เนื้อเรื่องในบท ของ ยามเมื่อเหล่าจักจั่นกรีดร้อง

เนื้อเรื่องจะแบ่งออกเป็น 8 บท คือภาคปริศนามี 4 บท และ ภาคเฉลย อีก 4 บท (หลังจากจบทั้ง 8 บท ต่อมาได้มีบทพิเศษอีกมากมาย) ในบทของภาคเฉลยนั้นจะสรุปเหตุการณ์ของบทภาคปริศนาแต่มุมมองจะแตกต่างกันออกไป โดยใช้การเปลี่ยนแปลงของตัวละครเพื่อแก้ปริศนาต่าง ๆ และมาถึงข้อสรุปที่แตกต่างกัน เพื่อให้ผู้เล่นนั้นได้เข้าใจปริศนาที่ชวนน่าสงสัยไปได้

หมายเหตุ: ชื่อภาษาไทยที่อ้างอิงในที่นี้ เป็นชื่อจากฉบับมังงะลิขสิทธิ์ในประเทศไทยโดย สยามอินเตอร์คอมมิค

Higurashi no Naku Koro Ni

Higurashi no Naku Koro Ni (ひぐらしのなく頃に, The Higurashi: When They Cry) จะเป็นเนื้อเรื่องของภาคปริศนา ซึ่งมีทั้งหมด 4 บท ซึ่งเป็นเนื้อเรื่องที่ให้ผู้เล่นได้พบกับปริศนาที่เกิดขึ้น และแนะนำสถานการณ์ลึกลับรอบตัวในหมู่บ้านฮินามิซาวะ ซึ่งภาคปริศนาจะไม่มีคำตอบมาให้เลยซึ่งในแต่ละบทจะแบ่งออกได้ดังนี้

  • บทปีศาจลักซ่อน (鬼隠し編, Onikakushi-hen)

เป็นบทเปิดตัวของเรื่องทั้งในอนิเมะและมังงะ ตัวเอกของบทนี้คือเคอิจิ ที่ได้รับข่าวการฆาตกรรมหั่นศพที่หมุ่บ้านตั้งแต่ย้ายเข้ามายังหมู่บ้านฮินามิซาวะ เขาได้พบเบาะแสมากมายจากที่ต่างๆในหมู่บ้าน แต่เพื่อนๆ กลับบอกว่าไม่เคยมีเหตุฆาตกรรมแบบนั้นในหมู่บ้านเพราะไม่อยากให้เขาต้องกลัว แต่เคอิจิกลับเข้าใจผิดคิดว่าเพื่อนๆของพวกเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีจนเกิดอาการ โรคฮินามิซาวะ และเห็นภาพหลอนว่าเรนะกับมิองกำลังจะฆ่าเขาด้วยเข็มฉีดยาที่มียาพิษ ที่เมื่อไรก็ตามที่ฉีดเข้าไปจะข่วนคอตัวเองจนตาย ทำให้เขาเกิดความหวาดกลัวอย่างสุดขีดและฆ่าเธอที้งสองคนในที่สุด หลังจากนั้นเคอิจิก็ข่วนคอตัวเองจาก โรคฮินามิซาวะระยะสุดท้ายในที่สุด

  • บทเทศกาลมรณะ (綿流し編, Watanagashi-hen)

