ประวัติศาสตร์ ของ มหาอำมาตย์พระที่นั่งจงจี้

ในรัชศกหงหวู่ปีที่ 13 (ค.ศ. 1380) ช่วงต้นราชวงศ์หมิง หมิงไท่จู่เกาหวงตี้สังหารหู เหวย์ยง และยกเลิกตำแหน่งอัครเสนาบดี ที่มีมานานกว่า 2,000 ปี แล้วตั้งให้กระทรวงทั้งหกขึ้นตรงต่อจักรพรรดิ[2]อย่างไรก็ตาม เนื่องจากภาระงานที่มากเกินไป ในรัชศกหงหวู่ปีที่ 15 หมิงไท่จู่เกาหวงตี้จึงต้องตั้งต้าเสวียซื่อขึ้นเพื่อช่วยแบ่งเบางานของจักรพรรดิ ในตอนแรกต้าเสวียซื่อยังไม่มีอำนาจที่มากนัก โดยทำหน้าที่คล้ายกับเลขานุการในปัจจุบัน[3] หลังจากนั้น จักรพรรดิหมิงเฉิ่งจู่ นับแต่สมัยจักรพรรดิหมิงซวนจง เนื่องจากจักรพรรดิเริ่มพึ่งพาต้าเสวียซื่อในการทำงานมากขึ้น ประกอบกับฎีกาทั้งหมดจะต้องผ่านต้าเสวียซื่อก่อนแล้วจึงจะส่งให้จักรพรรดิ จึงทำให้อำนาจของต้าเสวียซื่อเริ่มมีมากขึ้น[4]

ในรัชกาลของจักรพรรดิเจียจิ้ง ได้เปลี่ยนชื่อจากฮั่วไกเตี้ยนเป็นจงจี้เตี้ยน และในสมัยราชวงศ์ชิงได้เปลี่ยนชื่อจงจี้เตี้ยนเป็นจงเหอเตี้ยน

ในรัชศกคังซีปีที่ 20 (ค.ศ. 1681) หลังจากถู่ไห่ (圖海) ถึงแก่กรรม ก็ไม่มีใครรับตำแหน่งนี้อีกเลย

ในวันที่ 4 ธันวาคม รัชศกเฉียนหลงปีที่ 13 (22 มกราคม ค.ศ. 1749) คณะรัฐบาลต้าเสวียซื่อ ได้เปลี่ยนจากสี่พระที่นั่งสองศาลา เป็นสามพระที่นั่งสามศาลา และตำแหน่งมหาอำมาตย์พระที่นั่งจงเหอ ถูกยกเลิกอย่างเป็นทางการ

ใกล้เคียง

มหาอำนาจ มหาอำนาจแห่งความลับ มหาอำนาจอักษะ มหาอำมาตย์โท พลตรีเจ้าบุญวาทย์วงศ์มานิต มหาอำมาตย์พระที่นั่งจงจี้ มหาอำนาจกลาง มหาอำมาตย์ศาลาเหวินหยวน มหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร