บทความนี้ใช้ระบบคริสต์ศักราช เพราะอ้างอิงคริสต์ศักราชและคริสต์ศตวรรษ หรืออย่างใดอย่างหนึ่ง
ไข้หวัดใหญ่เป็น
โรคติดเชื้อที่เกิดจากไวรัสไข้หวัดใหญ่
[2] อาการอาจมีได้ตั้งแต่เบาถึงรุนแรง
[6] อาการที่พบบ่อย ได้แก่ ไข้สูง คัดจมูก เจ็บคอ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ ไอ จามและรู้สึกเหนื่อย
[1] ตรงแบบอาการเหล่านี้เริ่มสองวันหลังสัมผัสไวรัสและส่วนใหญ่กินเวลาไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์
[2] ทว่า อาการไออาจกินเวลานานเกินสองสัปดาห์ได้
[2] ในเด็ก อาจมีอาการท้องร่วงและอาเจียนด้วย แต่พบน้อยในผู้ใหญ่
[7] อาการท้องร่วงและอาเจียนพบบ่อยกว่าใน
กระเพาะอาหารและลำไส้อักเสบ ซึ่งเป็นคนละโรคกัน และบางทีเรียกกันผิด ๆ ว่า "หวัดลงกระเพาะ" หรือ "หวัด 24 ชั่วโมง"
[7] ภาวะแทรกซ้อนของไข้หวัดใหญ่อาจได้แก่ ปอดบวมไวรัส, ปอดบวมแบคทีเรียทุติยภูมิ,
โพรงอากาศติดเชื้อ, และการทรุดของปัญหาสุขภาพเดิมอย่าง
โรคหืดหรือ
ภาวะหัวใจวาย[3][6]ไวรัสไข้หวัดใหญ่ที่มีผลต่อมนุษย์มีสามชนิด ได้แก่ ชนิดเอ ชนิดบี และชนิดซี
[3][8] ยังไม่ทราบกันว่าชนิดดีติดเชื้อในมนุษย์หรือไม่ แต่เชื่อกันว่ามีโอกาสเป็นไปได้
[8][9] ปกติ ไวรัสมีการแพร่ทางอากาศระหว่างการไอหรือจาม
[2] เชื่อกันว่าส่วนใหญ่เกิดในระยะห่างค่อนข้างใกล้
[10] นอกจากนี้ยังสามารถแพร่ได้โดยการสัมผัสพื้นผิวที่ปนเปื้อนไวรัสแล้วนำมาสัมผัสปากหรือตา
[6][10] บุคคลอาจติดต่อโรคแก่ผู้อื่นได้ทั้งก่อนและระหว่างที่แสดงอาการ
[6] สามารถยืนยันการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้โดยการทดสอบลำคอ เสมหะ หรือจมูกเพื่อหาเชื้อไวรัส
[3] มีการทดสอบให้ผลเร็วหลายชนิด แต่บุคคลยังอาจมีโรคอยู่ได้แม้ผลออกมาเป็นลบ
[3] ปฏิกิริยาลูกโซ่พอลีเมอเรสชนิดตรวจจับอาร์เอ็นเอของไวรัสมีความแม่นยำกว่า
[3]การล้างมือบ่อย ๆ ลดความเสี่ยงการแพร่เชื้อไวรัส
[4] การสวม
ผ้าปิดจมูกก็มีประโยชน์
[4] องค์การอนามัยโลกแนะนำการได้รับ
วัคซีนไข้หวัดใหญ่ประจำปีสำหรับผู้มีความเสี่ยงสูง
[1] ปกติวัคซีนมีประสิทธิภาพป้องกันไข้หวัดใหญ่สามหรือสี่ชนิด
[2] ปกติผู้ได้รับวัคซีนไม่ค่อยมีผลเสีย
[2] วัคซีนเพื่อผลิตขึ้นสำหรับหนึ่งปีอาจไม่มีประโยชน์ในปีถัดไป เพราะไวรัสวิวัฒนาการอย่างรวดเร็ว
[2] ยาต้านไวรัสอย่างตัวยับยั้งนิวรามินิเดส
โอเซลทามิเวียร์ เป็นต้น มีการใช้รักษาไข้หวัดใหญ่
[2] ดูแล้วยาต้านไวรัสในผู้สุขภาพดีมีประโยชน์ไม่มากกว่าความเสี่ยง
[11] ไม่พบประโยชน์ในผู้ที่มีปัญหาสุขภาพอื่น
[11][12]ไข้หวัดใหญ่ระบาดทั่วโลกในการระบาดทั่วประจำปี ส่งผลให้มีผู้ป่วยรุนแรง 3 ถึง 5 ล้านคนและมีผู้เสียชีวิตประมาณ 290,000 ถึง 650,000 คน
[2][5] เด็กที่ไม่ได้รับวัคซีนประมาณ 20% และผู้ใหญ่ที่ไม่ได้รับวัคซีน 10% มีการติดเชื้อทุกปี
[13] ในซีกโลกเหนือและใต้ของโลก เกิดการระบาดส่วนใหญ่ในฤดูหนาว ส่วนรอบเส้นศูนย์สูตรอาจเกิดการระบาดได้ตลอดปี
[2] ส่วนใหญ่ผู้เสียชีวิตได้แก่ เยาวชน ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีปัญหาสุขภาพอื่น
[2] การระบาดใหญ่ที่เรียก
โรคระบาดทั่วนั้นพบน้อยกว่า
[3] ในคริสต์ศตวรรษที่ 20 เกิดการระบาดทั่วของไข้หวัดใหญ่สามครั้ง ได้แก่
ไข้หวัดใหญ่สเปนในปี 1918 (ผู้เสียชีวิต ~50 ล้านคน), ไข้หวัดใหญ่เอเชียในปี 1957 (ผู้เสียชีวิต 2 ล้านคน), และ
ไข้หวัดใหญ่ฮ่องกงในปี 1968 (ผู้เสียชีวิต 1 ล้านคน)
[14] องค์การอนามัยโลกประกาศการระบาดของไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ/เอช1เอ็น1 สายพันธุ์ใหม่เป็น
โรคระบาดทั่วในเดือนมิถุนายน 2009[15] ไข้หวัดใหญ่ยังอาจติดในสัตว์อื่น ได้แก่ หมู ม้าและนกได้
[16]