เป็นบทที่เพิ่มตัวละครสำคัญมาอีก 1 คือ ชิอง น้องสาวของมิองที่บังเอิญไปเจอกับเคอิจิที่ร้านแองเจิลมอธ และในวันเทศกาลลอยนุ่นชิองและเคอิจิได้ทำผิดกฎของหมู่บ้านด้วยความไม่รู้และเชื่อคำเชิญของทาคาโนะและโทมิทาเกะที่ให้เปิดประตูห้องเก็บอุปกรณ์พิธีของหมู่บ้าน ทำให้พวกเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับคำสาปแห่งฮินามิซาวะเข้าโดยไม่ทันตั้งตัว ในไม่ช้า เคอิจิได้รับข่าวจากตำรวจโออิชิว่าทาคาโนะและโทมิทาเกะได้เสียชีวิตแล้ว ไม่นานนักชิองก็หายตัวไป เขาจึงคิดว่าสักวันเขาอาจจะต้องหายไปด้วยเช่นกัน แถมมิองเองก็เริ่มมีท่าทีแปลกๆเป็นคนละคนจนยากที่จะเมินเฉย อีกทั้งริกะและซาโตโกะก็หายตัวไป เหลือเพียงเขาและเรนะ พวกเขาจึงยื่นคำขอถึงตำรวจในกรณีผู้ต้องสงสัยของคดีและไปที่บ้านของมิอง จนต้องพบกับเรื่องราวน่าตกตะลึงว่าคดีทั้งหมดเป็นฝีมือของมิอง โดยมิองก็อ้างว่าเป็นเพราะปีศาจในตัวทำให้ฆ่าคนไปมากมายและขอสารภาพบาปทั้งหมดของตนกับเคอิจิเป็นการส่วนตัว แต่มิองกลับพาเคอิจิไปยังห้องใต้ดินที่มิองใช้ลงมือฆ่าทุกคน!!!และที่นั่นเองเขาก็ได้พบตัวชิองที่หายสาปสูญไปได้พบ แต่พลาดท่า ทำให้เขาโดนมิองพาตัวไปเพื่อจัดการปิดปากซะ และในขณะที่กำลังจะถูกมิองฆ่าตาย เขาก็ได้ร้องขอกับมิองสองอย่างกับมิอง ได้แก่ 1 "ถ้าฆ่าฉันจนพอใจแล้วก็จงยกโทษให้ชิองซะ" 2"ขอให้ปีศาจในตัวมิองหายไปด้วย" แต่มิองบอกว่าทำไม่ได้ทั้งสองข้อ เคอิจิจึงกล่าวเชิงหยอกล้อว่า "งั้นข้อที่สาม...อย่าฆ่าฉัน" ซึ่งมิองก็รับปาก ทำให้เขารอดตายมาได้ จากนั้นก็มีข่าวตามมาว่ามิองกำลังหลบหนีไปยังทางลับของห้องใต้ดิน แต่พลาด เดินตกลงไปยังบ่อน้ำตาย

  • บทคำสาปสังหาร (祟殺し編, Tatarigoroshi-hen)

เป็นบทที่กล่าวถึงซาโตโกะที่ถูกเทปเปลุงของเธอทารุนอย่างหนักจนเกิดอาการทางประสาทอย่างรุนแรง ทำให้เคย์อิจิตัดสินใจลอบฆ่าลุงของซาโตโกะ แต่กลับไม่เป็นผลเพราะซาโตโกะยังคิดว่าลุงของเธอยังมีชีวิตอยู่แถมยังบอกกับเคอิจิด้วยว่าลุงยังมีชีวิตอยู่ ทำให้เขารีบไปที่หลุมที่เคอิจิฝังไว้แต่กลับพบว่าศพนั้นหายไปซะแล้ว ทำให้เขาตกใจเป็นอย่างมาก หลังจากนั้นเข้าก็ได้นำขวานและไปที่บ้านของซาโตโกะแต่กลับไม่พบลุงเลย แต่แค่เห็นซาโตโกะกำลังอาบน้ำร้อนนานเกินไปทำให้เขารีบนำเธออกมาและพาไปหา ริกะแต่กลับพบว่า ริกะได้เสียชีวิตจากการถูกผ่าท้องเป็นที่เรียบร้อยแล้วซึ่งมีนกกำลังจิกศพของเธอทำให้เขาตกใจเป็นอย่างมากและใช้ขวานไล่ฝูงนก แต่โชคร้ายที่ซาโตโกะมาเห็นทำให้เข้าใจผิดว่าเขาเป็นคนฆ่า ซาโตโกะจึงวิ่งนี้ไปจนถึงสะพานในขณะที่เคอิจิก็ตามมาติดๆและบอกว่าไม่ได้ฆ่า แต่ซาโตโกะไม่เชื่อเธอจึงตัดสินใจผลักเคอิจิ จนตกลงไปในแม่น้ำในที่สุด หลังจากนั้นเข้าก็ฝืนขึ้นมาและพบว่า หมู่บ้านฮินามิซาวะ ได้ถูกก๊าซภูเขาไฟปะทุซึ่งไม่มีใครรอดแม้แต่คนเดียว โดยเฉพาะเขาเท่านั้นที่รอดมาได้ แต่ถึงอย่างไรก็ตามใน ปีเฮเซที่ 15 (พ.ศ. 2546) เคอิจิได้บอกกับบุคคนปริศนาคนหนึ่งที่จะมาหาคำตอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเขาได้ยินเสียงฝีเท้าตลอดเวลาโดยที่ไม่รู้เลยว่าเป็นเสียงของใคร และ 2 วัน ต่อมาเข้าตายจากไข้ขึ้นสูงโดยไม่ทราบสาเหตุ

  • บทฆ่าเวลา (暇潰し編, Himatsubushi-hen)

