วัยเยาว์ ของ พระเจ้าฌูเอาที่_1_แห่งโปรตุเกส

ฌูเอาเป็นโอรสนอกสมรสของพระเจ้าเปดรูที่ 1 แห่งโปรตุเกสกับตึเรซา โลเร็งซู ตอนพระชนมายุ 6 พรรษาพระองค๋ได้รับแต่งตั้งเป็นมาสเตอร์แห่งอัศวินอาวิช ทรงได้รับการศึกษาในด้านศาสนาและด้านการทหาร (อาจจะ) ที่อาวิชในอาเล็งแตฌู พระบิดาของพระองค์สิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1367 ฟือร์นังดู พระเชษฐาต่างมารดาของพระองค์ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์และเริ่มตั้งตนเป็นศัตรูกับพระเจ้าเอนริเกที่ 2 ผู้ปกครองคนใหม่ของกัสติยา แต่สุดท้ายพระเจ้าฟือร์นังดูก็ถูกบีบบังคับให้ยอมรับการสมรสเข้ากัสติยาของบียาตริช ทายาทวัยทารกของพระองค์

ในปี ค.ศ. 1383 เมื่อพระเจ้าฟือร์นังดูสิ้นพระชนม์ ลียูโนร์ พระราชินีม่ายของพระองค์ได้ยอมจำนนต่อคำสั่งให้ยอมรับพระเจ้าฆวนที่ 1 แห่งกัสติยา พระชามาดาของตนเป็นกษัตริย์แห่งโปรตุเกส ประชาชนที่หวาดกลัวว่าโปรตุเกสจะถูกผนวกเข้ากับกัสติยาและต่อต้านการสำเร็จราชการแผ่นดินของพระราชินีลียูโนร์ได้ลุกฮือขึ้นก่อกบฏจนเกิดเป็นสงครามกลางเมือง[1] ต้นเดือนธันวาคม ค.ศ. 1383 กลุ่มกบฏได้เข้ายึดกรุงลิสบอน ฌูเอาแห่งอาวิชที่คอยจับตาดูสถานการณ์อยู่เบื้องหลังอย่างระมัดระวังถูกกลุ่มคนหนุ่มสาวผู้รักชาตินำโดยนูนู อัลวารึช ปึไรรา โน้มน้าวให้สังหารฌูเอา ฟือร์นังดึช อังไดรู เคานต์แห่งโอไร[2] ขุนนางคนโปรดและที่ปรึกษาของพระราชินีลียูโนร์

ประชาชนได้ให้การสนับสนุนฌูเอา พระราชินีลียูโนร์หนีออกจากลิสบอนลี้ภัยไปอยู่ที่อาเล็งแกร์ นูนู อัลวารึชเสนอให้ลียูโนร์สมรสกับฌูเอาแห่งอาวิชเพื่อเป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดินร่วมกันแต่พระนางปฏิเสธ ฌูเอาจึงพยายามปิดล้อมโจมตีอาเล็งแกร์ แต่ลียูโนร์ได้หนีไปซังตาไร[3] พระนางได้กะเกณฑ์ไพร่พลและขอความช่วยเหลือจากกษัตริย์กัสติยาผู้เป็นพระชามาดา[4] เดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1384 กองทัพกัสติยาปิดล้อมโจมตีฌูเอาในลิสบอน แต่ก็ต้องถอนทัพไปในเดือนกันยายนเมื่อกาฬโรคแพร่ระบาด

ใกล้เคียง

พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ พระเจ้าอโศกมหาราช พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน พระเจ้าชาห์ โมฮัมหมัด เรซา ปาห์ลาวี พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระจันทบุรีนฤนาถ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอนุสรมงคลการ