บทบาททางการเมือง ของ พรรคธรรมสังคม

การเลือกตั้ง พ.ศ. 2518

ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2518 พรรคธรรมสังคม ได้รับเลือกตั้งในสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 45 ที่นั่ง เป็นลำดับที่ 2 รองจากพรรคประชาธิปัตย์[2] ซึ่งหลังเลือกตั้ง หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และ หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ได้รับโปรดเกล้าฯ เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2518 และจัดตั้งคณะรัฐมนตรีไทย คณะที่ 35 โดยได้รับการสนับสนุนจากพรรคเกษตรสังคม และพรรคแนวร่วมสังคมนิยม แต่ได้คะแนนเสียงสนับสุนนเพียง 103 คน ไม่ถึงครึ่งของสภา (135 คน)

รัฐธรรมนูญสมัยนั้น กำหนดว่า การแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต้องได้รับความไว้วางใจจากสภาผู้แทนราษฎร เมื่อถึงวันแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อสภา วันที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2518 ปรากฏว่า รัฐบาล หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ได้รับเสียงสนับสนุนเพียง 111 เสียง ถือว่าไม่ได้รับความไว้วางใจจากสภาผู้แทนผู้แทนราษฎร หม่อมราชวงศ์เสนีย์ และพรรคประชาธิปัตย์ จึงแสดงความรับผิดชอบ โดยการลาออก และสละสิทธิ์การตั้งรัฐบาล

หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช หัวหน้าพรรคกิจสังคม ซึ่งมี ส.ส.ในสภาเพียง 18 เสียง สามารถรวบรวม ส.ส.พรรคต่าง ๆ รวม 8 พรรค ได้ 135 เสียง เท่ากับครึ่งหนึ่งพอดี ซึ่งพรรคธรรมสังคม ได้เข้าร่วมในการสนับสนุน ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ จัดตั้งรัฐบาลด้วย โดย ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ได้รับโปรดเกล้าฯ เป็นนายกรัฐมนตรี ในขณะที่ พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งมีเสียงมากที่สุด 74 เสียง กลายเป็นฝ่ายค้าน ในครั้งนั้นพรรคธรรมสังคม ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรี 9 ตำแหน่ง คือ

  • ทวิช กลิ่นประทุม เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  • ทองหยด จิตตวีระ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
  • นิพนธ์ ศศิธร เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
  • ประชุม รัตนเพียร เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
  • สุรินทร์ เทพกาญจนา เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
  • พลโท ชาญ อังศุโชติ เป็นรัฐมนตรีว่าการทบวงมหาวิทยาลัยของรัฐ
  • เรืออากาศตรี บุญยง วัฒนพงศ์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม
  • พันตำรวจโท บุญเลิศ เลิศปรีชา เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
  • สุวรรณ ธนกัญญา เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

ต่อมาวันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2519 ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายบุญส่ง สมใจ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

การเลือกตั้ง พ.ศ. 2519

ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2519 พรรคธรรมสังคม ได้รับที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 28 ที่นั่ง เป็นลำดับที่ 4 ของจำนวนพรรคการเมืองทั้งหมด รองจากพรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทย และพรรคกิจสังคม

พรรคธรรมสังคม มี ส.ส. ทั่วทุกภาคของประเทศ ยกเว้นเขตกรุงเทพมหานคร ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ได้รับที่นั่งทั้งหมด โดยภาคอีสานมีจำนวนมากที่สุด 12 ที่นั่ง ภาคเหนือ 5 ที่นั่ง ภาคตะวันตก 4 ที่นั่ง ภาคตะวันออกและภาคกลาง ภาคละ 3 ที่นั่ง และภาคใต้ 1 ที่นั่ง

หลังการเลือกตั้งได้มีการจัดตั้งรัฐบาล โดยมีหม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และพรรคธรรมสังคมได้เข้าร่วมรัฐบาล และมีสมาชิกของพรรคได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี อาทิ พลอากาศเอก ทวี จุลทรัพย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นรองนายกรัฐมนตรี และ ทวิช กลิ่นประทุม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดราชบุรี เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และ นิพนธ์ ศศิธร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดราชุบุรี เป็นรัฐมนตรีว่าการทบวงมหาวิทยาลัย เป็นต้น

การเลือกตั้ง พ.ศ. 2522

ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2522 พรรคธรรมสังคม มีสามาชิกสภาผู้แทนราษฎรเพียง 1 คน คือ อัมพล จันทรเจริญ จากจังหวัดมหาสารคาม เนื่องจากสมาชิกส่วนใหญ่ย้ายไปสังกัดพรรคการเมืองอื่น