เป็นบทที่กล่าวถึงริกะ ในช่วงหนึ่งที่เธอเองได้พบกับอาคาซากะ ตำรวจหนุ่มจากเมืองกรุงต้องมาทำงานบางอย่าง เธอได้เตือนอาคาซากะไว้ว่าให้กลับไปไม่อย่างนั้นจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิต แต่ในขณะนั้นอาคาซากะยังไม่เข้าใจความหมายของมัน เมื่อมั่นใจแล้วว่าอาคาซากะไม่กลับแล้ว เธอจึงร้องขอว่าจงช่วยเธอซะ เพราะในวันที่ xxx ปีโชวะที่ 58 เธอจะถูกฆ่าตาย แต่เธอไม่รู้ว่าใครเป็นคนฆ่า แต่อาคาซากะไม่เชื่อ เขาอยู่ในโรงพยาบาลและรอจนกระทั่งเขาได้เวลากลับไปยังบ้านของเขา และเขาก็ทราบว่าภรรยาที่กำลังตั้งครรภ์ของเขาเสียชีวิตแล้วจากการที่เธอขึ้นไปบนดาดฟ้าและขอพรขอให้อาคาซากะปลอดภัยแต่ก็ตกลงมาจากบันไดอย่างรุนแรงจนเสียชีวิตแต่โชคยังดีที่ลูกสาวของเขา "มิยูคิ" ได้คลอดก่อนที่เธอจะเสียชีวิต และในวันที่ xxx ริกะก็ได้เสียชีวิตไปตามที่เธอเคยกล่าวเอาไว้แล้วเช่นกัน ทำให้เขาทั้งเศร้าโศกเสียใจทั้งโทษตัวเองและฝันร้ายจากเหตุการณ์นั้นมาตลอดจนถึงปัจจุบัน

Higurashi no Naku Koro ni Kai

Higurashi no Naku Koro ni Kai (ひぐらしのなく頃に解, The Higurashi: When They Cry Kai) จะเป็นเนื้อเรื่องของภาคเฉลย ซึ่งมีทั้งหมด 4 บท โดยเนื้อเรื่องจะเป็นการเฉลยปริศนาของทั้ง 4 บทที่แล้ว ซึ่งในแต่ละบทจะแบ่งออกได้ดังนี้

  • บทสืบคดี (目明し編, Meakashi-hen)

มีเนื้อหาเป็นบทเฉลยของ บทเทศกาลมรณะ โดยบอกจากมุมมองของ ชิอง หลังจากที่ซาโตชิฆ่าป้าของเขาและหายสาบสูญไป ชิองได้เกิดอาการคุ้มคลั่งในปีถัดมาจนได้เฉลยว่าเนื้อเรื่องจากบทเทศกาลมรณะ เหตุการณ์ฆาตกรรมนั้นเป็นฝีมือของชิอง

  • บทชดใช้บาป (罪滅し編, Tsumihoroboshi-hen)

มีเนื้อหาเป็นบทเฉลยของบท ปีศาจลักซ่อน เนื้อเรื่องจะไม่เฉลยแบบโดยตรงเหมือน บทสืบคดี แต่จะเล่าถึงเรนะที่ได้ฆ่า รินะ แม่เลี้ยงของเรนะหลังจากทราบว่า รินะนั้นคือภรรยาของ เทปเป ลุงของซาโตโกะ ซึ่งเป็นสมาชิกของแก็งยากูซ่า โดยการที่เธอจะรีดไถเงินจนหมดตัวเลยที่เดียว ทำให้เรนะได้ลอบฆ่า รินะ และ เทปเปในที่สุดหลังจากนั้นก็จะหั่นศพเป็นชิ้นๆ ในบทนี้เรนะจะมีอาการโรคฮินามิซาวะเหมือนเคย์อิจิ ในบทปีศาจลักซ่อน และวันหนึ่งจู่ๆเคย์อิจิก็จำได้ว่า ตนนั้นเคยฆ่าเรนะกับมิองมาก่อนในโลกชะตากรรมก่อนๆ ซึ่งจำได้ว่าทั้งหมดนั้นเป็นเพียงภาพหลอน ทำให้เขาเกิดเสียใจเป็นอย่างมากและจะช่วยเรนะให้หายจาก โรคฮินามิซาวะให้ได้ และเคอิจิก็สามารถช่วยเธอได้ ซึ่งถือว่านี้คือบทแรกที่จบแบบ Happy Ending แต่ถึงอย่างไรก็ตามหลังจากเกิดเหตุการณ์นั้น ทุกคนก็ถูกก๊าซภูเขาไฟปะทุจนไม่มีใครรอดสักคน มีเพียงเรนะเท่านั้นที่รอด ทำให้เรนะเกิดภาวะช๊อกเป็นอย่างมากและอยากจะย้อนเวลากลับไปมาตลอดจนถึงปัจจุบัน

