แนวปะการัง หรือ
พืดหินปะการัง เป็น
ระบบนิเวศที่ซับซ้อน และมีความหลากหลายมากที่สุดใน
ทะเล แนวปะการังจัดเป็นสิ่งก่อสร้างของ
สิ่งมีชีวิตที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็น
หินปูนที่มีความแข็ง โดย
สัตว์ทะเลขนาดเล็กคือ
ปะการัง รวมถึงซากของสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ในทะเลอย่างอื่นร่วมด้วย เช่น
สาหร่ายหินปูน,
หอยที่มีเปลือกแข็ง เป็นต้น ทั้งปะการังเองและสิ่งมีชีวิตที่สร้างหินปูนได้ เมื่อตายไปแล้วจะยังคงเหลือซากหินปูนทับถมพอกพูน ซึ่งถือว่าเป็นขบวนการสร้างแนวปะการัง ซากหินปูนเหล่านั้นค่อย ๆ ผุกร่อนเป็นผงตะกอน ซึ่งส่วนหนึ่งก็ยังคงสะสมพอกพูนในแนวปะการัง แต่อีกส่วนหนึ่งอาจถูกพัดพาล่องลอยไปตาม
กระแสน้ำไปทับถมพอกพูนเป็น
ชายหาด[1]การเจริญเติบโตของแนวปะการังเป็นไปอย่างช้า ๆ ในแต่ละปี ปะการังบางชนิดอาจเพิ่มขนาดของตนเองขึ้นมาได้เพียง 2-5
เซนติเมตรเท่านั้น ซึ่งกว่าที่ปะการังจะสร้างตนเองจนแข็งแรงเป็นแนวพืดได้ต้องใช้เวลานับหมื่น ๆ ปี โดยแนวปะการังที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือ
เกรตแบร์ริเออร์รีฟ ทางตอนเหนือของ
ออสเตรเลีย ที่มีเนื้อที่กว้างขวางกว่า 1,562
ไมล์ (2,500
กิโลเมตร) มีแนวปะการังมากกว่า 2,900 แนว ซึ่งได้รับการประกาศให้เป็น
มรกดกโลกทางธรรมชาติ[2] และแนวปะการังที่มีขนาดใหญ่อีกแห่งหนึ่งของโลก คือ
สามเหลี่ยมปะการัง ที่ครอบคลุมพื้นที่ระหว่างน่านน้ำของฟิลิปปินส์ เช่น
อุทยานธรรมชาติปะการังตุบบาตาฮา, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, ปาปัวนิวกินี, หมู่เกาะโซโลมอน และติมอร์เลสเต คิดเป็น 1 ใน 3 ของแนวปะการังที่มีอยู่ในโลก และมีความหลากหลายของชนิดปลาที่อาศัยอยู่ในแนวปะการังคิดเป็นร้อยละ 35 ของปลาที่อาศัยในแนวปะการังทั้งหมดทั่วโลก
[3]