วัฒนธรรม ของ มาเลเซียเชื้อสายไทย

ชาวไทยที่อาศัยในประเทศมาเลเซียส่วนใหญ่จะนับถือพระพุทธศาสนานิกายเถรวาทแบบเดียวกับไทย แม้ว่าในวัดไทยบางแห่งจะมีเทพเจ้าจีนที่ผู้มีศรัทธาชาวจีนมาประดิษฐานไว้ก็ตาม แต่คนไทยที่ไทรบุรีจะเชื่อในเรื่องสิ่งเหนือธรรมชาติ และอำนาจไสยศาสตร์เร้นลับ ผสมผสานกับความเชื่อทางพุทธศาสนา และฮินดูสะท้อนให้เห็นถึงลักษณะเฉพาะของคนไทย

จากการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องความเชื่อและพิธีกรรมของคนที่ที่ในไทรบุรี พบว่าชาวมาเลเซียที่เป็นชนกลุ่มใหญ่มักเกรงกลัวชาวไทยซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อย เพราะคิดว่าชาวไทยมีคาถาอาคม สามารถดลบันดาลสิ่งต่างๆได้อย่างน่ามหัศจรรย์ เช่นมีพิธีกรรมรับ-ส่งเทวดา (เทียมดา) พิธีกรรมในงานศพ ดนตรีกาหลอ พิธีกรรมโนราโรงครูเป็นต้น

ในช่วงเดือนเมษายนของทุก ๆ ปี คนไทยในมาเลเซียเหล่านี้ จะนัดหมายกันพาลูกหลานที่มีอายุครบบวชมาบวชเป็นพระภิกษุที่วัดพระบรมธาตุนครศรีธรรมราช ซึ่งแต่ละปีจะมีมาบวชกันหลายสิบรูป และมีญาติพี่น้องยกขบวนกันมาร่วมงาน มาแสวงบุญนมัสการพระมหาธาตุกันโดยใช้รถบัส 10-20 คัน นับพัน ๆ คน

ซึ่งชาวไทยในมาเลเซียนั้นมีความเคารพศรัทธาและความผูกพันกับพระบรมธาตุที่นครศรีธรรมราชมาช้านานหลายชั่วอายุคนแล้ว ซึ่งในอดีตอันยาวนานนับตั้งแต่ราวพุทธศตวรรษที่ 17-18 เมืองนครศรีธรรมราชหรือตามพรลิงก์ เป็นแคว้นใหญ่ที่เจริญรุ่งเรืองเป็นปึกแผ่นเป็นเมืองศูนย์กลางในแหลมมลายูมีเมืองบริวารถึง 12 เมืองเรียกว่าเมือง 12 นักษัตร และไทรบุรีหรือเกอดะฮ์แห่งนี้ก็เป็นหนึ่งใน 12 เมืองบริวาร โดยถือตรงมะโรงหรืองูใหญ่เป็นตราสัญลักษณ์ ประกอบกับทั้งเมืองนครศรีธรรมราชที่ตั้งอยู่ริมฝั่งอ่าวไทย ในขณะที่รัฐไทรบุรีเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริมฝั่งมหาสมุทรอินเดีย จึงเป็นเส้นทางค้าขายที่สำคัญต่อกัน ผู้คนพลเมืองเดินทางไปมาหาสู่กันเหมือนบ้านพี่เมืองน้องจนมีคำกล่าวที่ติดปากกันสืบมาว่า "กินเมืองคอน นอนเมืองไทร" อันเป็นคำกล่าวที่แสดงถึงความผูกพันระหว่างสองเมืองได้เป็นอย่างดียิ่ง และความผูกพันเช่นนี้ก็ยังสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน บรรยากาศของความเคารพความศรัทธาของชาวไทยในมาเลเซียที่มีต่อพระบรมธาตุ คนไทยในไทรบุรีมีคติความเชื่อสืบต่อกันมาแต่ครั้งโบราณว่า หากใครได้มีโอกาสเดินทางมานมัสการพระบรมธาตุที่นครศรีธรรมราชแล้ว ก็จะได้บุญกุศลมากมายยิ่ง เพราะได้มาถึงศูนย์กลางของพระพุทธศาสนาที่เจริญรุ่งเรืองมาแต่อดีต อีกทั้งยังเป็นการเดินทางที่ยาวไกลและสมบุกสมบันทุรกันดารยิ่งนัก คนที่เดินทางมาถึงได้ต้องมีศรัทธาอย่างแรงกล้าในจิตใจ ใครได้มาถึงแล้วกลับไปก็จะกลายเป็นคนที่เป็นยอดคนเลยทีเดียว ยิ่งได้มาบวชหรือพาลูกพาหลานมาบวชด้วยแล้ว ก็จะยิ่งได้กุศลยิ่งๆ ขึ้นไปอีก แม้ปัจจุบันการเดินทางจะสะดวกสบาย ด้วยการเดินทางทางรถยนต์ราว 3-4 ชั่วโมง แต่ศรัทธาของพวกเขาก็ยังคงอยู่และสืบทอดมายังคนรุ่นหลัง

