ก่อนขึ้นครองราชย์ ของ พระเจ้ารามิโรที่_2_แห่งอารากอน

พระองค์อุทิศชีวิตให้แก่ศาสนจักรตั้งแต่ยังเด็กมาก ทรงเริ่มต้นด้วยการบวชเป็นพระในอารามคณะเบเนดิกต์แซ็ง-ปงส์-เดอ-ตอเมียร์ในอาณาจักรไวเคานต์เบซีเย จากนั้นทรงขึ้นเป็นอธิการแห่งซานเปโดรเอลบิเอโฆในอูเอสกา ต่อมา เพื่อจำกัดอำนาจของรามิโร พระเจ้าอัลฟอนโซผู้ประจัญบาน พระเชษฐาของพระองค์ได้สกัดกั้นไม่ให้พระองค์ได้รับเลือกเป็นมุขนายกแห่งบูร์โกสและมุขนายกแห่งปัมโปลนา สุดท้ายพระองค์ได้รับเลือกเป็นมุขนายกแห่งบาร์บัสโตร-โรดา

ค.ศ. 1134 พระเจ้าอัลฟอนโซที่ 1 แห่งอารากอน พระเชษฐาของพระองค์สิ้นพระชนม์โดยไร้ทายาท พระองค์ได้ยกราชอาณาจักรให้คณะทหาร ได้แก่ กลุ่มอัศวินเทมพลาร์, กลุ่มอัศวินฮอสปิทัลเลอร์ และกลุ่มอัศวินสุสานศักดิ์สิทธิ์แห่งเยรูซาเลม แต่ไม่มีใครประสงค์จะทำตามดำรินี้ รามิโรกลายเป็นหนึ่งในผู้มีสิทธิ์สืบทอดบัลลังก์ร่วมกับพระเจ้าอัลฟอนโซที่ 7 แห่งเลออนและกัสติยาซึ่งไม่ค่อยได้รับการสนับสนุนเนื่องจากเป็นกษัตริย์ต่างแดน ขณะที่ขุนนางอีกกลุ่มหนึ่งให้การสนับสนุนเปโดรแห่งอาตาเรส หลานชายของซันโช รามิเรซ เคานต์แห่งริบากอร์ซา บุตรชายนอกสมรสของพระเจ้ารามิโรที่ 1 แห่งอารากอน กลุ่มขุนนางได้ประชุมกันที่บอร์ฆาเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องการสืบทอดบัลลังก์และได้ตกลงเลือกรามิโรเป็นกษัตริย์ ขณะเดียวกันขุนนางนาวาร์ได้เลือกการ์ซิอาผู้กอบกู้เป็นกษัตริย์ของพวกตน ทำให้ราชอาณาจักรทั้งสองถูกแยกออกจากกัน โดยในตอนที่ทราบข่าวการสิ้นพระชนม์ของเชษฐา รามิโรซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นมุขนายกแห่งบาร์บัสโตร-โรดากำลังฉลองวันแม่พระบังเกิดอยู่ในติเอร์รันโตนา[1] พิธีราชาภิเษกของพระองค์ได้รับการจัดขึ้นในซาราโกซาในวันที่ 29 กันยาน ค.ศ. 1134[2]

ใกล้เคียง

พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมพลฑิฆัมพร พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอนุสรมงคลการ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระจันทบุรีนฤนาถ พระเจ้าอโศกมหาราช