ฟาวิพิราเวียร์ (
Favipiravir) หรือที่รู้จักกันในชื่อ
T-705 หรือ
Avigan เป็นยาต้านไวรัสที่พัฒนาโดยบริษัทโตยามะเคมิคอล (富山化学工業) ของประเทศ
ญี่ปุ่น มีฤทธิ์ต่อต้าน
อาร์เอ็นเอไวรัสหลายชนิด ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 ได้รับการศึกษาแบบสุ่มในประเทศ
จีนเพื่อทำการทดลองรักษาโรค COVID-19 (
โรคติดเชื้อโคโรนาไวรัส 2019) ที่พึ่งอุบัติขึ้น
[1][2][3] ฟาวิพิราเวียร์ ได้รับการรับรองระยะสั้นเป็นเวลาห้าปี เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 ในฐานะยาต้านไวรัสที่มีประสิทธิภาพต่อต้านโรค และในตอนนี้ได้ผลิตในประเทศจีนภายใต้ชื่อ
ฟาวิลาเวียร์ (
Favilavir)
[4] เช่นเดียวกับยาต้านไวรัสทดลองอื่น ๆ (T-1105 และ T-1106) ฟาวิพิราเวียร์เป็นอนุพันธ์ของ ไพราซีนคาร์โบซาไมด์ (Pyrazinecarboxamide) และยังมีฤทธิ์ต้านไวรัส
ไข้หวัดใหญ่,
ไวรัสเวสต์ไนล์, ไวรัส
ไข้เหลือง, ไวรัสโรคปากและเท้า รวมถึงเชื้อไวรัสอื่น ๆ ในตระกูลฟลาวิไวรัส (
Flaviviruses), อรีนาไวรัส (
Arenaviruses), บุนยาไวรัส (
Bunyaviruses) และ อัลฟาไวรัส (
Alphaviruses)
[5] ฤทธิ์ในการต่อต้าน
เอนเทอโรไวรัส (Enteroviruses)
[6] และไวรัส
โรคไข้ริฟต์แวลลีย์ ก็แสดงให้เห็นเช่นกัน
[7] ฟาวิพิราเวียร์ แสดงประสิทธิภาพอย่างจำกัดต่อ
ไวรัสซิกาในการศึกษาในสัตว์ แต่มีประสิทธิภาพน้อยกว่ายาต้านไวรัสชนิดอื่นเช่น
MK-608[8] และยังแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพบางอย่างในการต่อต้าน
โรคพิษสุนัขบ้า[9] ซึ่งได้ถูกนำมาใช้ในการทดลองในมนุษย์บางคนที่ติดเชื้อไวรัสดังกล่าว
[10]กลไกการออกฤทธิ์นั้นเชื่อกันว่าเกี่ยวข้องกับการยับยั้งการคัดเลือกเอนไซม์ อาร์เอ็นเอโพลิเมอเรสที่ขึ้นกับอาร์เอ็นเอของไวรัส (
RNA-dependent RNA polymerase)
[11] งานวิจัยอื่น ๆ แสดงให้เห็นว่า ฟาวิพิราเวียร์ ชักนำให้เกิดการกลายพันธุ์ในอาร์เอ็นเอที่ทำให้เกิดการตาย ซึ่งผลทำให้
ฟีโนไทป์ของไวรัสไม่อาจมีชีวิตอยู่ได้
[12] ฟาวิพิราเวียร์ เป็น
โปร-ดรัก (prodrug) ที่ถูกกระบวนการเมตาบอลิซึมเผาผลาญไปเป็นรูปแบบที่ออกฤทธิ์คือ Favipiravir-ribofuranosyl-5'-triphosphate (Favipiravir-RTP) มีทั้งที่อยู่ในตำรับที่ให้โดยทางรับประทานและทางหลอดเลือดดำ
[13][14] เอ็นไซม์
Human hypoxanthine guanine phosphoribosyltransferase (HGPRT) เชื่อว่ามีบทบาทสำคัญในกระบวนการกระตุ้นการออกฤทธิ์นี้
[15] ฟาวิพิราเวียร์ ไม่ยับยั้งการสังเคราะห์อาร์เอ็นเอหรือดีเอ็นเอ ในเซลล์ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมและไม่เป็นพิษต่อเซลล์
[5] ในปี พ.ศ. 2557 ฟาวิพิราเวียร์ได้รับการอนุมัติในประเทศญี่ปุ่นสำหรับการสำรองยาต่อต้านการ
ระบาดทั่วของโรคไข้หวัดใหญ่
[16] อย่างไรก็ตาม ฟาวิพิราเวียร์ยังไม่ได้แสดงว่ามีประสิทธิภาพในเซลล์เยื่อบุ
ทางเดินหายใจปฐมภูมิของมนุษย์ เป็นเหตุให้ยังมีความสงสัยในประสิทธิภาพในการรักษาโรคไข้หวัดใหญ่
[17]