ประวัติวิวัฒนาการ ของ ปะการัง

ซากดึกดำบรรพ์ปะการัง Grewingkia

แม้ว่าปะการังจะปรากฏขึ้นมาครั้งแรกในช่วงยุคแคมเบรียนหรือ 542 ล้านปีมาแล้ว[16] some 542 ล้านปีก่อน, แต่ก็พบเป็นซากดึกดำบรรพ์ในปริมาณที่น้อยมากต่อเนื่องจนไปถึงยุคออร์โดวิเชียนหรือประมาณ 100 ล้านปีให้หลัง จากนั้นปะการังรูโกสและปะการังทาบูเลตจึงปรากฏขึ้นมาอย่างแพร่หลาย

ปะการังทาบูเลตจะพบในหินปูนและหินดินดานเนื้อปูนของยุคออร์โดวิเชียนและยุคไซลูเรียนและบ่อยครั้งก็เกิดเป็นรูปหมอนอิงเตี้ย ๆ หรือเป็นกลุ่มก้อนไปตามข้าง ๆ ของปะการังรูโกส จำนวนของมันเริ่มลดลงระหว่างช่วงกลางของยุคไซลูเรียนและท้ายสุดได้สูญพันธุ์ไปเมื่อสิ้นสุดยุคเพอร์เมียนหรือประมาณ 250 ล้านปีมาแล้ว โครงสร้างแข็งของปะการังทาบูเลตประกอบขึ้นด้วยสารแคลเซี่ยมคาร์บอเนตหรือที่เรียกว่าแคลไซต์

ปะการังรูโกสเข้ามาโดดเด่นในช่วงกลางของยุคไซลูเรียนแล้วไปสูญพันธุ์ในช่วงแรก ๆ ของยุคไทรแอสซิก ปะการังรูโกสพบเป็นปะการังที่อยู่อาศัยแบบเดี่ยว ๆ และแบบโคโลนีและเหมือนกับปะการังทาบูเลตที่โครงสร้างแข็งของมันก็ประกอบไปด้วยแร่แคลไซต์

ปะการังสเคอร์แรคติเนียได้เข้าไปแทนที่ที่ว่างลงจากการสูญพันธุ์ไปของปะการังรูโกสและปะการังทาบูเลต ซากดึกดำบรรพ์ที่พบอาจยังมีจำนวนน้อยในหินยุคไทรแอสซิกแต่ได้เพิ่มมากขึ้นจากช่วงยุคจูแรสซิกจนไปถึงยุคถัดมา โครงสร้างแข็งของประการังสเคอร์แรคติเนียนี้ประกอบขึ้นด้วยสารแคลเซียมคาร์บอเนตของแร่อะราโกไนต์[17]ในทางธรณีวิทยาแล้ว แม้ว่าปะการังสเคอร์แรคติเนียจะมีอายุอ่อนกว่าปะการังทาบูเลตและปะการังรูโกส แต่ด้วยโครงสร้างแข็งที่ประกอบด้วยแร่อะราโกไนต์ของมันจึงทำให้มันกลายเป็นซากดึกดำบรรพ์ได้น้อยและมีสภาพซากดึกดำบรรพ์ที่ไม่ค่อยสมบูรณ์

EasyTimeline 1.9


Timeline generation failed: More than 10 errors found
Line 5: id:canvas value:rgb (1,1,1)

- Invalid attribute '(1,1,1)' ignored.

 Specify attributes as 'name:value' pairs.



Line 5: id:canvas value:rgb (1,1,1)

- Color value invalid. Specify constant or 'gray/rgb/hsb(numeric values)'


Line 6: id:period value:rgb (1,0.7,0.7)

- Invalid attribute '(1,0.7,0.7)' ignored.

 Specify attributes as 'name:value' pairs.



Line 6: id:period value:rgb (1,0.7,0.7)

- Color value invalid. Specify constant or 'gray/rgb/hsb(numeric values)'


Line 7: id:era value:rgb (1,1,0.7)

- Invalid attribute '(1,1,0.7)' ignored.

 Specify attributes as 'name:value' pairs.



Line 7: id:era value:rgb (1,1,0.7)

- Color value invalid. Specify constant or 'gray/rgb/hsb(numeric values)'


Line 8: id:corals1 value:rgb (0.6,1,0.6)

- Invalid attribute '(0.6,1,0.6)' ignored.

 Specify attributes as 'name:value' pairs.



Line 8: id:corals1 value:rgb (0.6,1,0.6)

- Color value invalid. Specify constant or 'gray/rgb/hsb(numeric values)'


Line 9: id:corals2 value:rgb (0.7,1,0.7)

- Invalid attribute '(0.7,1,0.7)' ignored.

 Specify attributes as 'name:value' pairs.



Line 9: id:corals2 value:rgb (0.7,1,0.7)

- Color value invalid. Specify constant or 'gray/rgb/hsb(numeric values)'


Line 10: id:corals3 value:rgb (0.8,1,0.8)

- Invalid attribute '(0.8,1,0.8)' ignored.

 Specify attributes as 'name:value' pairs.



Timeline of the major coral fossil record and developments from 650 m.y.a. to present.[18][19]

แม่แบบ:Refsณ ช่วงเวลาหนึ่งๆในทางธรณีวิทยาปะการังในอดีตมีชนิดที่หลากหลายมาก ซึ่งก็เหมือนปะการังในปัจจุบันที่พบได้ในน้ำใส ๆ เฉพาะในเขตร้อนที่มีน้ำอบอุ่น เหมือนกับปะการังในปัจจุบันที่บรรพบุรุษปะการังก็สร้างแนวปะการังขึ้นมา ซึ่งบางทีก็พบอยู่ในโครงสร้างขนาดใหญ่ของหินตะกอน

แนวปะการังยุคโบราณนี้ไม่ได้ประกอบไปด้วยปะการังล้วน ๆ ยังมีซากดึกดำบรรพ์อื่นๆอีกมากที่เคยอาศัยอยู่ตามแนวปะการัง เช่น สาหร่าย ฟองน้ำ และซากเหลือของเอชิโนเดิร์ม แบรคิโอพอด หอยกาบคู่ หอยกาบเดี่ยว และไทรโลไบต์ นี้ทำให้ปะการังบางชนิดเป็นซากดึกดำบรรพ์ดัชนีที่ดีที่ทำให้นักธรณีวิทยาสามารถบอกอายุของชั้นหินที่พบปะการังเหล่านั้นได้

ปะการังไม่ได้พบเฉพาะในแนวปะการังเท่านั้น ปะการังชนิดที่อยู่อาศัยแบบเดี่ยว ๆ อาจพบได้ในหินที่ไม่ได้เป็นแนวปะการังอย่างเช่น ซายโคลไซยาธุส ซึ่งพบในหมวดหินเกาต์เคลย์ ในประเทศอังกฤษ

ปะการังโบราณ

ปะการังทาบูเลต (ซายริงโกพอริด) ในหินปูนบูนยุคคาร์บอนิเฟอรัสตอนล่าง ใกล้กับเมืองไฮวาสส์ รัฐอาคันซอ มาตราส่วนแท่งยาว 2.0 ซม.

แนวปะการังโบราณที่พบบนพื้นดินมักจะถูกทำเป็นเหมืองผลิตปูนขาวหรือตัดเป็นก้อนใช้เป็นหินก่อสร้าง (เศษปะการังหรือคอรอลแร็ก) เศษปะการังนี้เป็นวัตถุก่อสร้างท้องถิ่นที่มีความสำคัญในบางพื้นที่อย่างเช่นตามแนวชายฝั่งแอฟริกาตะวันออก

ปะการังบางชนิดมีลักษณะเป็นแถบในเนื้อโครงสร้างเป็นผลเนื่องมาจากความแปรผันในอัตราการเจริญเติบโตในแต่ละปี แถบในปะการังปัจจุบันและซากดึกดำบรรพ์ดังกล่าวทำให้นักธรณีวิทยาหาอายุปีต่อปีทำให้ทราบระยะเวลาของการเติบโตที่มีความแม่นยำสูงซึ่งทำให้ทราบถึงการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและสภาพแวดล้อมบรรพกาลเมื่อผนวกกับข้อมูลการวิเคราะห์ทางธรณีเคมีของแต่ละแถบดังกล่าวด้วย[20]

ปะการังบางกลุ่มรวมตัวกันเป็นชุมชนเรียกว่าไมโครแอททอล โดยที่การเจริญเติบโตในแนวดิ่งของไมโครเอโตลล์ถูกจำกัดโดยความสูงเฉลี่ยของระดับน้ำขึ้นสูงสุด จากการวิเคราะห์รูปลักษณ์สัณฐานของการเติบโตที่หลากหลายไมโครแอททอลสามารถถูกนำไปใช้หาประวัติการเปลี่ยนแปลงระดับทะเลได้อย่างคร่าว ๆ ไมโครแอททอลที่เป็นซากดึกดำบรรพ์ก็สามารถหาอายุโดยวิธีกัมมันตรังสีของคาร์บอนที่จะทำให้ทราบถึงอายุในรูปแบบของการเปลี่ยนแปลงระดับทะเลได้ วิธีการนี้ใช้ในการวิเคราะห์ระดับทะเลสมัยโฮโลซีน[21]

แหล่งที่มา

WikiPedia: ปะการัง http://www.sbg.ac.at/ipk/avstudio/pierofun/png/png... http://www.amazon.com/Book-Coral-Propagation-Garde... http://dict.longdo.com/index.php?lang=en&search=*%... http://www.sciencedirect.com/science?_ob=ArticleUR... http://www.ucmp.berkeley.edu/cnidaria/anthozoafr.h... http://www.stanford.edu/group/microdocs/ http://www.stanford.edu/group/microdocs/whatisacor... http://www.usm.edu/marineeducation/old/coralreef/i... //www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/11751248 //www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/11951026