เมนูนำทาง
มาตามนัด ประวัติรายการ มาตามนัด ได้นำตัวอย่างรูปแบบเกมโชว์ชื่อ "Pyramid" จากสหรัฐมาดัดแปลง และมีการตั้งคำถามให้เข้ากับบรรยากาศและรสนิยมของคนไทย เพื่อการนำเสนอในช่วงเวลาไพรม์ไทม์ หรือ หลังข่าวภาคค่ำ[ต้องการอ้างอิง] ซึ่งเป็นช่วงที่สถานีโทรทัศน์ทุกช่องเสนอละครหรือภาพยนตร์ แต่เนื่องจากละครของรัชฟิล์มทีวีไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร จึงนำรายการเกมโชว์มาเสนอในช่วงเวลาดังกล่าวจนได้ผล[ต้องการอ้างอิง] โดยนัดแรกเริ่มออกอากาศวันที่ 5-7 มิถุนายน พ.ศ. 2527 โดยมีอภิชาติ หาลำเจียก กับอัจฉราพรรณ ไพบูลย์สุวรรณ เป็นพิธีกร เดิมทีรายการวางตัวพิธีกรไว้เป็นอภิชาติ กับพรพรรณ เกษมมัสสุ แต่เนื่องจากถ่ายทำเทปแรกไปแล้ว พรพรรณไม่สามารถทำหน้าที่ให้ดีได้ จึงเปลี่ยนพิธีกรหญิงเป็นอัจฉราพรรณในที่สุด[ต้องการอ้างอิง]
เกมการแข่งขันในยุคแรก กำหนดให้มีผู้แข่งขันสัปดาห์ละ 5 ท่าน ซึ่งมาจากความมีชื่อเสียงทางด้านการแสดง และทางบ้านที่ส่งจดหมายสมัครเข้าร่วมรายการ โดยเริ่มเกมการตอบปัญหาในวันแรก ด้วยคำถาม 15 ข้อ พิธีกรจะอ่านคำถาม ถ้าตอบถูกจะได้คะแนนหรือแย่งคะแนนจากผู้เข้าแข่งขันที่เลือกคำถาม ตอบผิดติดลบหรือโดนแย่งคะแนน วันที่สองเป็นการ "ใบ้คำ" โดยเหลือผู้เล่นเพียง 4 คน แบ่งเป็นทีมละ 2 คน โดยกำหนดให้เป็นผู้ใบ้คำและผู้ทาย ทีมใดทายคำได้คะแนนมากที่สุดจะผ่านเข้ารอบในวันสุดท้าย ซึ่งเป็นการแข่งรถจำลอง เพื่อหาผู้ชนะเพียงคนเดียวหรือ "The Winner" เข้ารอบแจ็กพอต โดยถ้าหากเปิดแผ่นป้ายต่อรูปรถเก๋งให้เต็มคันจะได้รับของรางวัลสูงสุดเป็นรถเก๋ง และผู้เข้าแข่งขันที่ร่วมรายการทุกคน จะได้รับของรางวัลปลอบใจ ซึ่งจะมีเกมรอบสะสมรางวัล (โบนัส) ในแต่ละวัน
มาตามนัดเป็นรายการแรกของวงการโทรทัศน์ไทย ที่ใช้คอมพิวเตอร์มาช่วยดำเนินรายการ[1] ผสานกับการดำเนินรายการของคู่พิธีกร ที่อาศัยไหวพริบปฏิภาณและเป็นกันเองมาก จึงได้รับความสนใจและความนิยมเพิ่มมากขึ้น[ต้องการอ้างอิง] โดยการแข่งขันเกมในแต่ละครั้ง จะมีการถ่ายทำในวันเสาร์หรือวันอาทิตย์ ที่สตูดิโอรัชฟิล์ม ก่อนการออกอากาศประมาณ 2 สัปดาห์[ต้องการอ้างอิง] โดยบุญชาย ศิริโภคทรัพย์ ผู้บริหาร 72 โปรโมชั่น เจ้าของรายการโลกดนตรี ก็เคยเป็นผู้กำกับรายการมาตามนัดในยุคแรก
ในปี พ.ศ. 2529 เศรษฐา ศิระฉายา และญาณี จงวิสุทธิ์ เข้ามาเป็นพิธีกรคู่ต่อมา ในเทปซึ่งออกอากาศระหว่างวันที่ 10-12 มิถุนายน ซึ่งถือเป็นการพบกันครั้งแรกของคู่พิธีกรนี้ โดยที่ทั้งคู่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลย โดยเฉพาะญาณีเป็นพิธีกรหน้าใหม่ของวงการ[2]
รูปแบบการแข่งขันเกม มีการปรับเปลี่ยนอยู่หลายครั้ง ตามความนิยมและเทคนิคการนำเสนอ โดยเกมวันแรก เป็นการตอบคำถามจากพิธีกรและจากวีทีอาร์ และจากการวาดภาพโดยอู๊ดดี้ เกมวันที่สองยังคงเป็นการใบ้คำ เกมวันสุดท้าย เปลี่ยนเป็นการวาดภาพและทายภาพ โดยผู้แข่งขันกันเอง และรอบแจ็กพอต แบบแรกเป็นการเปิดป้ายคำว่า "มาตามนัด" ให้ครบ และแบบที่สองเป็นการจับคู่ตัวตั้งและตัวตามให้ตรงกัน โดยเป็นยุคที่รายการประสบความสำเร็จถึงขีดสุด สามารถครองตำแหน่งรายการยอดนิยมอันดับ 1 อยู่หลายปี[ต้องการอ้างอิง] ส่งผลให้เศรษฐาและญาณี กลายเป็นสัญลักษณ์ประจำรายการไปด้วย จนยุติการดำเนินรายการร่วมกัน ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2536
อนึ่งในยุคนี้ รายการยังเคยจัดทำเทปพิเศษ โดยออกอากาศพร้อมกันทางไทยทีวีสีช่อง 3 ,ททบ.5, ช่อง 7 สี และช่อง 9 อ.ส.ม.ท. ในช่วงเวลากลางวันคือ 13.00-14.00 น. เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2534 เพื่อหารายได้สมทบทุนมูลนิธิชัยพัฒนา[ต้องการอ้างอิง] โดยมีเหล่าดาราจากค่ายต่าง ๆ มาร่วมเล่นเกม
สำหรับยุคนี้ เริ่มมีการใช้พิธีกรภาคสนาม และวิทยากรประจำรายการ เพื่อเพิ่มเสน่ห์และสีสันให้กับรายการ อันได้แก่ นารากร ติยายน เคยเป็นพิธีกรภาคสนามช่วง ลุยตามนัด ของเกมในวันแรก ส่วน "อู๊ดดี้" หรือ บัณฑิต ทนุโวหาร เข้ามาเป็นผู้วาดภาพการ์ตูนปริศนา ในช่วงท้ายของเกมวันแรก ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2531[3] และจักรกฤษณ์ หาญวิชัย เป็นโฆษกในช่วงวีทีอาร์ รวมทั้งบรรยายผู้สนับสนุนรายการ
รายการได้เปลี่ยนชื่อเป็น มาตามนัด ฮาวมัช เริ่มออกอากาศเดือนเมษายน พ.ศ. 2536 พร้อมทั้งเปลี่ยนพิธีกรฝ่ายหญิง เป็นจริญญา หาญณรงค์ (ในหน้าที่ผู้ช่วยพิธีกรเท่านั้น) โดยเกมการแข่งขันวันแรก เป็นการตอบคำถามจากเทปรายการฮาวมัช ของประเทศญี่ปุ่น โดยให้ผู้แข่งขันทายว่า สิ่งของชิ้นนั้นมีราคาเท่าไร ผู้ที่ทายราคาใกล้เคียงกับราคาจริง จะได้พินสะสมไป 1 พิน ผู้เข้าแข่งขันที่สะสมพินได้มากที่สุด 2 ท่าน จะผ่านเข้ารอบสู่การแข่งขันวันที่สอง ซึ่งต้องแข่งกับผู้ร่วมรายการเพิ่มอีก 2 คน โดยเกมวันที่สอง เป็นเกมใบ้คำ เกมวาดภาพ รอบแจ็กพอต และเพิ่มช่วงเกมตอบคำถามปรัศนีย์ ซึ่งมีคู่พี่น้องดาวตลก คือเทพ และน้อย โพธิ์งาม เป็นปรัศนีย์ประจำเกมนี้
ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2537 รายการมีอายุครบ 10 ปี และเศรษฐาขอลาออกจากพิธีกร จึงมีการเปลี่ยนพิธีกรใหม่ โดยให้อนุรักษ์ พลอยเพชร และนนทิยา จิวบางป่า อดีตนักร้องชื่อดังมาดำเนินรายการแทน
เนื่องจากอนุรักษ์ และ นนทิยาไม่สามารถทำหน้าที่พิธีกรได้ดีเท่าที่ควร[ต้องการอ้างอิง] จึงมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบเกมใหม่อีกครั้ง และกลับมาใช้ชื่อ "มาตามนัด" ตามเดิม พร้อมเปลี่ยนพิธีกรจากคู่เป็นทีม ได้แก่ สันติสุข พรหมศิริ, ณัฏฐพล กรรณสูต และ ณัฐสิมา คุปตะวาทิน (เดิมเป็นพิธีกรรับเชิญประจำสัปดาห์) และในปี พ.ศ. 2538 รายการลดวันออกอากาศ เหลือเพียงวันจันทร์ เวลา 22.00-23.00 น. จากนั้นเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เสด็จสวรรคต มาตามนัดร่วมถวายความอาลัย ด้วยการประมวลภาพของรายการที่ผ่านมา หลังจากนั้นเป็นการจัดเกมโชว์นัดพิเศษ[ต้องการอ้างอิง] โดยเทปสุดท้ายของรายการ ออกอากาศในวันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2538 ก่อนเปลี่ยนเป็นรายการ "น้ำใจ"[ต้องการอ้างอิง] รวมจำนวนครั้งที่ออกอากาศทั้งสิ้น 1,562 ตอน
มาตามนัด รีเทิร์น | |
---|---|
ประเภท | เกมโชว์ |
พัฒนาโดย | ฟันแอนด์ฟอร์จูน |
เสนอโดย | เศรษฐา ศิระฉายา ญาณี จงวิสุทธิ์ |
บรรยายโดย | จักรกฤษณ์ หาญวิชัย |
ประเทศแหล่งกำเนิด | ไทย |
ภาษาต้นฉบับ | ไทย |
การผลิต | |
ผู้อำนวยการสร้าง | ดวงมณี ศรีทัศนีย์ |
สถานที่ถ่ายทำ | มูนสตาร์สตูดิโอ |
ความยาวตอน | 50 นาที |
การแพร่ภาพ | |
เครือข่าย/ช่อง | โมเดิร์นไนน์ทีวี |
ระบบภาพ | 4:3 SDTV |
การออกอากาศแรก | 6 สิงหาคม พ.ศ. 2555 – 26 มิถุนายน พ.ศ. 2556 |
แหล่งข้อมูลอื่น | |
เว็บไซต์ |
แบบแรก ใช้เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม - 25 ธันวาคม 2555[ต้องการอ้างอิง]มีการนำการแข่งขันที่เคยใช้ในยุคเศรษฐา - ญาณี มาเล่นกันอีกครั้ง โดยได้มีการพลิกแพลงและเพิ่มกติกาให้เหมาะสมกับเวลาออกอากาศ โดยในวันแรก จะทำการแข่งขันสองเกม เกมแรก คือ "อยากถาม" ซึ่งมีคำถามทั้งสิ้น 5 ข้อด้วยกัน ญาณีจะอ่านคำตอบทั้งหมด 3 คำตอบ หลังจากนั้น