บริบทของประวัติศาสตร์ ของ มนุษย์พรุพีต

มนุษย์พรุพีตยุคเหล็ก

สตรีฮัลเดรอโมสที่พบบนคาบสมุทรจัตแลนด์ในเดนมาร์ก

ร่างของมนุษย์พรุพีตส่วนใหญ่ที่พบมาจากยุคเหล็ก ซึ่งเป็นช่วงระยะเวลาที่พรุพีตทางตอนเหนือของยุโรปเป็นบริเวณที่กว้างใหญ่กว่าในปัจจุบันมาก ร่างของมนุษย์พรุพีตของยุคเหล็กมีความคล้ายคลึงกันหลายอย่าง ที่ทำให้ทราบถึงประเพณีธรรมเนียมนิยมของการสังหารและวิธีทิ้งร่างผู้ตาย ชนยุคเหล็กก่อนสมัยโรมันเป็นสังคมที่ตั้งถิ่นฐานแบบถาวรภาพ ที่สร้างหมู่บ้าน และมีระบบสังคมที่มีระดับชั้น ชนเหล่านี้เป็นเกษตรกร และ เลี้ยงสัตว์ และมีความเป็นอยู่อย่างใกล้ชิดกับสัตว์เลี้ยง ในบางบริเวณของทางตอนเหนือของยุโรป ก็อาจจะมีการตกปลาเพื่อใช้เป็นอาหารเสริม แม้ว่าจะยังเป็นอิสระจากจักรวรรดิโรมันผู้มีอิทธิพลอยู่ทางตอนใต้ของยุโรป แต่ก็มีการติดต่อค้าขายกัน[6]

ในหมู่มนุษย์ในยุคหิน พรุพีตมีความสำคัญบางอย่าง และเป็นสถานที่สำหรับอุทิศสิ่งสักการะลงไปที่มักจะเป็นเครื่องประดับคอ, ข้อมือ หรือ ข้อเท้าที่ทำด้วยสำริดหรือบางครั้งแต่ไม่บ่อยนักก็อาจจะเป็นทอง นักโบราณคดีปีเตอร์ กลอบเชื่อว่าสิ่งที่พบในพรุเป็น “สิ่งสักการะที่มอบให้แก่เทพเจ้าแห่งความเจริญพันธุ์และความมีลาภ”[7] ซึ่งเป็นความคิดเห็นที่เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไป ฉะนั้นจึงเป็นที่สันนิษฐานกันว่าร่างที่พบในพรุพีตเป็นร่างที่โยนลงไปในพรุด้วยเหตุผลที่คล้ายคลึงกันดังกล่าว และเป็นแบบอย่างของการสังเวยด้วยมนุษย์แด่เทพดาฟ้าดิน แต่กระนั้นก็ยังมีผู้ที่เชื่อว่าอาจจะเป็นร่างของผู้ที่ถูกทำร้ายโดยอาชญากรรมแทนที่จะเป็นเหตุผลทางด้านประเพณีความเชื่อข้างต้น[8]

ร่างที่พบหลายร่างในพรุแสดงร่องรอยของการถูกแทง, ถูกทุบด้วยวัตถุหนัก, ถูกแขวนคอ หรือ ถูกบีบคอ, หรือ มีร่องรอยหลายอย่างพร้อมกันตามที่กล่าวมา ในบางกรณีก็อาจจะถูกตัดหัวเช่นในกรณีของหัวออสเตอร์บีย์ที่พบที่โคห์ลมอร์ใกล้ออสเตอร์บีย์ในเยอรมนีในปี ค.ศ. 1948 ที่พบแต่ศีรษะในพรุโดยไม่มีร่าง[9]

โดยทั่วไปแล้วร่างที่พบจะเป็นร่างเปลือย หรือบางครั้งก็จะมีชิ้นส่วนของเครื่องแต่งกายติดตัวอยู่บ้าง โดยเฉพาะเครื่องสวมศีรษะ[10] ในหลายกรณีก็จะมีกิ่งไม้, ท่อนไม้ หรือหินวางทับอยู่บนร่าง และบางครั้งก็จะวางเป็นทรงกางเขน หรือบางครั้งก็จะปักกิ่งไม้ลงในเลนพีตเพื่อยึดร่างเอาไว้กับที่ นักโบราณคดีปีเตอร์ กลอบกล่าวว่า “การกระทำดังกล่าวอาจจะเป็นเครื่องแสดงถึงความต้องการที่จะยึดร่างของผู้ตายอย่างแน่นหนาเอาไว้ในพรุ”[11] บางร่างก็แสดงร่องรอยของการถูกทรมาน เช่นร่างของมนุษย์โครกัห์นที่มีรอยปาดใต้หัวนม

