ประวัติศาสตร์ ของ ไข้หวัดใหญ่

ศัพทมูลวิทยา

คำว่า ไข้หวัดใหญ่ (influenza) มาจากภาษาอิตาลีหมายถึง "อิทธิพล" (influence) และหมายถึงสาเหตุของโรค ซึ่งเดิมทีเชื่อว่าเกิดจากอิทธิพลทางโหราศาสตร์ที่ไม่เอื้ออำนวย มีการนำมาใช้ในภาษาอังกฤษในกลายคริสต์ศตวรรษที่ 18 ระหว่างการระบาดทั่วทวีปยุโรป[187] คำโบราณสำหรับไข้หวัดใหญ่เช่น epidemic catarrh, la grippe[188] การป่วยเหงื่อออก (sweating sickness) และ ไข้สเปน (โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับสายพันธุ์การระบาดทั่วของไข้หวัดใหญ่ปี 1918)[189]

การระบาดทั่ว

ดูสารนิเทศเพิ่มเติมที่: การระบาดทั่วของไข้หวัดใหญ่
กราฟแสดงการเสียชีวิตต่อ 100,000 ประชากรในแต่ละกลุ่มอายุในสหรัฐระหว่างปี 1911–1917 (เส้นประ) และปีระบาดทั่ว 1918 (เส้นทึบ)[190] แสดงข้อแตกต่างระหว่างการกระจายของอายุเสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่ระหว่างการระบาดปี 1918 และการระบาดปกติ กล้องและจอถ่ายภาพความร้อน ซึ่งถ่ายจากอาคารสนามบินในประเทศกรีซระหว่างการระบาดทั่วของไข้หวัดใหญ่ปี 2009 การถ่ายภาพความร้อนตรวจจับอุณหภูมิกายที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นอาการแสดงหนึ่งของไข้หวัดใหญ่หมู

ฮิปพอคราทีสอธิบายอาการของไข้หวัดใหญ่มนุษย์อย่างชัดเจนเมื่อประมาณ 2,400 ปีก่อน[191][192] แม้ว่าไวรัสดังกล่าวดูเหมือนก่อให้เกิดการระบาดตลอดประวัติศาสตร์ของมนุษย์ แต่ข้อมูลประวัติศาสตร์ของไข้หวัดใหญ่ตีความได้ยาก เพราะอาการสามารถคล้ายกับโรคทางเดินหายใจอื่นได้[193][194] โรคนี้อาจแพร่กระจายจากทวีปยุโรปไปทวีปอเมริกาตั้งแต่การทำให้ทวีปอเมริกาเป็นอาณานิคมของยุโรป เนื่องจากประชากรพื้นเมืองเกือบทั้งหมดของแอนทิลลิสเสียชีวิตจากการระบาดที่คล้ายกับไข้หวัดใหญ่ที่ระบาดในปี 1493 หลังคริสโตเฟอร์ โคลัมบัสเดินทางถึง[195][196]

บันทึกที่น่าเชื่อครั้งแรกของไข้หวัดใหญ่ระบาดทั่วคือการระบาดในปี 1580 ซึ่งเริ่มต้นในประเทศรัสเซียแล้วกระจายไปทวีปยุโรปผ่านทวีปแอฟริกา ในกรุงโรม มีผู้เสียชีวิตกว่า 8,000 คน และประชากรในนครของสเปนหลายแห่งเสียชีวิตเกือบทั้งหมด การระบาดทั่วดำเนินไปเป็นระยะตลอดคริสต์ศตวรรษที่ 17 และ 18 โดยมีการระบาดทั่วปี 1830–1833 ที่กว้างขวางเป็นพิเศษ ซึ่งติดเชื้อประชากรที่สัมผัสประมาณหนึ่งในสี่[194]

