เมนูนำทาง
พระช่วงเกษตรศิลปการ_(ช่วง_โลจายะ) รับราชการพ.ศ. 2467 หลังจากจบการศึกษาระดับปริญญาโทแล้ว ได้เดินทางกลับประเทศไทย ได้รับการบรรจุราชการครั้งแรกเป็นอาจารย์ประจำกระทรวงธรรมการ โดยเข้ารับราชการครูที่โรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรม อำเภอบางสะพานใหญ่ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในสมัยนั้นอาจารย์ทุกคนและนักเรียนต้องทำงานอย่างหนัก ช่วยกันพัฒนาสถานที่ ปลูกสร้างอาคารด้วยตนเอง เนื่องจากรัฐบาลไม่มีงบประมาณสนับสนุน
พ.ศ. 2469 โรงเรียนได้ย้ายที่ตั้งไปยังอำเภอทับกวาง จังหวัดสระบุรี พระช่วงเกษตรศิลปการได้ย้ายการทำงานไปยังที่ตั้งใหม่ และไปเริ่มต้นบุกเบิกใหม่ ทำงานหนัก ทั้งสอนหนังสือและงานภาคสนาม ในปีเดียวกัน ท่านได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น หลวงช่วงเกษตรศิลปการ ขณะที่มีอายุเพียง 27 ปี
พ.ศ. 2470 ท่านได้ริเริ่มจัดทำหนังสือพิมพ์กสิกร ฉบับปฐมฤกษ์ออกจำหน่ายเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2470 โดยมีหม่อมเจ้าสิทธิพร กฤดากร เป็นเจ้าของและบรรณาธิการ หนังสือเล่มนี้อยู่ยั่งยืนมาจนถึงปัจจุบัน
พ.ศ. 2471 เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านนโยบายการศึกษาของชาติครั้งใหญ่ ท่านได้ย้ายไปเป็นครูที่โรงเรียนมัธยมวัดเทพศิรินทร์ เป็นอาจารย์สอนวิชาวิทยาศาสตร์ระดับมัธยม และปีเดียวกันนี้ ท่านได้สมรสกับคุณสำอางค์ ไรวา สุภาพสตรีในตระกูลคหบดี
พ.ศ. 2472 ย้ายไปอยู่โรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย ดำรงตำแหน่งเป็นผู้กำกับคณะช่วงเกษตร และเป็นอาจารย์สอนวิชาวิทยาศาสตร์ระดับมัธยม
พ.ศ. 2473 กระทรวงกลาโหมได้ขอตัวท่านไปช่วยราชการ โดยดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าแผนกเสบียงสัตว์ และผู้อำนวยการสอนวิชากสิกรรมแก่นายทหาร
พ.ศ. 2475 ได้รับพระราชทานเลื่อนบรรดาศักดิ์เป็น พระช่วงเกษตรศิลปการ
พ.ศ. 2476 กระทรวงเกษตรพาณิชยการ ได้ขอตัวท่านจากกระทรวงกลาโหม โดยโอนมาสังกัดกรมตรวจกสิกรรม (กรมเกษตร) แล้วส่งท่านไปก่อตั้งสถานีทดลองกสิกรรมภาคเหนือ ที่บ้านแม่โจ้ ตำบลหนองหาร อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่
พ.ศ. 2477 กระทรวงธรรมการ โดยเจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี ได้ตั้ง โรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรมภาคเหนือ (ปปก.- ประกาศนียบัตรประถมกสิกรรม) ที่แม่โจ้ จังหวัดเชียงใหม่ ได้ขอตัวคุณพระช่วงเกษตรศิลปการย้ายมาสังกัดกระทรวงธรรมการ แต่งตั้งให้เป็นอาจารย์ใหญ่และหัวหน้าสถานีทดลองกสิกรรมภาคเหนือในเวลาเดียวกัน ในเวลาต่อมาโรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรมที่แม่โจ้ได้เปลี่ยนสถานะเป็น โรงเรียนฝึกหัดครูมัธยมวิสามัญเกษตรกรรมภาคเหนือ
พ.ศ. 2481 รัฐบาลมีนโยบายยุบโรงเรียนฝึกหัดครูมัธยมวิสามัญเกษตรกรรม พระช่วงเกษตรศิลปการได้ผลักดันให้รักษาโรงเรียนฝึกหัดครูมัธยมวิสามัญเกษตรกรรมภาคเหนือที่แม่โจ้ไว้ และจัดตั้งเป็นวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ขึ้น โดยดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และจัดตั้งกองวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สังกัดกรมเกษตรและการประมง
