางด้าน
อนุกรมวิธาน พบว่าเป็นปลาหมูชนิดใหม่ จึงได้ให้ชื่อ
ชนิดว่า sidthimunki เพื่อเป็นเกียรติแก่ นายอารีย์ สิทธิมังค์ รองอธิบดี
กรมประมงในขณะนั้น และได้เรียก
ชื่อสามัญว่า "ปลาหมูอารีย์"ปลาหมูอารีย์เป็นปลาที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นปลาหมูชนิดที่มีสีสันสวยงามมากที่สุด และสถานภาพใกล้สูญพันธุ์อย่างเต็มที่แล้ว ทั้งนี้เนื่องจากถิ่นที่อยู่ไม่กว้างขวาง โดยพบเฉพาะลุ่มแม่น้ำแม่กลองแถบจังหวัดราชบุรีและลุ่ม
แม่น้ำสาละวินในจังหวัดกาญจนบุรี ในต่างประเทศพบที่แม่น้ำสาขาของ
แม่น้ำโขงบริเวณเมือง
ปากเซ ประเทศลาวเท่านั้น แม้ว่าจะมีรายงานเพิ่มต่อมาในปี
พ.ศ. 2532 ว่าพบใน
ลำน้ำว้า จังหวัดน่านด้วยก็ตาม แต่ปรากฏว่าไม่ใช่ปลาหมูอารีย์ หากแต่เป็น
ปลาหมูน่าน (A. nigrolineata) ซึ่งเป็นปลาหมูใน
สกุลเดียวกัน และมีลักษณะและสีสันคล้ายคลึงกัน สำหรับปลาหมูอารีย์ที่พบในลุ่ม
แม่น้ำน่านจะพบในเขต
จังหวัดพิษณุโลกและ
บึงบอระเพ็ดด้วยดังนั้น ทางกรมประมงจึงได้ออก
กฎหมายคุ้มครองการสูญพันธุ์ของปลาหมูอารีย์ในปี
พ.ศ. 2535 โดยถือเป็นปลาน้ำจืดสงวนทั้งหมด 4 ชนิด ที่ห้ามซื้อขายและห้ามเลี้ยงนอกจากได้รับอนุญาตก่อน (ที่เหลืออีก 3 ชนิดได้แก่
ปลาตะพัด (Scleropages formosus),
ปลาเสือตอลายใหญ่ (Datnioides pulcher) และ
ปลาค้างคาวดอยอินทนนท์ (Oreoglanis siamensis))แต่ปัจจุบัน มีเอกชนที่สามารถเพาะขยายพันธุ์ได้แล้ว และต่อมาทางกรมประมงก็สามารถขยายพันธุ์ได้อีกด้วยเช่นกัน
[2]