  • บทสังหารหมู่ (皆殺し編, Minagoroshi-hen)

เป็นบทเบื้องหลังของทุกบท โดยมีริกะเป็นตัวเอกที่แท้จริงได้ทำการเฉลยทุกสิ่งทุกอย่างว่าเหตุการณ์ที่เราทั้งหมดคือชะตากรรมที่บิดเบี้ยวและพยายามจะเปลี่ยนแปลงชะตากรรม เพื่อให้พวกตนได้พ้นจากเรื่องร้ายๆทั้งหลาย แต่สุดท้ายก็ทำไม่สำเร็จ แต่เธอได้สิ่งที่วิเศษที่สุดมา นั่นคือได้พบว่าทุกคนนั้นจำเหตุการณ์ชะตากรรมเมื่อก่อนได้แบบลางๆ และได้รู้ว่าคนร้ายที่แท้จริงที่ฆ่าเธอในวันที่ xxx นั่นคือ ทาคาโนะนั้นเอง แต่เธอก็ยังไม่รู้เหตุผลที่ทาคาโนะทำแบบนั้น สุดท้ายแล้วเธอและเพื่อนที่พยายามมาต้องถูกสังหารหมู่อย่างน่าเศร้า แต่เธอก็พยายามไม่ให้ลืมเรื่องของทาคาโนะ จึงได้ร้องขอก่อนตายว่า หากจะฆ่าก็จงอย่าทำให้หลับ จงกรีดลึกร่างของตนให้ฝังลึกในวิญญาณ เมื่อยามใดที่ได้พบเจ้าอีกครั้ง จะได้รู้ว่าเจ้าคือศัตรูที่แท้จริง!!!

  • บทสันนิบาตเทศกาล (祭囃し編, Matsuribayashi-hen)

เป็นบทต่อจากบทสังหารหมู่ โดยแสดงเรื่องราวในอดีตของทาคาโนะ และเหตุผลที่เธอทำการวิจัยโรคกลุ่มอาการฮินามิซาวะ และเหตุจูงใจให้เธอคอยตามฆ่าริกะทุกชาติภพ และในท้ายที่สุด พวกริกะก็ได้สร้างปาฏิหาริย์ได้สำเร็จ พวกเธอสามารถเอาชนะการตามล่าของทาคาโนะและทาคาโนะเองก็ได้ถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย หลังจากเหตุการณ์ทุกคนก็ใช้ชีวิตอย่างปกติ ก่อนเนื้อเรื่องจะจบได้มีตัวละครปริศนาหนึ่งซึ่งมีชื่อว่า เฟรเดอริกา เบิร์นคาสเทล ได้ย้อนอดีตกลับมายังยุคที่ทาคาโนะเป็นเด็กและทิ้งท้ายประโยคอันเป็นปริศนาว่า "เธออยากอยู่หรือตาย?" เมื่อทาคาโนะตอบแบบไร้เดียงสาแล้ว เธอก็ได้แนะนำประโยคปริศนาของเธออีกครั้ง และให้ทาคาโนะกลับบ้านไป เพื่อให้ทาคาโนะใช้ชีวิตให้ดีที่สุดกับพ่อแม่ของเธอ จนกว่าจะไม่มีโอกาสอีก...

Higurashi no Naku Koro ni Rei

มีการเพิ่มบทพิเศษอีกสามบทในดรามาซีดี ในชื่อ Higurashi no Naku Koro ni Rei (ひぐらしのなく頃に礼, Higurashi: When They Cry Rei) วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2549 ซึ่งในแต่ละบทจะแบ่งออกได้ดังนี้

  • บทสังหารลูกเต๋า (賽殺し編,, Saikoroshi-hen)