พ.ศ. 2482 - 2492 ท่านได้รับการแต่งตั้งเป็น อธิบดีกรมเกษตรและการประมง โดยในระหว่าง 10 ปี ท่านมีผลงาน ดังนี้
พ.ศ. 2482 โดยการริเริ่มการก่อตั้งของ 3 บูรพาจารย์ คือ พระช่วงเกษตรศิลปการ หลวงสุวรรณวาจกกสิกิจ หลวงอิงคศรีกสิการ รวมทั้งบุคคลสำคัญอีกหลายท่าน เช่น ศาสตราจารย์จรัด สุนทรสิงห์ อาจารย์เริ่ม บูรณฤกษ์ อาจารย์กวี วิสุทธารมณ์ เป็นต้น ได้ร่วมกันจัดตั้งวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ขึ้นที่ทุ่งบางเขน โดยมีการเปลี่ยนแปลงวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จนมาเป็นมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในปัจจุบัน โดยมีฐานะเป็น กองหนึ่งของกรมเกษตร พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์จึงเกิดขึ้น และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 2 กุมภาพันธ์พ.ศ. 2486
พ.ศ. 2489 ในระหว่างที่ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมเกษตรและการประมง เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 สงบลง 1 ปี ท่านได้ร่วมคณะผู้แทนไทยไปประชุมองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ที่สหรัฐอเมริกา ในฐานะผู้สังเกตการณ์ หลังการประชุมได้แวะไปเยี่ยมสถานศึกษาเดิมคือ มหาวิทยาลัยวิสคอนซิน ซึ่งทางมหาวิทยาลัยได้มอบประกาศนียบัตรนักเรียนเก่าดีเด่นให้แก่ท่าน และการเดินทางไปสหรัฐอเมริกาในครั้งนี้ ท่านได้นำวัคซีนป้องกันโรครินเดอร์เปสต์กลับมาประเทศไทยด้วย วัคซีนชนิดนี้ได้ช่วยป้องกันชีวิตสัตว์เลี้ยงของประเทศไทยในสมัยนั้นไว้ไม่น้อยเลย
พ.ศ. 2491 ในระหว่างที่ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมเกษตรและการประมงนั้น ท่านได้ดำรงตำแหน่งเป็น นายกสภามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
พ.ศ. 2492 -2495 ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตราธิการ (กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในปัจจุบัน) สมัย จอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี[3] หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมเกษตรและการประมงได้ 10 ปี ท่านดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตราธิการนานประมาณ 3 ปี ท่านได้สร้างผลงานอันเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติหลายประการด้วยกัน อาทิ
พ.ศ. 2485 เกิดน้ำท่วมใหญ่ที่กรุงเทพและภาคกลางทั้งหมด ทำให้พืชผักสวนครัวขาดแคลน ท่านได้แนะนำและส่งเสริมให้มีการปลูกถั่วงอก ในสมัยนั้นจอมพล ป.พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อน้ำท่วม จึงเป็นการเริ่มความนิยมการขายก๋วยเตี๋ยวเรือใส่ถั่วงอกและผักบุ้ง เพื่อให้ประชาชนได้รับอาหารครบหมู่
พ.ศ. 2483 ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการวิทยาลัยการค้า สมาคมพ่อค้าไทย ปัจจุบันคือ
