วิทยาเขต ของ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย_ลอสแอนเจลิส

ตอนที่ยูซีแอลเอเพิ่งเปิดวิทยาเขตใหม่ในปี 1929 วิทยาเขตที่อาคารเพียงสี่แห่ง ได้แก่ห้องสมุดประจำวิทยาลัย หอประชุมรอยส์ อาคารฟิสิกส์และชีววิทยา และอาคารเคมี บันไดเจนส์เป็นบันได 87 ขั้นที่เมื่อขึ้นไปแล้วจะถึงอาคารเรียนทั้งสี่แห่งนี้ ปัจจุบัน วิทยาเขตมีอาคารกว่า 163 อาคารภายในวิทยาเขตขนาด1.7 km² ตามตะวันตกของลอสแอนเจลิส ทางตอนเหนือของเขตการค้าเวสต์วูตทางใต้ของถนนซันเซต หากพิจรณาขนาดของวิทยาเขต วิทยาลัยมีขนาดเล็กที่สุดใน 10 แห่ง [6] วิทยาเขตอยู่ใกล้กับทางด่วนหมายเลข 405[38]

วิทยาเขตมีสวนศิลป์ น้ำตก พิพิธภัณฑ์ และรูปแบบทางสถาปัตยกรรมศาสตร์ที่หลากหลายล้อมรอบโดยเบลแอร์ เบเวอลีฮิลส์ และเบรนต์วูต นักศึกษาชอบแบ่งวิทยาเขตเป็นทางเหนือกับทางใต้ซึ่งเป็นเขตพื้นที่ทางตะวันออกของพื้นที่ วิทยาเขตเหนือมีอาคารที่เก่าแก่และมีอิฐที่นำมาจากอิตาลี โดยเป็นที่จัดการเรียนการสอนวิชาในหมู่ศิลปศาสตร์ มนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ นิติศาสตร์ และการบริหารธุรกิจ วิทยาเขตใต้เป็นที่จัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์กายภาพและชีวภาพ วิศวกรรมศาสตร์ จิตวิทยา วัสดุศาสตร์ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์สุขภาพแล้วยังเป็นที่ตั้งของศูนย์การแพทย์ยูซีแอลเอ

บันใดแจนส์

สมาคมแอ็กเคอร์แมน ศูนย์กีฬาจอน วูเดน ศูนย์สุขภาพอาเธอร์ แอช ศูนย์กิจกรรมนักศึกษา หอประชุมเคอร์ฮอฟ ศูนย์เจ. ดี. มอร์แกน ศูนย์ศิษย์เก่าเจมส์ เวสต์ และศาลาพาวลีตั้งอยู่ตรงส่วนกลางของวิทยาเขตเป็นอยู่ใกล้กับจตุรัสวิลสัน บรุส์วอกเป็นถนนที่ตัดผ่ากลางวิทยาเขตเป็นถนนที่นักเรียนเดินจากอาคารเรียนไปยังหอพักนักศึกษา

จตุรัสวิวสันเป็นที่ๆนักท่องเที่ยวจะมีถ่านภาพกับมหาวิทยาลัยโดยมีชื่อเสียงมาก

สถาปัตยกรรม

อาคารเรียนแรกๆของมหาวิทยาลัยได้รับการออกแบบโดยบริษัทออกแบบท้องถิ่นโดยใช้รูปแบบสถาปัตยกรรมฟื้นฟูโรมาเนสก์ซึ่งเป็นรูปแบบที่แพร่หลายจนถึงช่วงปี 1950 เมื่อได้มีการว่าจ้างให้สถาปนิกเวลตัน เบ็กเก็ตมาทำหน้าที่ดูแลการขยายวิทยาลัยเป็นเวลาประมาณยี่สิบปี เบ็กเก็ตปรับรูปแบบให้อาคารดูสบายตาขึ้นโดยเพิ่มตึกที่สร้างในรูปแบบของลัทธิจุลนิยมทางตอนใต้ของพื้นที่ อาคารที่ใหญ่ที่สุดคืออาคารของศูนย์การแพทย์[39] หลังจากนั้นมีสถาปนิกมีชื่อเสียงหลายคนมาออกแบบอาคารให้กับอาคารโดยเฉพาะช่วงหลังที่มีจำนวนนักศึกษาเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก มหาวิทยาลัยก่อสร้างอาคารเรียนและพื้นที่โดยรอบพร้อมๆกันหลายจุดรวมไปถึงพื้นที่ที่ใช้สอบวิทยาศาสตร์ชีวภาพและวิศวกรรมศาสตร์ จึงมีคนให้ฉยามหาวิทยาลัยว่า UCLA "Under Construction Like Always" แปลเป็นไทยว่า ไม่เคยหยุดที่จะก่อสร้าง[40]

