พระเจ้ามยองจงแห่งโครยอ (
เกาหลี: 명종,
ฮันจา: 明宗,
MC: Myeongjong,
MR: Myǒngjong ค.ศ. 1131 - ค.ศ. 1202) จักรพรรดิองค์ที่ 19 แห่ง
ราชวงศ์โครยอ (ค.ศ. 1170 - ค.ศ. 1197) เป็นพระราชโอรสของ
พระเจ้าอินจง กับมเหสีคงเย เป็นพระอนุชาของ
พระเจ้าอีจง ได้รับบรรดาศักดิ์เป็น
ท่านชายอิกยาง (익양후, 翼陽侯) ในค.ศ. 1170 ผู้นำทหารสามคน คือ
จองจุงบู (정중부, 鄭中夫)
ลีอีบัง (이의방, 李義方) และลีโค (이고, 李高) ยึดอำนาจจากขุนนางฝ่ายพลเรือนและปลดพระเจ้าอีจงลงจากราชบัลลังก์ ตั้งท่านชายอิกยางเป็นพระเจ้ามยองจง พระเจ้ามยองจงเป็นจักรพรรดิหุ่นเชิดแห่งโครยอพระองค์แรก ที่จะต้องตกอยู่ภายใต้การปกครองครองของเผด็จการทหาร (무신정변, 武臣政變) ไปอีกร้อยกว่าปีหลังจากยึดอำนาจมาได้แล้วผู่นำทหารทั้งสามก็ปฏิรูประบบข้าราชการโครยอเสียใหม่ โดยให้ขุนนางฝ่ายทหารมียศศักดิ์มากกว่าขุนนางฝ่ายพลเรือน และตั้งสภาทหารปกครองประเทศ ประกอบด้วยผู้นำสามคน แต่ทว่าผู้นำทหารสามคนนั้นก็แก่งแย่งอำนาจกันเอง โดยลีอีบังสังหารลีโค อภิเษกบุตรสาวของตนกับองค์รัชทายาท (ภายหลังเป็น
พระเจ้าคังจง) แต่ลีอีบังสุดท้ายก็ถูกจองจุงบูสังหารยึดอำนาจ จองจุงบูจึงกลายเป็นผู้นำเผด็จการทหารของโครยอไปโดยปริยาย แต่แล้วจองจุงบูก็ถูกลอบสังหารโดยขุนนางทหารชั้นผู้น้อยชื่อ
คยองแดซึง (경대승, 慶大升) ในค.ศ. 1180 คยองแดซึงเมื่อนั่งแท่นผู้นำทหารโครยอแล้วพยายามที่จะแก้ไขปัญหาต่างๆ เช่น ทำให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทำให้ได้รับการสรรเสริญอย่างมาก ซึ่งก็ไม่เป็นที่พอพระทัยของพระเจ้ามยองจงซึ่งทรงเป็นกษัตริย์ ในรัชสมัยของพระเจ้ามยองจงมีกบฏหลายครั้ง
[1] คือ กบฏของชาวบ้านที่ไม่พอใจการถูกกดขี่โดยขุนนางท้องถิ่น ในค.ศ. 1172 ค.ศ. 1176 ค.ศ. 1182 และ ค.ศ. 1194 ทางราชสำนักใช้ความพยายามอย่างมากในการปราบกบฏชาวบ้านซึ่งแต่ละครั้งมีจำนวนผู้เข้าร่วมเป็นหมื่น คยองแดซึงเสียชีวิตในค.ศ. 1183 ลีอีมิน (이의민, 李義旼) ขุนนางทหารอีกคนที่แต่เดิมเป็นทาสก็เข้ายึดอำนาจแทน แต่ก็ถูกขุนนางทหารชื่อ
ชเวชุงฮอน (최충헌, 崔忠獻) และน้องชายชเวชุงซู (최충수, 崔忠粹) ก็เข้ายึดอำนาจในค.ศ. 1196 ในค.ศ. 1197 ขุนพลสองพี่น้องตัดสินใจปลดพระเจ้ามยองจงจากบัลลังก์ให้ท่านชายพยองยาง (평량공, 平凉公) พระอนุชาของพระเจ้ามยองจงขึ้นครองราชย์เป็น
พระเจ้าชินจง พระเจ้ามยองจงและรัชทายาททรงถูกเนรเทศไป
เกาะคังฮวา จนพระเจ้ามยองจงสวรรคตในค.ศ. 1202