มนุษย์พรุพีตบางร่างเช่นมนุษย์โทลลุนด์จากเดนมาร์กพบพร้อมกับเชือกที่ใช้ในการรัดคอที่ยังคงพันอยู่รอบคอ หรือผมด้านหนึ่งของหัวของมนุษย์ยเดที่พบในเนเธอร์แลนด์ และร่างอื่นๆ ที่พบในไอร์แลนด์ถูกตัดเกรียน แต่อาจจะเป็นได้ว่ามาจากการที่ศีรษะด้านนั้นถูกออกซิเจนเป็นเวลานานกว่าอีกข้างหนึ่ง สิ่งที่คล้ายกันของมนุษย์พรุพีตที่พบคือเป็นบุคคลที่มาจากชนชั้นสูง ที่เห็นได้จากเล็บที่ตัดอย่างเรียบร้อย และจากการทดสอบโปรตีนในผมมักจะพบว่าเป็นผู้ที่เคยกินดีอยู่ดี สตราโบบันทึกว่าชนเคลต์มีประเพณีการควักใส้พุงของผู้ตาย ใส้พุงของร่างบางร่างที่พบในพรุเช่นร่างของมนุษย์เวียร์ดินจ์ที่พบทางตอนใต้ของเนเธอร์แลนด์ก็พบว่าใส้พุงบางส่วนถูดดึงออกมาทางรอยผ่า[ต้องการอ้างอิง]

จากการวิจัยทางนิติเวชสมัยใหม่ในปัจจุบันพบว่ารอยบาดเจ็บบางอย่าง เช่นกระดูกหัก หรือ หัวกะโหลกที่ถูกทุบจนแตกมิได้เป็นผลมาจากการทรมาน แต่มาจากน้ำหนักของวัสดุในพรุ[12] ตัวอย่างเช่นกะโหลกที่ร้าวของมนุษย์เกราบอลล์ที่เคยเชื่อกันว่าเป็นเพราะถูกทุบหัว แต่จากการใช้การถ่ายภาพส่วนตัดด้วยคอมพิวเตอร์โดยนักวิทยาศาสตร์ชาวเดนมาร์กพบว่าสาเหตุที่ร้าวมาจากแรงกดดันของวัตถุในพรุเป็นเวลานานหลังจากที่เสียชีวิตไปแล้ว[12]

ร่างอื่นนอกจากมนุษย์พรุพีตยุคเหล็ก

มนุษย์พรุพีตที่มิได้มาจากยุคเหล็กก็มี ร่างที่เก่าที่สุดก็ได้แก่มนุษย์เคิลบ์แยร์กที่พบที่เดนมาร์กที่เชื่อกันว่ามีอายุราว 8000 ปีก่อนคริสต์ศักราชในระหว่างยุคหิน ในบรรดาร่างที่พบล่าสุดก็มีร่างของสตรีที่พบในไอร์แลนด์ที่มาจากคริสต์ศตวรรษที่ 16 ที่มีหลักฐานเป็นว่าผู้ที่เสียชีวิตเพราะฆ่าตัวตาย ฉะนั้นจึงได้รับการฝังไว้ในพรุพีต แทนที่จะเป็นในสุสานของคริสต์ศาสนสถานเพราะได้ทำบาปตามหลักปรัชญาของคริสต์ศาสนา[ต้องการอ้างอิง] มนุษย์พรุพีตอื่นๆ ก็เป็นศพของทหารรัสเซียและเยอรมันที่ถูกสังหารที่แนวรบด้านตะวันออกของสงครามโลกครั้งที่หนึ่งในภูมิภาคทะเลสาบมาซูเรียนทางตะวันออกเฉียงเหนือของโปแลนด์[13]

แหล่งที่มา

WikiPedia: มนุษย์พรุพีต http://74.125.155.132/scholar?q=cache:VkSJiQQ_v8wJ... http://archaeology.about.com/od/kterms/g/kayhausen... http://books.google.com/books?id=5e0tkA6gGT8C&pg=P... http://books.google.com/books?id=DppwAMTs5skC&pg=P... http://www.mummytombs.com/bog/datgen.htm http://www.mummytombs.com/bog/gallagh.htm http://www.mummytombs.com/bog/husbake.htm http://www.mummytombs.com/bog/osterby.htm http://www.mummytombs.com/museums/nl.assen.drents.... http://ngm.nationalgeographic.com/2007/09/bog-bodi...