การระบาดครั้งที่มีชื่อเสียงที่สุดและมีผู้เสียชีวิตมากที่สุดได้แก่ การระบาดทั่วของไข้หวัดใหญ่ปี 1918 (ไข้หวัดใหญ่สเปน) (ไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ ประเภทย่อยเอช1เอ็น1) ซึ่งกินเวลาตั้งแต่ปี 1918 ถึง 1919 ยังไม่ทราบแน่ชัดว่ามียอดผู้เสียชีวิตเท่าใด แต่ค่าประมาณอยู่ระหว่าง 50 ถึง 100 ล้านคน[190][197][198] มีการอธิบายการระบาดทั่วนี้ว่าเป็น "ภัยพิบัติทางการแพทย์ใหญ่สุดในประวัติศาสตร์" และอาจฆ่าคนได้มากเท่าแบล็กเดท[194] ยอดผู้เสียชีวิตสูงขนาดนี้เกิดจากอัตราการติดเชื้อที่สูงอย่างยิ่งมากถึง 50% และอาการรุนแรงสุดขั้ว ที่ไวรับต่อพายุไซโทไคน์[198] อาการในปี 1918 ผิดปกติเสียจนทีแรกไข้หวัดใหญ่วินิจฉัยผิดเป็นไข้เด็งกี อหิวาตกโรคหรือไทฟอยด์ ผู้สังเกตคนหนึ่งเขียนว่า "ภาวะแทรกซ้อนที่เตะตาที่สุดอย่างหนึ่งคือเลือดออกจากเยื่อเมือก โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากจมูก กระเพาะอาหารและลำไส้ เลือดออกจากหูและจุดเลือดออกในผิวหนังก็พบได้"[197] การเสียชีวิตส่วนใหญ่เกิดจากปอดบวมแบคทีเรีย ซึ่งเป็นการติดเชื้อทุติยภูมิที่เกิดจากไข้หวัดใหญ่ แต่ไวรัสยังฆ่ามนุษย์โดยตรงได้ โดยทำให้เกิดเลือดออกปริมาณมากและอาการบวมน้ำในปอด[199]

การระบาดทั่วของไข้หวัดใหญ่ปี 1918 เป็นการระบาดทั่วโลกอย่างแท้จริง โดยแพร่กระจายไปถึงอาร์กติกและหมู่เกาะแปซิฟิกอันห่างไกล ครั้งนั้นโรคทำให้ผู้ติดเชื้อเสียชีวิตระหว่าง 2 ถึง 20% ตรงข้ามกับอัตราตายของไข้หวัดใหญ่ระบาดตามปกติ 0.1%[190][197] ลักษณะอีกอย่างหนึ่งของการระบาดนี้คือผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นวัยผู้ใหญ่ตอนต้น โดยการเสียชีวิตจากการะบาดของไข้หวัดใหญ่ 99% เกิดในบุคคลอายุต่ำกว่า 65 ปี และกว่าครึ่งเป็นผู้ใหญ่อายุระหว่าง 20 ถึง 40 ปี[200] นับเป็นสิ่งผิดปกติเพราะปกติไข้หวัดใหญ่มีอัตราตายสูงสุดในเด็กอ่อน (อายุต่ำกว่า 2 ปี) และผู้สูงอายุมาก (อายุเกิน 70 ปี) ไม่ทราบอัตราตายของการระบาดปี 1918–1919 แน่ชัด แต่ประเมินว่ามีประชากรโลกเสียชีวิตะระหว่าง 2.5% ถึง 5% ของประชากรโลก ใน 25 สัปดาห์แรก มีผู้เสียชีวิตมากถึง 25 ล้านคน ในทางตรงกันข้าม เอชไอวี/เอดส์มีผู้เสียชีวิต 25 ล้านใน 25 ปีแรก[190]

การระบาดของไข้หวัดใหญ่ในเวลาต่อมาไม่มีผลทำลายล้างขนาดนั้นแล้ว ซึ่งรวมไข้หวัดใหญ่เอเชียปี 1957 (ชนิดเอ สายพันธุ์เอช2เอ็น2) และไข้หวัดใหญ่ฮ่องกงปี 1968 (ชนิดเอ สายพันธุ์เอช3เอ็น2) แต่แม้การระบาดขนาดย่อมกว่านี้ก็ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายล้านคนได้ ในการระบาดทั่วต่อมา มียาปฏิชีวนะเพื่อควบคุมการติดเชื้อทุติยภูมิ และอาจช่วยลดอัตราตายเมื่อเทียบกับไข้หวัดใหญ่สเปนปี 1918[190]

ไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิดหลักในมนุษย์ สี่เหลี่ยมทับแสดงการปรากฏสายพันธุ์ใหม่ ทำให้เกิดการระบาดทั่วของไข้หวัดใหญ่ซ้ำ ๆ เส้นประแสดงการระบุสายพันธุ์ที่ไม่แน่ชัด[201]

ไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิดแรกที่แยกได้มาจากสัตว์ปีก เมื่อในปี 1901 เชื้อก่อโรคชื่อ "กาฬโรคสัตว์ปีก" ผ่านตัวกรองเชมเบอร์แลน ซึ่งมีรูเล็กจนแบคทีเรียผ่านไม่ได้[202] มีการค้นพบสาเหตุของไข้หวัดใหญ่ คือไวรัสวงศ์ Orthomyxoviridae ครั้งแรกในหมูโดยริชาร์ด โชปในปี 1931[203] ไม่นานมีการแยกไวรัสจากมนุษย์โดยกลุ่มที่มีแพทริก เลดลอว์เป็นหัวห้นา ณ สภาวิจัยการแพทย์แห่งสหราชอาณาจักรในปี 1933[204] อย่างไรก็ตาม กว่าจะเข้าใจสภาพไม่ใช่เซลล์ของไวรัสก็ล่วงมาจนเวนเดล สแตนลีย์ทำให้ไวรัสโมเซกยาสูบเป็นผลึกในปี 1935