เศรษฐาจะอ่านคำถามให้ฟัง แล้วให้กดสัญญาณไฟ ทีมที่กดไฟได้และตอบถูก จะได้รับ 2 คะแนน แต่ถ้าตอบผิด อีกทีมจะมีสิทธิ์ตอบ ถ้าตอบถูกจะได้ 1 คะแนน โดย 1 ใน 5 ข้อนั้น จะเป็นคลิปคำถามจากทางบ้านที่ส่งเข้ามาร่วมสนุกและให้แขกรับเชิญทาย ในเกมที่สองจะเป็นเกมใบ้คำ กติกาคือ หนึ่งหมวดจะมีคำ 25 คำ แต่ละคู่ต้องใบ้คำที่ปรากฏให้ได้มากที่สุด ในเวลาที่กำหนด (60/90 วินาที) ถ้าถูกได้คำละ 1 คะแนน แต่ถ้าฟาวล์ คำนั้นจะไม่นับคะแนน หากคะแนนเสมอกันจะต้องใบ้คำใน 30 วินาที หลังจากนั้นจะนำคะแนนทั้งสองรอบมารวมกันและรอบตัดสิน ทีมที่มีคะแนนมากที่สุดจะได้รับรางวัลสะสม 30,000 บาท ทีมที่แพ้จะได้รางวัลสะสม 15,000 บาท แต่ทั้ง 4 คน จะได้เข้าไปเล่นในวันถัดไป โดยจะมีการจับสลากเพื่อจับคู่ใหม่นอกรอบ
ในวันที่สองนั้น มีการแข่งขันสองเกมเช่นกัน เกมแรกชื่อว่า "อยากวาด" โดยให้สมาชิกในทีมผลัดออกมาวาดภาพให้อีกคนตอบ ในเวลา 1 นาที ตอบถูกได้ภาพละ 1 คะแนน ถ้าภาพนั้นมีการแฝงการสื่อสารด้วยท่าทางหรือน้ำเสียง ภาพนั้นจะฟาวล์และไม่ได้คะแนน (แต่ตั้งแต่วันที่ 14 สิงหาคม 2555 มีการปรับให้ใช้ท่าทางประกอบได้เล็กน้อย เมื่อมีคำหรือพยางค์ที่ถูกหลุดออกมา แต่ยังคงห้ามพูดด้วยน้ำเสียงเช่นเดิม)[ต้องการอ้างอิง] ทีมที่มีคะแนนมากสุด จะได้เข้าไปเล่นในรอบถัดไป โดยทีมที่แพ้จะได้รับรางวัลคนละ 20,000 บาท เกมที่สอง ชื่อ "อู๊ดดี้ เกิดมาวาด" ซึ่งทีมที่เข้ามาในรอบนี้ จะต้องทายภาพวาดจากอู๊ดดี้ โดยการกดไฟตอบ ถ้าตอบถูกได้รับ 2 คะแนน แต่ถ้าตอบผิด อีกคนจะมีสิทธิ์ตอบ ถ้าตอบถูก จะได้รับ 1 คะแนน แต่ถ้าตอบผิด อู๊ดดี้จะวาดต่อไปจนกว่าจะมีผู้ตอบถูก รอบนี้จะเล่นทั้งหมดห้าภาพ ใครที่มีคะแนนมากสุดจะได้เข้ารอบแจ็คพ็อตมาตามนัด โดยทั้ง 2 คนจะได้รับรางวัลคนละ 35,000 บาท
ส่วนรอบแจ็คพ็อต จะเหมือนกับยุคเศรษฐา - ญาณี คือจะมีแผ่นป้ายทั้งหมด 16 แผ่นป้ายเป็นตัวตาม และผู้สนับสนุนทั้งสิ้น 16 รายเป็นตัวตั้ง เดอะวินเนอร์จะต้องเลือกผู้สนับสนุน 4 จาก 16 ราย มาเป็นตัวตั้ง และเลือก 6 แผ่นป้าย จาก 16 แผ่นป้ายตัวตาม โดยกติกาคือ ถ้าตัวตามที่เลือกมานั้น ตรงกับผู้สนับสนุนที่เป็นตัวตั้ง 4 ใน 6 แผ่นป้าย จะได้รับรถยนต์ 1 คัน แต่หากต้องการรถยนต์รุ่นที่สูงกว่า ของตราสินค้าเดียวกัน จะต้องสละสิทธิ์รับรถยนต์คันก่อนหน้านี้ แล้วเลือกตัวตั้งและตัวตามอีกอย่างละแผ่นป้าย โดยต้องเลือกมาแล้วตรงกันจึงจะได้รับรางวัลใหญ่ ทั้งนี้ในแต่ละแผ่นป้ายที่เปิดมา จะมีจำนวนเงินรางวัลในแต่ละแผ่นป้ายกำกับไว้ ซึ่งเดอะวินเนอร์จะได้รับเงินรางวัลตามที่ระบุไว้
