เวทีชกมวย ของ มวยไชยา

การชกมวยไชยา ในยุคแรกชกที่ศาลาเก้าห้อง โดยที่ศาลาเก้าห้องมีบริเวณที่ชกมวยก็คือสนามหน้าศาลา จะมีเจ้าหน้าที่ปักหลักสี่หลักแล้วใช้เชือกป่านขนาดใหญ่ (เชือกพวน) ขึงกับหลักสามสี่สาย โดยในศาลาจะมีเจ้านาย และเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆของเมืองไชยาจะพักอยู่ในศาลาเพื่อชมการชกมวยทุกครั้งไป

เวทีมวยวัดพระบรมธาตุไชยา

เมื่อการชกมวยที่ศาลาเก้าห้องต้องมีอันล้มเลิก เนื่องมาจากศาลากลางถูกย้ายไปอยู่ที่บ้านดอน พระยาไชยาก็ไปเป็นเจ้าเมืองที่บ้านดอนดังที่กล่าวมาแล้วในตอนต้นรวมทั้งได้ย้ายที่ว่าการอำเภอมาไว้ที่อำเภอไชยาในปัจจุบันก็เกิดสนามมวยแห่งใหม่ขึ้นที่บริเวณสนามวัดพระบรมธาตุ เพราะในสมัยนั้นวัดพระบรมธาตุมีงานประจำปีในเดือน 6 ของทุกปี การจัดให้มีการชกมวยก็ขึ้นที่สนามแห่งนี้ด้วย โดยครั้งแรกชกบนลานดินเหมือนที่ศาลาเก้าห้อง ที่ตั้งสนามอยู่ระหว่างพระเวียนกับถนนที่ตัดผ่านหน้าวัด ซึ่งถนนที่ผ่านทุกวันนี้แต่สมัยนั้นยังไม่มีกำแพงแก้วเหมือนปัจจุบัน การชกและกติกาก็เหมือนที่ศาลาเก้าห้องทุกประการ จะต่างกันที่สนามวัดพระบรมธาตุมีการเก็บเงิน โดยใช้ปีกเหยี่ยว (ใบตาลโตนดผ่าซีกแล้วแล้วโน้มมาผูกติดกับก้านใบ) กั้นเป็นบริเวณสนามและเนื่องจากกีฬามวยเป็นที่สนใจของประชาชนโดยทั่วไป พระครุโสภณเจตสิการา (เอี่ยม) เห็นว่ามีหนทางที่จะเก็บเงินเป็นรายได้บำรุงวัด จึงดำริคิดสร้างเวทีมวยถาวรขึ้นที่สนามมวยแห่งนี้ โดยให้นายภักดิ์ ลำดับวงค์ เป็นผู้ออกแบบก่อสร้าง นายจอน แสงสิทธิ์ เป็นนายช่าง นายร่วง เชิงสมอ เป็นลูกมือช่าง และสร้างเสร็จในปี 2474 โดยท่านพระครูโสภณเจตสิการามเป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย ทั้งสิ้น ประมาณ 500 บาท

เวที่ใหม่แห่งนี้ใช้ทางเหนือของสถานที่เดิมไปเล็กน้อย โดยเลื่อนใกล้ถนนเข้าไปอีก ลักษณะของเวที เป็นเสาปูนซีเมนต์เสริมเหล็กหน้า 8 นิ้ว จำนวน 4 ต้นกว้างและยาวด้านละ 4 วา เทคอนกรีตเท่าหน้าเสาทั้ง 4 ด้าน สูงจากพื้นดินประมาณ 1 เมตร ตรงกลางถมดิน เสาสูง 6 ศอก หลังคามุงสังกะสี ไม้ที่ใช้เป็นไม้หลุมพอโดยตลอดเฉพาะเครื่องทำหลังคา

สมัยเริ่มแรก

  • การชกยกเลิกหมัดถักมาใช้นวม ยกเลิกยกเวียนมาเป็นยกตลอด คือแต่ละคู่ชกกันจนครบ 5 ยก แล้วจึงเป็นการชกของคู่ต่อไป กติกาการชกเหมือนปัจจุบัน
  • การจัดสนามและเวที สนามจะกั้นด้วยผ้าขาว เวทีกั้นเชือกแบบปัจจุบัน รอบขอบเชือกด้านนอกจนติดขอบคอนกรีตมีต้นกล้วยวางเรียงโดยรอบเพื่อป้องกันอันตรายให้แก่นักมวย พื้นเวทีซึ่งถมดินไว้ถูกปูทับด้วยแกลบหรือฟางข้าวแล้วปูทับด้วยกระสอบป่าน ซึ่งต่อมาจึงได้เปลี่ยนมาใช้ผ้าใบ
  • การจับเวลา ใช้นาฬิกา การให้สัญญาณการชกและหมดเวลาใช้ระฆังของโรงเรียนวัดพระบรมธาตุ
  • เครื่องดนตรีใช้ปี่เป็นหลักและใช้กลองยาวช่วยในการประโคม
  • เครื่องขยายเสียงไม่มีใช้ ต้องใช้โทรโข่งทั้งประกาศและพากย์มวย นายชม จุลกัลป์ เป็นผู้ประกาศประจำเวทีเป็นคนแรก
  • กรรมการ กรรมการห้ามมวยคนแรกของเวที คือ นายอมโร อมรบุตร คนที่สอง คือ นายพันธ์ ทิพย์มณี สมัยดำรงตำแหน่งปลัดอำเภอท่าฉาง คนต่อมาคือ นายชม จุลกัลป์ ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งประจำแผนกอยู่ที่ว่าการอำเภอไชยา

สมัยสิ้นสุด

หลังจากพ้นยุคแรกมาการชกก็มีการเปลี่ยนแปลงจนเข้ารูปแบบของปัจจุบันทุกประการ แต่เมื่อสิ้นสมัยของพระครูโสภณเจตสิการาม (เอี่ยม) ท่านเจ้าคุณพุทธทาส (ในสมัยนั้น) ก็ให้ยกเลิกงานมหรสพและงานประจำปี คงรักษาไว้แต่พิธีทางศาสนา แต่ก็มีผู้คิดเปลี่ยนสถานที่ชกและสถานที่จัดงานไปไว้ที่สนามหน้าที่ว่าการอำเภอไชยา แต่จัดได้ไม่กี่ปีก็ต้องมีอันล้มเลิกการจัดงานนั้นไป ซึ่งหลังจากนั้นก็มีการชกมวยในงานต่างๆจนกระทั่งถึงทุกวันนี้

นักมวยฝีมือเอกของไทยที่เคยผ่านการชกที่เวทีแห่งนี้มีหลายราย อาทิ จำเริญ ทรงกิตรัตน์, โกต๊อง แก้วอำไพ, กลยุทธ ลูกสุรินทร์, บุญธรรม แสงสุเทพ, ไสว แสงจันทร์ และ เชิด จุฑาเพชร

การรื้อถอนเวที่แห่งนี้

สาเหตุที่ต้องทำการรื้อถอนเวทีแห่งนี้ ก็เพื่อที่จะเตรียมสถานที่เพื่อรับเสด็จ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ในคราวยกพระสุวรรณฉัตรพระบรมธาตุไชยา เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2525 โดยทำการรื้อถอนเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2524 ผู้ควบคุมการรื้อถอนได้แก่ นายนุกูล บุญรักษา ครูใหญ่โรงเรียนวัดพระบรมธาตุ ซึ่งอดีตเคยเป็นนักมวยฝีมือดีที่เคยผ่านการชกที่เวทีแห่งนี้มาก่อน ท่านบอกว่าเสียดายของเก่าแต่จำเป็นที่ต้องรื้อถอน