ภูมิหลัง ของ ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป_2012_นัดชิงชนะเลิศ

ก่อนการแข่งขันนัดนี้ ทั้งสองทีมพบกันมาแล้ว 30 ครั้ง โดยอิตาลีชนะ 10 นัด ส่วนสเปนชนะ 8 นัด ซึ่งการแข่งขันครั้งหลังสุด เป็นนัดกระชับมิตรเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม ค.ศ. 2011 ที่สนามสตาดิโอ ซาน นีโกลา ในเมืองบารี ผลปรากฏว่า อิตาลีเปิดบ้านชนะสเปนไป 2-1[7][8] อิตาลีเคยชนะเลิศฟุตบอลยูโรมาแล้วเมื่อ ค.ศ. 1968 ขณะที่สเปนได้มาสองสมัยด้วยกัน คือในการแข่งขันเมื่อ ค.ศ. 1964 ซึ่งชนะสหภาพโซเวียต และครั้งล่าสุดเมื่อ ค.ศ. 2008 ซึ่งชนะทีมชาติเยอรมนี

โดยทีมชาติฝรั่งเศส เคยเป็นผู้ชนะเลิศเหนือทั้งสองชาติมาก่อนแล้ว โดยในฟุตบอลยูโรเมื่อ ค.ศ. 2000 พวกเขาชนะอิตาลี 2-1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ด้วยระบบโกลเดนโกล และในการแข่งขันเมื่อ ค.ศ. 1984 ฝรั่งเศสเอาชนะสเปน 2-0 ในเวลาปกติ อนึ่ง เมื่อเริ่มต้นการแข่งขันคราวนี้ สเปนเป็นทีมอันดับหนึ่ง จากการจัดอันดับของฟีฟ่า ขณะที่อิตาลีอยู่ในอันดับที่ 12 ส่วนการจัดอันดับของยูฟ่า พวกเขาอยู่ในอันดับที่ 8 อย่างไรก็ตาม อิตาลีเคยชนะเลิศในฟุตบอลโลกมาถึง 4 สมัย คือเมื่อครั้งที่ 2 (ค.ศ. 1934) ครั้งที่ 3 (ค.ศ. 1938) ครั้งที่ 12 (ค.ศ. 1982) และครั้งที่ 18 (ค.ศ. 2006) ซึ่งมากที่สุดในบรรดาทีมชาติยุโรป แต่ก็พ่ายแพ้ต่อบราซิลไป 2 สมัย จากครั้งที่ 9 (ค.ศ. 1970) และครั้งที่ 15 (ค.ศ. 1994) ส่วนสเปนเพิ่งชนะเลิศในครั้งที่ 19 เมื่อปี ค.ศ. 2010 เท่านั้น

ใกล้เคียง

ฟุตบอลทีมชาติไทย ฟุตบอลโลก ฟุตบอล ฟุตบอลทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ฟุตบอลโลก 2022 ฟุตบอลทีมชาติเยอรมนี ฟุตบอลทีมชาติอาร์เจนตินา ฟุตบอลทีมชาติบราซิล ฟุตบอลทีมชาติญี่ปุ่น ฟุตบอลทีมชาติเกาหลีใต้

แหล่งที่มา

WikiPedia: ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป_2012_นัดชิงชนะเลิศ http://www.chicagotribune.com/sports/sns-rt-uk-soc... http://soccernet.espn.go.com/report?id=316314&cc=5... http://sports.nationalpost.com/2012/06/27/euro-201... http://www.soccerway.com/news/2012/June/29/italy-q... http://www.uefa.com/newsfiles/euro/2012/2003351.fr... http://www.uefa.com/newsfiles/euro/2012/2003351_lu... http://www.uefa.com/newsfiles/euro/2012/2003351_ts... http://www.uefa.com/printoutfiles/competitions/eur... http://www.uefa.com/uefa/aboutuefa/organisation/ex... http://www.uefa.com/uefaeuro/news/newsid=1837138.h...