แบบที่สอง ใช้เมื่อวันที่ 2 มกราคม - 30 มกราคม 2556[ต้องการอ้างอิง] เกมแรกชื่อ "อยากใบ้" จะเป็นเกมใบ้คำ กติกาเหมือนกับแบบแรก เกมที่สองชื่อ "อยากวาด" โดยให้สมาชิกในทีมผลัดออกมาวาดภาพให้อีกคนตอบ มีการปรับให้ใช้ท่าทางประกอบได้เล็กน้อย เมื่อมีคำหรือพยางค์ที่ถูกหลุดออกมา[ต้องการอ้างอิง] ในเวลา 1 นาที ตอบถูกได้ภาพละ 1 คะแนน ถ้าภาพนั้นมีการแฝงการสื่อสารด้วยท่าทางหรือน้ำเสียง ภาพนั้นจะฟาวล์และไม่ได้คะแนน หลังจากแข่งครบแล้วนำคะแนนที่ได้ในรอบอยากใบ้และอยากวาดนำมารวมกัน ทีมใดที่มีคะแนนมากสุด จะได้เข้าไปเล่นในรอบถัดไป โดยทีมที่แพ้จะได้รับรางวัลคนละ 15,000 บาท เกมที่สามคือ รอบ "อู๊ดดี้ เกิดมาวาด" กติกาเหมือนกับแบบแรก ผู้ที่มีคะแนนมากสุดจะได้เข้ารอบแจ็คพ็อต โดยทั้ง 2 คนจะได้รับรางวัลคนละ 30,000 บาท
ส่วนรอบแจ็คพ็อต จะเหมือนกับยุคเศรษฐา - ญาณี คือจะมีแผ่นป้ายทั้งหมด 16 แผ่นป้ายเป็นตัวตาม และผู้สนับสนุนทั้งสิ้น 16 รายเป็นตัวตั้ง เดอะวินเนอร์จะต้องเลือกผู้สนับสนุน 4 จาก 16 ราย มาเป็นตัวตั้ง และเลือก 6 แผ่นป้าย จาก 16 แผ่นป้ายตัวตาม โดยกติกาคือ ถ้าตัวตามที่เลือกมานั้น ตรงกับผู้สนับสนุนที่เป็นตัวตั้ง 4 ใน 6 แผ่นป้าย จะได้รับรถยนต์ 1 คัน ทั้งนี้ในแต่ละแผ่นป้ายที่เปิดมา จะมีจำนวนเงินรางวัลในแต่ละแผ่นป้ายกำกับไว้ ซึ่งเดอะวินเนอร์จะได้รับเงินรางวัลตามที่ระบุไว้
แบบที่สาม ใช้เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2556 - 26 มิถุนายน 2556[ต้องการอ้างอิง] รอบแรกมีชื่อว่า "นัดมาร้อง" เป็นเกมใหม่ โดยผู้เข้าแข่งขันทั้ง 2 ทีมจะออกมาร้องเพลงคนละ 2 เพลง โดยให้ผู้เข้าแข่งขันคนหนึ่งใส่หูฟังที่เล่นเพลงที่กำลังทายอยู่ ผู้แข่งขันคนนั้นร้องเพลงให้เพื่อนร่วมทีมทายชื่อเพลงภายใน 10 วินาที ถ้าทายถูกก่อนหมดเวลาจะได้ 2 คะแนน แต่ถ้าหมดเวลา ทางรายการจะมีตัวเลือก 2 ข้อคือ ก/ข ถ้าตอบถูกจะได้รับ 1 คะแนน หากตอบผิดจะไม่ได้คะแนน ในรอบนี้ทีมใดมีคะแนนมากกว่า ทีมนั้นจะได้รับเงินรางวัลสะสมมูลค่า 10,000 บาท (แบ่งกันคนละครึ่ง) รอบสองมีชื่อว่า "ตามมาใบ้" เป็นเกมใบ้คำ ทีมที่ทำคะแนนรวมจากรอบ "นัดมาร้อง" และ "นัดมาใบ้" ได้มากกว่าจะผ่านเข้ารอบต่อไป ส่วนทีมที่ตกรอบจะได้รับเงินรางวัลคนละ 15,000 บาท รอบที่สามคือ "อู๊ดดี้ เกิดมาวาด" ผู้ที่มีคะแนนมากสุดจะได้เข้ารอบแจ็คพ็อต โดยทั้ง 2 คนจะได้รับรางวัลคนละ 30,000 บาท
