ประวัติของพรรค ของ พรรคเสรีประชาธิปไตย_(ญี่ปุ่น)

พรรคเสรีประชาธิปไตยของญี่ปุ่นถือกำเนิดขึ้นเมื่อพ.ศ. 2498 จากการรวมตัวของสองพรรคได้แก่ พรรคเสรีนิยม (Liberal Party; ญี่ปุ่น: 自由党 โรมาจิJiyutō) ซึ่งนำโดยนายโยะชิดะ ชิเงะรุ (ญี่ปุ่น: 吉田茂 โรมาจิYoshida Shigeru) และพรรคประชาธิปไตยญี่ปุ่น (Japan Democratic Party; ญี่ปุ่น: 日本民主党 โรมาจิNihon Minshutō) ของนายฮะโตะยะมะ อิชิโร่ (ญี่ปุ่น: 鳩山一郎 โรมาจิHatoyama Ichirō) ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง อันเป็นการรวมตัวกันของพรรคอนุรักษนิยมฝ่ายขวาขนาดใหญ่ทั้งสองพรรค เพื่อเป็นการต่อต้านพรรคฝ่ายซ้ายอื่นๆในญี่ปุ่นขณะนั้นเช่น พรรคสังคมนิยมญี่ปุ่น (Japan Socialist Party; ญี่ปุ่น: 日本社会党 โรมาจิNihon Shakaitō) หรือ พรรคคอมมิวนิสต์ญี่ปุ่น (Japan Communist Party; ญี่ปุ่น: 日本共産党 โรมาจิNihon Kyōsantō) ในสมัยต่อมาหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์[16]ของสหรัฐอเมริกาได้เปิดเผยว่า ในช่วงสงครามเย็น สำนักข่าวกรองกลางหรือ CIA ของสหรัฐอเมริกาได้ใช้เงินจำนวนหลายล้านดอลลาร์ในการทำให้พรรคเสรีนิยมประชาธิปไตยชนะการเลือกตั้ง เพื่อเป็นการป้องกันมิให้ลัทธิคอมมิวนิสต์รุ่งเรืองขึ้นในญี่ปุ่น[17][18]

ตลอดช่วงเวลาเกือบหกสิบปีในการบริหารประเทศของพรรคเสรีประชาธิปไตย พรรคเสรีประชาธิปไตยได้นำพาญี่ปุ่นผ่านความรุ่งเรืองและวิกฤตการต่างๆ ในช่วงสงครามเย็นเศรษฐกิจญี่ปุ่นเติบโตอย่างรวดเร็ว เรียกว่า ปาฏิหาริย์ทางเศรษฐกิจ (Economic Miracle) โดยมีความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างฝ่ายนักการเมืองในรัฐบาลและฝ่ายบริษัทขนาดใหญ่ ความสอดคล้องระหว่างนโยบายของรัฐกับความต้องการของเอกชน และการแทรกแซงของรัฐเป็นปัจจัยที่สำคัญ นอกจากนี้พรรคเสรีประชาธิปไตยนโยบายส่งเสริมช่วยเหลือสวัสดิการแก่คนยากจน ทำให้พรรคเสรีประชาธิปไตยได้รับการสนับสนุนจากทุกส่วนของสังคมญี่ปุ่น

อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจญี่ปุ่นเผชิญปัญหาหยุดนิ่งและตกต่ำในช่วงทศวรรษที่ 1990 อันเนื่องมาจากการกีดกันทางการค้าจากสหรัฐอเมริกา และการแข็งตัวของค่าเงินเย็นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ ทำให้ญี่ปุ่นเข้าสู่ช่วงเวลา "สิบปีแห่งความสูญเปล่า" (Lost Decade) ความนิยมในพรรคเสรีประชาธิปไตยลดลงอย่างมาก ทำให้พรรคญี่ปุ่นใหม่ (Japan New Party; ญี่ปุ่น: 日本新党 โรมาจิNihon Shintō) ซึ่งแยกตัวออกมาจากพรรคเสรีประชาธิปไตยสามารถเอาชนะพรรคเสรีประชาธิปไตยในการเลือกตั้งปีพ.ศ. 2536 ได้ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์หลังสงครามโลกครั้งที่สองที่พรรคเสรีประชาธิปไตยสูญเสียเสียงข้างมากในรัฐสภาให้แก่พรรคอื่นและกลายเป็นพรรคฝ่ายค้าน อย่างไรก็ตามเหตุการณ์เป็นอยู่ในช่วงเวลาเพียงแค่ 11 เดือนเท่านั้น การเลือกตั้งในปีพ.ศ. 2537 พรรคเสรีประชาธิปไตยสามารถกอบกู้เสียงข้างมากกลับมาเป็นรัฐบาลได้อีกครั้ง

สมัยของนายกรัฐมนตรีจุงอิชิโร โคะอิซุมิ (ญี่ปุ่น: 小泉 純一郎 โรมาจิKoizumi Jun'ichirō) ตั้งแต่พ.ศ. 2544 ถึงพ.ศ. 2549 สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้แก่ญี่ปุ่นและพรรคเสรีประชาธิปไตย โดยการเปลี่ยนนโยบายเศรษฐกิจของพรรคจากที่เน้นการแทรกแซงของรัฐบาลมาเป็นการเน้นการค้าเสรีและกลไกตลาด อันเป็นผลทำให้ญี่ปุ่นสามารถฟื้นตัวจากความตกต่ำทางเศรษฐกิจได้ และนายกรัฐมนตรีโคะอิซุมิยังมีนโยบายชาตินิยมโดยมีความพยายามที่จะฟื้นฟูอำนาจทางการทหารของญี่ปุ่นขึ้นมาใหม่ และการเดินทางไปยังศาลเจ้ายะซุกุนิซึ่งได้รับการประท้วงจากประเทศต่างๆในเอเชีย อย่างไรก็ตามด้วยนโยบายทางเศรษฐกิจของนายโคะอิซุมิทำให้พรรคเสรีประชาธิปไตยได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางอีกครั้ง

แหล่งที่มา

WikiPedia: พรรคเสรีประชาธิปไตย_(ญี่ปุ่น) http://books.google.com/books?id=1-iXGKN1AK4C&pg=P... http://books.google.com/books?id=79DtWcx1oWMC&pg=P... http://books.google.com/books?id=WjFwStO4ONwC&pg=P... http://books.google.com/books?id=XqMuAgAAQBAJ&pg=P... http://books.google.com/books?id=_UCPAQAAQBAJ&pg=P... http://books.google.com/books?id=wGnROS_ToTkC&pg=P... http://books.google.com/books?id=zZ2XT76eqMAC&pg=P... http://query.nytimes.com/gst/fullpage.html?res=9C0... http://www.nytimes.com/2008/09/17/world/asia/17jap... http://www.philstar.com/world/2013/07/21/995641/ja...