ประวัติ ของ ภัคจีรา_วรรณสุทธิ์

ภัคจีรา วรรณสุทธิ์ (โอ๋) เริ่มต้นเข้าวงการบันเทิงมาโดย

ในปี 2534 อายุ 14 ปี ไปเดินสยามแสควร์ มีคนชวนมาให้เข้าการประกวด มิส สยามเซ็นเตอร์ ยัง สตาร์ เข้ารอบ 10 คนสุดท้าย

ในปี 2536 อายุ 16 ปี ชีวิตเปลี่ยน คุณปู่ คุณย่าจำเป็นต้องขายบ้านใหญ่ ที่เป็นโรงงาน เพราะเศรษฐกิจไม่ดี จนขาดทุน และล้มละลาย คุณพ่อเครียด เริ่มติดเหล้า ตอนนั้นน้องสาวคนเล็กเพิ่งเกิด โอ๋เริ่มคิดว่าชีวิตจะต้องรับผิดชอบ ต้องเลี้ยงดูครอบครัว ในฐานะพี่สาวคนโต จึงตัดสินใจโทรไปหา ตี๋ ธรรมนูญ ศรีสดใสสกุล ที่เคยให้นามบัตรไว้ ก็พาไปแคสงานงานหนึ่งแต่ก็ไม่ได้ โชคดีไปเดินแถวประตูน้ำ ก็มีคนเรียกไปให้ถ่ายแบบ นิตยสาร วัยน่ารัก พอได้เงินมาบ้าง ก็ส่งตัวเองเรียนมาเรื่อยๆจนจบปริญญาตรี

ในปี 2539 อายุ 19 ปี ก็สมัครเข้าประกวด มิส ฟิวเจอร์ โมเดล คอนเทสต์ (ประกวดหนุ่มสาวช่างฝัน ของนิตยสาร เธอกับฉัน) ก็ได้รับรางวัลชนะเลิศ และขวัญใจช่างภาพมา จากนั้น อุ๊บ วิริยะ พงษ์อาจหาญ นักปั้นดาราชื่อดัง เห็นแวว ก็พาไปประกวด มิส มอเตอร์ โชว์ ในปี 2539 ซึ่งก็ได้ตำแหน่งชนะเลิศมา และถือเป็นการเข้าวงการบันเทิงของโอ๋อย่างเป็นทางการ และเป็นที่รู้จักของคนอย่างเป็นวงกว้าง

สำหรับผลงานในวงการบันเทิงไทย โอ๋ เป็นนักแสดง และพิธีกรอิสระ เธอผ่านผลงานถ่ายแบบ พิธีกร ละครมามากมาย ในผลงานละครเรื่องแรก ลูกผู้ชายหัวใจไม้ฉาก ในปี 2539 เสนอฉายทางช่อง 9 ของค่ายกันตนา ในบทนางเอก โดยประกบคู่กับ สันติ ประกายเลิศลักษณ์ หรือที่ทุกคนรู้จักกันดี ในชื่อ สันติ จีมส์ ซึ่งเป็นผลงานในบทนางเอก จากนั้นก็เริ่มผันตัวมาเล่นบทนางร้าย ในละคร อีแตน และ ไฟลวง ทางช่อง 3 ในปี 2541 ซึ่งเธอก็สามารถแสดงฝีมือได้อย่างยอดเยี่ยม โดยละคร 2 เรื่องนี้ ออกอากาศต่อกัน ซึ่งเป็นผลงานสร้างชื่อให้โอ๋เป็นอย่างมาก จากนั้นก็ได้รับบทนางร้ายมาโดยตลอด รวมไปถึง ผลงานละครเด่นอีกมากมาย เช่น ในปี 2542 เสน่ห์นางงิ้ว และ ปัญญาชนก้นครัว ทางช่อง 3 ในปี 2543 รอยรัก รอยอดีต ทางช่อง 5 ในปี 2544 คน 2 คม ทางช่อง 5 และ เมียจำเป็น ทางช่อง 7 ในปี 2549 อุ้มรัก ทางช่อง 3 ในปี 2550 มาเฟียที่รัก ทางช่อง 3 เป็นต้น

ในปี 2552 ได้เข้าพิธีแต่งงาน และจดทะเบียนสมรสแล้ว กับเฟี๊ยต มธุกร พสวงศ์ เป็นทายาท รุ่นที่ 3 ของร้านทอง ฮั่ว เซ่ง เฮง ชื่อดัง ใน 4 สาขา บนถนนย่านเยาวราช, 1 สาขา ในห้าง ซีคอนสแควร์ และอีก 1 สาขา ในตึกยูไนเต็ด ย่านสีลม รวมทั้งสิ้น 6 สาขา ณ ห้องรอยัล บอลรูม โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล ในวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2552 สำหรับพิธีในช่วงเช้า มีพิธีหมั้นภายในครอบครัวทั้ง 2 ฝ่าย โดยเฟี๊ยตหอบสินสอด ทองคำ 200 บาท พร้อมด้วยเงินสดจำนวนหนึ่ง ชุดเครื่องเพชร และแหวนเพชร 4 กะรัต นอกจากนี้ ยังมีพิธียกน้ำชาแบบจีนด้วย ส่วนบรรยากาศงานเลี้ยงฉลองพิธีมงคลสมรสในตอนกลางคืน ที่ห้องรอยัล บอลรูม โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล ตกแต่งด้วยดอกไม้โทนสีโอโรส ภายในตกแต่งด้วยดอกไม้พู่ระย้าสีทอง เปรียบเสมือนเส้นทองคำที่สื่อถึงธุรกิจของฝ่ายชาย เป็นงานเลี้ยงแบบค็อกเทล มีแขกมาร่วมงานจำนวน 1,000 กว่าคน โดยมี เตช บุนนาค อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานในพิธีตอนกลางคืน มีพิธีกรในงานคือ แหม่ม สุริวิภา กุลตังวัฒนา และ ดุ๊ก ภาณุเดช วัฒนสุชาติ ส่วนชุดเจ้าสาว ประดับตกแต่งด้วยลูกไม้ฝรั่งเศส ชายกระโปรงผ้าซาติน ออกแบบโดย ไข่ บูติก หรือ สมชาย แก้วทอง ส่วนชุดเจ้าบ่าวเป็นชุดทักซิโด้ และจากการที่เฟี๊ยต เป็นทายาทร้านทองชื่อดัง งานแต่งงานของโอ๋และเฟี๊ยต ก็ได้ลงหนังสือพิมพ์ชื่อดังของประเทศจีนด้วย ชื่อหนังสือพิมพ์ว่า Asia News Time พ.ศ. 2552 [1]

ในปี 2553 โอ๋ป่วยเป็น โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (Myasthenia Gravis) และได้เข้ารับการผ่าตัดรักษาที่โรงพยาบาลศิริราช เมื่อวันศุกร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2553 โดยอาการแทบจะหายเป็นปกติกว่า 90% แล้ว[2]

ในปี 2556 มีลูกสาว 1 คน ชื่อ แสนดี พสวงศ์ (แสนดี) เกิดวันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556[ต้องการอ้างอิง]