มหาวิทยาลัยหอการค้า
พ.ศ. 2499 - 2502 ได้รับแต่งตั้งเป็น ทูตวัฒนธรรม และผู้ดูแลนักเรียนไทย ในสหรัฐอเมริกา
พ.ศ. 2503 - 2504 ครบเกษียณอายุราชการ จึงได้เดินทางกลับประเทศไทย เป็นข้าราชการบำนาญ ได้ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการ ไร่เอสอาร์ ที่อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ผลงานในช่วงที่ดูแลไร่เอสอาร์ ได้แก่
พ.ศ. 2518 - 2522 ภายหลังจากเกษียณอายุราชการ ได้รับพระมหากรุณาโปรดเกล้าให้ดำรงตำแหน่ง นายกสภาสถาบันเทคโนโลยีการเกษตรแม่โจ้ เป็นตำแหน่งสุดท้ายของการทำงาน เคยมีศิษย์ของท่านตั้ง
พรรคการเมืองพรรคสัมมาชีพ-ช่วยชาวนา แต่ท่านมิได้เคยเข้าร่วมพรรคการเมืองนี้ หรือพรรคการเมืองใดทั้งสิ้นท่านใช้ชีวิตบั้นปลายกับครอบครัวที่รัก และลูกหลานอยู่กันพร้อมหน้าอย่างอบอุ่น
พระช่วงเกษตรศิลปการ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2531 สิริอายุได้ 88 ปี
รวมระยะเวลาในการรับราชการ รับใช้บ้านเมืองตั้งแต่เริ่มเป็นครูสอนในโรงเรียนสวนกุหลาบ พ.ศ. 2459 จนถึงตำแหน่งสุดท้าย คือ ทูตวัฒนธรรม และผู้ดูแลนักเรียนไทยในสหรัฐอเมริกา จนเกษียณอายุราชการใน พ.ศ. 2502 เป็นเวลา 43 ปี ด้วยคุณงามความดีของคุณพระช่วงเกษตรศิลปการที่มีต่อมหาวิทยาลัยแม่โจ้ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และวงการเกษตรของประเทศไทย ท่านได้รับพระราชทานปริญญาดุษฎีบัณฑิต (กิตติมศักดิ์) จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และมหาวิทยาลัยแม่โจ้ และบรรดาศิษย์รุ่นหลังๆได้สร้าง อนุสาวรีย์รูปเหมือนของคุณพระช่วงเกษตรศิลปการเพื่อเป็นเกียรติประวัติ และเป็นที่สักการบูชาของชนชาวไทยต่อไป ณ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ และ ณ มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ บางเขน อนุสาวรีย์รูปเหมือนของพระช่วงเกษตรศิลปการ เคียงคู่กับอนุสาวรีย์ของ หลวงสุวรรณวาจกกสิกิจ และ หลวงอิงคศรีกสิการ เป็นอนุสาวรีย์ 3 บูรพาจารย์ ซึ่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้จัดให้มีการวางพวงมาลา เพื่อระลึกถึงพระคุณของท่านทั้งสามในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ อันเป็นวันสถาปนามหาวิทยาลัยทุกปี มาจวบจนกระทั่งทุกวันนี้
เมนูนำทาง
พระช่วงเกษตรศิลปการ_(ช่วง_โลจายะ) รับราชการใกล้เคียง
พระช่วงเกษตรศิลปการ (ช่วง โลจายะ) พระร่วงโรจนฤทธิ์ พระชายาทองอยู่ พระชำนาญคุรุวิทย์ (แย้ม ภมรมนตรี) พระชคันนาถ พระชลญาณมุนี (สมโภช ธมฺมโภชฺโช) พระชลโธปมคุณมุนี (พุฒ ปุณฺณโก) พระชางคุลีกุมารี พระร่วงทองคำ พระร่วงแหล่งที่มา
WikiPedia: พระช่วงเกษตรศิลปการ_(ช่วง_โลจายะ) http://www.singhakheow.com/history.htm#b http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2467/D/... http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2492/A/... http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2512/D/... https://www.mju.ac.th