ก้าวสำคัญก้าวแรกในการป้องกันไข้หวัดใหญ่มีการพัฒนาวัคซีนชนิดไวรัสตายในปี 1944 โดยทอมัส ฟรานซิส จูเนียร์ ซึ่งต่อยอดจากงานของแฟรงก์ แม็กฟาร์ลีน เบอร์เน็ตชาวออสเตรเลีย ผู้แสดงว่าไวรัสเสียศักยภาพก่อโรคเมื่อเพาะเลี้ยงในไข่ไก่ที่ปฏิสนธิแล้ว[205] การประยุกต์ใช้การสังเกตนี้โดยฟรานซิสทำให้กลุ่มนักวิจัยของเขาที่มหาวิทยาลัยมิชิแกนพัฒนาวัคซีนไข้หวัดใหญ่เป็นครั้งแรกด้วยการสนับสนุนของกองทัพสหรัฐ[206] กองทัพเข้าร่วมการวิจัยนี้เพราะประสบการณ์ไข้หวัดใหญ่ในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ซึ่งกำลังพลหลายพันนายเสียชีวิตจากไวรัสในเวลาไม่กี่เดือน[197] เมื่อเทียบกับวัคซีนแล้ว การพัฒนายาต้านไข้หวัดใหญ่ช้ากว่า โดยมีการจดสิทธิบัตรอะแมนตาดีนในปี 1966 และอีกเกือบสามสิบปีต่อมา กำลังมีการพัฒนายากลุ่มใหม่ (ตัวยับยั้งนิวรามินิเดส)[207]

ไข้หวัดใหญ่ระบาดทั่วที่สำคัญ ๆ ยุคปัจจุบัน[208][209]
ชื่อ ปี ประชากรโลก ชนิดย่อย Reproduction number[210] คนติด (คนโดยประมาณ) คนตายทั่วโลก (คน) อัตราป่วยตาย ระดับความรุนแรง
ไข้หวัดใหญ่ระบาดทั่ว
ค.ศ. 1889-1890[211]
1889-1890 1,530 ล้าน น่าจะ H3N8 หรือ H2N2 2.10 (IQR, 1.9-2.4)[211] 20-60%[211] (300-900 ล้าน) 1 ล้าน 0.10-0.28%[211] 2
ไข้หวัดใหญ่สเปน[212] 1918-20 1,800 ล้าน H1N1 1.80 (IQR, 1.47-2.27) 33% (500 ล้าน)[213] หรือ >56% (>1 พันล้าน)[214] 17[215] - 100[216][217] ล้าน 2-3%,[214] หรือ ~4% หรือ ~10%[218] 5
ไข้หวัดใหญ่เอเชีย 1957-58 2,900 ล้าน H2N2 1.65 (IQR, 1.53-1.70) >17% (>500 ล้าน)[214] 1-4 ล้าน[214] <0.2%[214] 2
ไข้หวัดใหญ่ฮ่องกง 1968-69 3,530 ล้าน H3N2 1.80 (IQR, 1.56-1.85) >14% (>500 ล้าน)[214] 1-4 ล้าน[214] <0.2%[214] 2
ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009[219][220] 2009-10 6,850 ล้าน H1N1/09 1.46 (IQR, 1.30-1.70) 11-21% (700-1,400 ล้าน)[221] 151,700 - 575,400[222] 0.03%[223] 1
ไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล[t 1] ทุกปี 7,750 ล้าน A/H3N2, A/H1N1, B, ... 1.28 (IQR, 1.19-1.37) 5-15% (340-1,000 ล้าน)[224]3-11% หรือ 5-20%[225][226](240-1,600 ล้าน) 290,000 - 650,000/ปี[227] <0.1%[228] 1
หมายเหตุ
  1. อาจไม่ใช่การระบาดทั่ว แต่แสดงไว้เพื่อเปรียบเทียบ

แหล่งที่มา

WikiPedia: ไข้หวัดใหญ่ http://espace.library.uq.edu.au/view/UQ:245459/UQ2... http://birdflubook.com/resources/0Ilyushinaxxx.pdf http://adc.bmj.com/content/85/5/351.full.pdf http://www.ejmii.com/article_pdf.php?code=PDT4b0e9... http://www.ens-newswire.com/ens/jan2006/2006-01-18... http://abcnews.go.com/Health/bird-flu-spreads-chin... http://www.horizonpress.com/avir http://www.horizonpress.com/flu http://www.InfluenzaReport.com/ http://jarvm.com/articles/Vol6Iss2/Vol6Iss2Gingeri...