ส่วนรอบแจ็คพ็อตจะมีแผ่นป้ายทั้งหมด 16 แผ่นป้ายในแผ่นป้ายมีแผ่นป้ายป้ายหน้าพิธีกร "เศรษฐา" และ "ญาณี" อย่างละ 4 แผ่นป้าย และ มีคำว่า "มา" 3 แผ่นป้าย "ตาม" 2 แผ่นป้าย "นัด" 2 แผ่นป้าย และคำว่า "Return" 1 แผ่นป้ายเดอะวินเนอร์จะต้องเลือกแผ่นป้ายมา 6 แผ่นป้าย ถ้าหากเปิดแผ่นป้ายเจอหน้าพิธีกร "เศรษฐา" หรือ "ญาณี" คนใดคนหนึ่งครบ 4 แผ่นป้าย จะได้รับเงินรางวัลมูลค่า 100,000 บาท และถ้าหากเปิดแผ่นป้ายคำว่า "มา-ตาม-นัด-Return" จะได้รับรถยนต์โตโยต้า ออล นิว วีออส มูลค่า 589,000 บาท และในแต่ละแผ่นป้ายจะมีจำนวนเงินรางวัลกำกับไว้ ซึ่งเดอะวินเนอร์จะได้รับเงินรางวัลตามที่ระบุไว้
รายการมาตามนัด รีเทิร์น ได้ออกอากาศเป็นครั้งสุดท้าย เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2556 โดยครั้งสุดท้ายนั้น ทางรายการฯได้ประมวลภาพแห่งความประทับใจของการออกอากาศรายการฯนี้ เท่าที่จะสามารถนำมาเผยแพร่ได้ รวมระยะเวลาการออกอากาศได้แค่ 10 เดือนเท่านั้น โดยหลังจากนั้นแล้ว สถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ทีวี จึงได้นำเสนอรายการซาย ไฟต์ติง วิทย์สู้วิทย์ 2556 จากเดิมที่เคยออกอากาศเป็นประจำทุกคืนวันพุธ มาออกอากาศแทนเวลาเดิมของรายการฯ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 รายการมาตามนัด รีเทิร์น จึงสิ้นสุดลง
รายละเอียดรายการในยุครีเทิร์นเมนูนำทาง
มาตามนัด ประวัติใกล้เคียง
มาตามนัดแหล่งที่มา
WikiPedia: มาตามนัด http://70-90memory.blogspot.com/2010/08/blog-post_... http://www.facebook.com/pages/%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E... http://women.mthai.com/views_Amazing-Women_11_88_4... http://www.youtube.com/watch?v=1a2KTH1ekJM&feature... http://www.youtube.com/watch?v=4Oo4UPIwTdI&feature... http://www.youtube.com/watch?v=CzLpu_Wlr8s http://www.youtube.com/watch?v=HG5T9An3rAQ http://www.youtube.com/watch?v=Hm6s8eUvmoU&feature... http://www.youtube.com/watch?v=TZUDhcUrKwc&feature... http://www.youtube.com/watch?v=bEJhd7II3Fo&feature...