สมาคมสยามเกอดะฮ์-ปะลิสที่พยายามต่อสู้เพื่อคงไว้ซึ่งภาษาไทยและวัฒนธรรมไทยในมาเลเซีย มีการเปิดโรงเรียนสอนภาษาไทยและมีการสอนให้รักชาติไทย รักศาสนาพุทธเทิดทูลพระมหากษัตริย์ไทยองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช มีการยกธงชาติไทยควบคู่กับธงชาติมาเลเซีย แต่จะไม่มีขบวนการที่เคลื่อนไหวนอกระบบหรือวิธีการที่รุนแรง

การดำเนินกิจกรรมของสมาคมชาวพุทธเชื้อสายไทยในตอนเหนือประเทศมาเลเซียนั้นไม่เพียงดำเนินการทางด้านวัฒนธรรมอย่างเดียวแต่พยายามรวมกลุ่มเพื่อมีอำนาจางการเมืองด้วยเช่นกัน เช่นข้อเรียกร้องที่เป็นประเด็นสำคัญๆ และนำเสนอผ่านสมาคมไทยกลันตัน และสมาคมสยามมาเลเซียมายังรัฐบาลก็คือ การขอมีสิทธิเป็นบูมีปูเตอรา การขอมีพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุด (การขอมีพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดให้เป็นที่สักการะของชาวพุทธจากทั่วโลก ก็ถือเป็นประเด็นสำคัญ ปัจจุบันนี้ ประเทศมามาเลเซียมีพระพุทธรูปทรงนั่งที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของโลกรองจากพระพุทธรูปทรงนั่งของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งพระพุทธรูปทรงนั่งในประเทศมาเลเซียจะประดิษฐานอยู่ที่วัดมัชฌิมาราม หมู่บ้านตือรือโบะ (Tereboh) อำเภอตุมปัต (Tumpat) รัฐกลันตัน (Kelantan) ผู้ที่เดินทางเข้าประเทศมาเลเซียจากฝั่งอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ก็จะพบเห็น พระพุทธรูปดังกล่าวทางด้านซ้ายมือห่างจากเปิงกาลันกุโบร์ (Pengkalan Kubor) ริมฝั่งแม่น้ำตรงกันข้ามอำเภอตากใบประมาณ 5 - 8 กิโลเมตร) ให้เป็นที่สักการบูชาของชาวพุทธจากทั่วโลก การขอแก้ไขให้มีการระบุชื่อของกลุ่มชาติพันธุ์ชาวไทยในแบบฟอร์มการขอเข้ามหาวิทยาลัยของรัฐ การขอประกาศวัฒนธรรมไทยเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมแห่งชาติ การขอประกาศวันสงกรานต์เป็นวันหยุดราชการ การขอมีสิทธิในกองทุนช่วยเหลือด้านการศึกษาและด้านการประกอบทางธุรกิจ ตลอดจนการขอมีสิทธิเป็นสมาชิกของพรรคอัมโน (UMNO)

การขอประกาศวัฒนธรรมไทยเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมแห่งชาติ และการขอประกาศวันสงกรานต์เป็นวันหยุดราชการ ทั้งสองประเด็นดังกล่าวถือว่าสำคัญ เพราะการที่ไม่ได้แสดงออกซึ่งวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ในชาตินั้น ส่อให้เห็นว่า วัฒนธรรมของชาวพุทธเชื้อสายไทยกำลังถูกกลืนจากกลุ่มชาติพันธุ์กลุ่มใหญ่ รัฐบาลมาเลเซียจึงประกาศให้วัฒนธรรมการละเล่นกลองยาว การฟ้อนรำไทย และประเพณีวันสงกรานต์เป็นวัฒนธรรมแห่งชาติ

การขอมีสิทธิในการกู้ยืมกองทุนช่วยเหลือด้านการศึกษาและด้านการประกอบทางธุรกิจ รัฐบาลมาเลเซียได้ให้สิทธิการขอทุนทั้งการศึกษาอย่างเช่น ทุน MARA ซึ่งเป็นทุนพิเศษสำหรับชาวมลายู และทุนการประประกอบทางธุรกิจอย่าง เช่น ASB และ ASN ซึ่งเป็นกองทุนทางธุรกิจสำหรับชาวมลายูและพลเมืองแห่งชาติแก่ชาวพุทธเชื้อสายไทยเท่ากับชาวมลายูในมาเลเซียทุกประการ

ใกล้เคียง

มาเลเซียเชื้อสายไทย มาเลเซียแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 370 มาเลเซียเชื้อสายจีน มาเลเซียแอร์ไลน์ มาเลเซียแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 17 มาเลเซียตะวันตก มาเลเซียซูเปอร์ลีก มาเลเซียแอร์ไลน์ซิสเต็ม เที่ยวบินที่ 653 มาเลเชีย มาเลเซียกีนี

แหล่งที่มา

WikiPedia: มาเลเซียเชื้อสายไทย http://www.anakperlis.com/02/component/option,com_... http://web7.bernama.com/bernama/v3/news.php?id=299... http://www.payai.com/payai/main/main/main.php?main... http://www.uni-muenster.de/Ethnologie/South_Thai/w... http://thestar.com.my/news/story.asp?file=/2007/4/... http://www.utusan.com.my/utusan/info.asp?y=2008&dt... http://www.boringdays.net/a-day-in-malaysia/ http://www.harakahdaily.net/index.php?option=com_c... http://www.isranews.org/cms/index.php?option=com_c... http://www.thaingo.org/writer/view.php?id=811