Royce Hall, one of the original four buildings, inspired by Basilica of Sant'Ambrogio

ตึกที่สูงที่สุดคือราฟ บันช์ที่ตั้งชื่อตามนักศึกษาอเมริกันผิวดำที่ได้รับรางวัลโนเบลในปี 1950 สำหรับการช่วยต่อรองปัญหาระหว่างชาวยิวและมุสลิมในพื้นที่ของประเทศอิสรเอล ทั้งนี้ยังมีรูปปั้นของเขาตั้งอยู่หลังตึกหันเข้าหาสวนศิลป์ จึงทำให้เขาเป็นชาวอเมริกันผิวดำคนแรกที่ได้รับการเชิดชูจากยูซีแอลเอในระดับสูงเพียงนี้

สวนญี่ปุ่นฮานา คาร์เตอร์ตั้งอยู่ห่างจากวิทยาเขตไปประมาณหนึ่งไมล์ในชุมชนเบลแอร์ นากาโอะ ซากุระอิเป็นนักออกแบบภาคพื้นจากโตเกียวออกแบบสวนดังกล่าวในปี 1959 หลังจากถูกทำลายเพราะฝนตกหนักในช่วงปี 1969 ศาสตราจารย์ UCLA ผู้เชียวชาญด้านศิลปกรรมศาสตร์และสถาปัตยกรรมศาสตร์วิทยาเขตชื่อโคอิจิ คะนะวะเป็นผู้ริเริ่มโครงการฟื้นฟู

การถ่ายภาพยนตร์

เนื่องจากตั้งอยู่ใกล้กับฮอลิวูดและมีโรงเรียนการละครที่มีชื่อเสียง วิทยาเขตของยูซีแอลเอได้รับความสนใจให้เป็นที่ถ่านภาพยนตร์เป็นอย่างมากเป็นเวลานานกว่าสิบปีแล้ว ภาพยนตร์หลายเรื่องตั้งแต่ปี 1985 เช่น Gotcha! Higher Learning (1995) ก็ได้ถ่ายทำที่นี่ Legally Blonde (2001) Old School (2003), The Nutty Professor (1995), Erin Brockovich (2000), How High (2001), National Lampoon's Van Wilder (2002), American Pie 2 (2001), และ Bring It On Again (2004) ได้ทำการถ่ายทำส่วยใหญ่ที่มหาวิทยาลัย ภาพยนตร์บอลลิวูตเรื่อง My Name is Khan ก็ถ่ายทำที่นี่รวมไปถึงรายการโทรทัศน์หลายรายการเช่น Greek ด้วย เพื่อเป็นการจัดการการถ่ายทำภาพยนตร์ที่มากมายในยูซีแอลเอ ทางมหาวิทยาลัยได้กำหนดนโยบายเกี่ยวกับการถ่ายภาพยนตร์และถ่ายภาพอาชีพในบริเวณวิทยาเขต[41]

ศูนย์วิจัยระดับบนาโนของแคลิฟอร์เนียภายในมหาวิทยาลัย

ใกล้เคียง

มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยรามคำแหง มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

แหล่งที่มา

WikiPedia: มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย_ลอสแอนเจลิส http://chronicle.com/news/article/1061/ucla-adopts... http://www.dailybruin.com/index.php/article/2012/0... http://www.emporis.com/en/cd/cm/?id=weltonbecketan... http://rankings.ft.com/businessschoolrankings/glob... http://issuu.com/uclaschoolofdentistry/docs/2011-2... http://www.laalmanac.com/employment/em21e.htm http://articles.latimes.com/1996-03-21/news/mn-496... http://articles.latimes.com/2007/dec/11/nation/na-... http://www.latimes.com/local/lanow/la-me-ln-ucla-f... http://www.latimes.com/news/local/la-me-uc-tuition...