ประวัติ ของ พระเยซูถูกเฆี่ยน

เหตุการณ์นี้ปรากฏในสามในสี่ของพระวรสารกฎบัตรและเป็นเหตุการณ์ที่มักจะเกิดก่อนการตรึงกางเขนตามกฎหมายโรมัน ในทุกขกิริยาของพระเยซูเหตุการณ์นี้ตามด้วย “การเยาะหยันพระเยซู” และ “พระเยซูทรงมงกุฏหนาม[3]

ฉากนี้เริ่มสร้างทางคริสต์ศาสนจักรตะวันตกในคริสต์ศตวรรษที่ 9 แต่แทบจะไม่ปรากฏในศิลปะไบแซนไทน์และหายากในศิลปะของนิกายอีสเติร์นออร์โธด็อกซ์ไม่ว่าจะในสมัยใด งานแรกๆ พบในหนังสือวิจิตรและงานแกะงาช้าง ในอิตาลีพบในงานจิตรกรรมฝาผนังขนาดใหญ่จากคริสต์ศตวรรษที่ 11 องค์ประกอบของภาพมักจะมีด้วยกันสามคนในภาพ—พระเยซู และผู้รับใช้สองคนของไพเลทที่ทำหน้าที่เฆี่ยน ในรูปวาดสมัยแรกพระเยซูมักจะเปลือย หรือสวมเสื้อยาวมองมาทางด้านผู้ชมรูปหรือเป็นฉากที่มองจากด้านหลัง แต่ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 12 พระเยซูมักจะนุ่งผ้าเตี่ยว (loincloth) และหันพระพักต์มาทางผู้ชมภาพ[4]

บางภาพก็จะมีไพเลทนั่งดูการเฆี่ยนและอาจจะมีผู้รับใช้ของภรรยาของไพเลทเดินเข้ามาพร้อมกับจดหมาย ในปลายยุคกลางจำนวนผู้เฆี่ยนก็เพิ่มเป็นสามหรือสี่คน และลักษณะของผู้ที่เฆี่ยนทางเหนือก็เริ่มอัปลักษณ์ขึ้นและแต่งตัวอย่างทหารรับจ้างในสมัยนั้น[5] บางครั้งก็จะมีแฮรอด อันทิปาส (Herod Antipas) ปรากฏในรูปด้วย การเฆี่ยนทำโดยผู้ที่ทำงานให้กับไพเลท และบางครั้งผู้เฆี่ยนก็จะใส่หมวกอย่างชาวยิว[6] หลังจากภาพมาเอสตา (Maestà) โดยดุชโช[7] การเฆี่ยนก็มักจะทำกันในที่สาธารณะต่อหน้าผู้มามุงดู[8]

นักบวชลัทธิฟรานซิสกันผู้เผยแพร่การเฆี่ยนตัวเองเพื่อให้เข้าใจถึงความทรมานของพระเยซูอาจจะเป็นผู้รับผิดชอบการสร้างกางเขนขนาดใหญ่หลายชิ้นที่ใช้ในการแห่ที่ด้านหลังเป็นภาพการเฆี่ยนและด้านหน้าเป็นพระเยซูถูกตรึงกางเขน และอาจจะมีกลุ่มผู้เดินตามขบวนแห่ที่เฆี่ยนตัวเองไปพลางที่มองเห็นพระเยซูทรมานนำอยู่ข้างหน้าบนกางเขน[3]

ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 15 ฉากนี้ก็อาจจะนำมาสร้างเป็นงานโดดๆ มิได้เป็นส่วนหนึ่งของภาพในชุดทุกขกิริยาของพระเยซู ในขณะเดียวกันในภาพ “พระเยซูที่คอลัมน์” ก็อาจจะเป็นภาพพระเยซูยืนอยู่คนเดียว ลักษณะนี้เป็นที่นิยมทำเป็นประติมากรรมในสมัยศิลปะบาโรก อีกฉากหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับฉากนี้แต่ไม่ปรากฏในพระวรสารกฎบัตรคือฉาก “พระเยซูในคุกใต้ดิน” (Christ in the Dungeon) ซึ่งมักจะแยกจากฉาก “พระเยซูถูกเฆี่ยน” ค่อนข้างยาก หรือ ระหว่างฉาก “พระเยซูที่คอลัมน์” กับฉาก “พระเยซูถูกเฆี่ยน” ก็แยกกันยากเช่นกัน[9]

ในสมัยใหม่ฉากนี้ก็ปรากฏในภาพยนตร์เช่นในงานที่สร้างโดย เมล กิบสัน ในปี ค.ศ. 2004 เรื่อง “The Passion of the Christ” และในงานที่สร้างโดย สแตนลีย์ คูบริค (Stanley Kubrick) ในปี ค.ศ. 1972 เรื่อง “A Clockwork Orange” เมื่อตัวละครที่ถูกจำขังที่แสดงโดยมัลคอล์ม แมคโดเวลล์ (Malcolm McDowell) จินตนาการว่าตนเองเป็นทหารโรมันที่เฆี่ยนพระเยซู

ใกล้เคียง

พระเยซู พระเยซูเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ พระเยซูถูกเฆี่ยน (เปียโร เดลลา ฟรานเชสกา) พระเยซูในโรงช่างของพ่อ (มิเล) พระเยซูทรงจำแลงพระกาย พระเยซูถูกเฆี่ยน พระเยซูในสวนเกทเสมนี พระเยซูทรงทำนายถึงการทรยศพระองค์ พระเยซูและหญิงผิดประเวณี (เบรอเคิลผู้พ่อ) พระเยซูทรงรับบัพติศมา