อิทธิพลของวง ของ พิงก์ฟลอยด์

พิงก์ฟลอยด์ได้กลายเป็นหนึ่งในวงที่ประสบความสำเร็จสูงสุดและมีอิทธิพลที่สุดวงหนึ่งตลอดกาล[8] ด้วยยอดจำหน่ายกว่า 250 ล้านชุดทั่วโลก[9] หรือกว่า 75 ล้านชุด ในสหรัฐอเมริกาเพียงที่เดียว และกว่า 37.9 ล้านชุดที่จำหน่ายในสหรัฐอเมริกานับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1993 เป็นต้นมา[10] จากการจัดอันดับของ ซันเดย์ไทมส์ริชลิสต์ (Sunday Times Rich List) ในหัวข้อ ดนตรีเงินล้าน 2013 ของประเทศอังกฤษ ได้จัดอันดับวอเทอรส์ไว้ที่ 12 ด้วยเงินสดประเมินไว้ราว 150 ล้านยูโร กิลมอร์อันดับที่ 27 ด้วยจำนวนเงินราว 85 ล้านยูโร และเมสันอันดับที่ 37 ด้วยสินทรัพย์รวม 50 ล้านยูโร[11]

ในปี ค.ศ. 2004 เอ็มเอสเอ็นบีซี ได้จัดอันดับ พิงก์ฟลอยด์ ไว้ที่ 8 บนหัวข้อ "10 อันดับวงที่ดีที่สุดตลอดกาล"[12] นิตยสารโรลลิงสโตน ก็จัดอันดับที่ 51 บนหัวข้อ "100 ศิลปินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล"[13] นิตยสารคิว ก็ยกให้พิงก์ฟลอยด์เป็นวงที่ใหญ่ที่สุดตลอดกาล[14] วีเอชวัน จัดอันดับฟิงก์ ฟลอยด์ ไว้ที่อันดับ 18 บนหัวข้อ "100 ศิลปินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล"[15] นักวิจารณ์เพลงอย่างโคลิน ลาร์คิน ก็จัดอันดับฟิงก์ ฟลอยด์ ไว้ที่ 3 ในหัวข้อ "50 อันดับศิลปินตลอดกาล" ซึ่งอ้างอิงจากผลโหวตรวมจากหนึ่งพันอัลบั้มตลอดกาล ซึ่งฟิงก์ ฟลอยด์ ได้รับโหวตเลือกอัลบั้มไว้มากเป็นอันดับ 3[16]

พิงก์ ฟลอยด์ ชนะรางวัลมากมาย ในปี ค.ศ. 1981 เจมส์ กูทรี วิศวะเครื่องเสียงให้กับวง ก็ได้รับรางวัลแกรมมี ในหัวข้อ "Best Engineered Non-Classical Album" จากอัลบั้มเดอะวอลล์ โรเจอร์ วอเทอรส์ ชนะรางวัลแบฟตา ในหัวข้อ "เพลงแต่งดั้งเดิมที่ดีที่สุดสำหรับภาพยนตร์" ในปี ค.ศ. 1983 สำหรับซิงเกิล "Another Brick in the Wall" จากภาพยนตร์เดอะวอลล์[17] ในปี ค.ศ. 1995 พิงก์ ฟลอยด์ ชนะรางวัลแกรมมี ในหัวข้อ "บรรเลงเพลงร็อกดีที่สุด" สำหรับเพลง "Marooned"[18] ในปี ค.ศ. 2008 สมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ลที่ 16 กุสตาฟแห่งสวีเดน ก็ได้พระราชทานรางวัลโพลาร์มิวสิก ซึ่งถือเป็นหนึ่งในรางวัลสูงสุดทางดนตรีของประเทศสวีเดน สำหรับการอุทิศด้านงานดนตรีสมัยใหม่ของพิงก์ ฟลอยด์[19] โดยมีวอเทอรส์และเมสันเข้ารับรางวัลพระราชทานนี้ วงได้รับการบรรจุเข้าสู่หอเกียรติยศร็อกแอนด์โรล ในปี ค.ศ. 1996 หอเกียรติยศด้านดนตรีของสหราชอารณาจักรในปี ค.ศ. 2005 และหอเกียรติยศฮิตพาเรด ปี ค.ศ. 2010[20]

ดนตรีของพิงก์ ฟลอยด์ ได้ส่งอิทธิพลต่อศิลปินรุ่นต่อมามากมาย ทั้ง เดวิด โบอี ได้ยกให้บาร์เรตต์ เป็นผู้สร้างแรงบรรดาลใจคนสำคัญ ดิเอดจ์ แห่งยูทู[21] นอกจากนี้ก็ยังมีวงอื่นๆ อีก เช่น ควีน ทูล เรดิโอเฮด[22] ครัฟท์แวร์ค มาลิไลออน ดิออร์บ ควีนซไรเชอ ไนน์อินช์เนลส์ และ เดอะสแมชชิงพัมป์กินส์[23] พิงก์ ฟลอยด์ ยังมีอิทธิพลต่อวงการ นีโอ-โปรเกรสซีฟร็อก ซึ่งแยกตัวออกมาในทศวรรษที่ 1980 อีกด้วย[24]

แหล่งที่มา

WikiPedia: พิงก์ฟลอยด์ http://allaccessmagazine.com/vol7/issue12/steve-ro... http://www.allmusic.com/subgenre/neo-prog-ma000001... http://www.billboard.com/articles/news/58524/floyd... http://www.billboard.com/articles/review/1552399/p... http://www.bloomberg.com/apps/news?pid=newsarchive... http://www.businesswire.com/news/home/201301040051... http://www.davidgilmour.com/ http://www.frostmagazine.com/2013/04/sunday-times-... http://www.hitparadehalloffame.com/Inductees_all/P... http://www.nme.com/news/pink-floyd/23574