บทสังหารลูกเต๋าเป็นบทส่งท้ายของบทสันนิบาตเทศกาลซึ่งจะเกิดขึ้นในอีกสองเดือนต่อมา ในเดือนสิงหาคม ปีโชวะที่ 58 เล่าว่าริกะได้ประสบอุบัติเหตุจากรถบรรทุกและตื่นขึ้นมาในโลกอีกโลกชะตากรรมอีกโลกหนึ่ง เล่าในเดือนมิถุนายน ปีโชวะที่ 58 ซึ่งไม่มีแม้แต่เหตุการณ์โศกนาฏกรรมใดๆเลย และเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างมากโดยเริ่มจาก เคอิจิไม่อยู่ที่หมู่บ้าน พ่อแม่ของเรนะไม่ได้หย่าร้างกัน โครงการสร้างเขื่อนถูกแก้ไขไปอย่างราบรื่น ไม่มีเหตุการณ์คดีการตายลึกลับต่อเนื่อง ซาโตชิกับซาโตโกะยังคงอยู่เหมือนเดิม และพ่อแม่ของริกะยังมีชีวิตอยู่ อย่างไรก็ตามโลกนี้ไม่มีชมรมของมิอง และริกะไม่ค่อยมีเพื่อนเลย แถมยังถูกซาโตโกะและเพื่อนรุ่นเดียวกันกลั่นแกล้งเสมอ และริกะก็ไม่เห็นฮานิวอีกด้วย นั้นหมายความว่าริกะไม่ได้อยู่ในฐานะท่านโอยาชิโระกลับชาติมาเกิด ซึ่งเธอมีทางเลือกอยู่ 2 ทาง คือ ต้องเลือกระหว่าง อยู่ในโลกนี้ต่อไปตลอดกาล หรือจะต้องฆ่าแม่ของตัวเอง (ผู้ที่เป็นท่านโอยาชิโระกลับชาติมาเกิด) เพื่อกลับไปยังโลกของบทสันนิบาตเทศกาลอีกครั้ง ซึ่งเธอเลือกที่จะกลับไปยังโลกของบทสันนิบาตเทศกาล เธอได้ฆ่าแม่ของเธอไป เมื่อตื่นขึ้นมาได้รู้ความจริงว่าทั้งหมดเป็นเพียงความฝันที่ฮานิวตั้งใจจะสอนให้กับริกะ และริกะก็ได้เอาเรื่องนี้ไปบอกกับทุกคนเมื่อทุกคนได้ยินสิ่งนั้นแล้ว เรนะก็ได้สอนถึงการเป็นพระเจ้าและถูกคนก็บอกเป็นเสียงเดียวว่าพวกเขาโลกที่ทุกข์ทรมานมากกว่าโลกที่บริสุทธ์เพราะมันช่วยสอนเราถึงการมีชีวิตได้ และจะทำให้เราเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ทำให้ริกะได้รู้สึกถึงการมีชีวิตแบบมนุษย์เธอจึงตัดสินใจจะออกจากการที่ตัวเองเป็นเหมือนแม่มดและกลับไปเป็นมนุษย์ธรรมดา

  • Penalty Loving Chapter (罰恋し編, Batsukoishi-hen)

บทนี้จะไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องหลัก ซึ่งจะเป็นบทที่เอาความตลกเท่านั้น เนื้อเรื่องเล่าถึงความฝันของเคย์อิจิที่ถูกเกมลงทัณฑ์และได้ตั้งกลุ่มที่มีชื่อว่า Soul Brother โดยสมาชิกมี เคย์อิจิ โทมิทาเกะ อิริเอะ และ โออิชิ ซึ่งได้ปรึกษาการตั้งเกมลงทัณฑ์สุดหน้าอาย ตอนแรกๆ ทางผู้สร้างได้ตั้งใจที่จะให้บทนี้เป็นบทส่งท้ายของบทสืบคดี แต่เนื่องจากมันมีความไม่เกี่ยวข้องและดูไร้สาระเกินไปทำให้ถูกลบออกไปในเวลาต่อมา

  • บททลายเที่ยงวัน (昼壊し編, Hirukowashi-hen)

บทนี้จะเป็นบทที่มากจาก เกมชื่อ Higurashi Daybreak (ひぐらしデイブレイク Higurashi Deibureiku) ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องหลักเช่นเดียวกับ บท Penalty Loving โดยเหล่าถึงเคย์อิจิกับเรนะได้ใช้เวลาร่วมกัน และได้บังเอิญกลืนอะไรบ้างอย่างลงไป ซึ่งสิ่งกลืนนั้นคือ ตราประทับ "Fuwarazu Magatama" อันศักดิ์สิทธิ์ที่ริกะกำลังตามหาอยู่ ซึ่งจะมีสีแดงและสีขาว ผู้ใดที่มีสีแดงจะตกหลุมรักผู้ที่มีสีขาว ซึ่งเรนะได้กลืนสีแดงลงไปทำให้ใครก็ตามที่เก็บสีขาวเรนะจะตกหลุมรักทันที

Higurashi no Naku Koro ni Matsuri

โดยบทเหล่านี้ได้สร้างครั้งแรก บนเครื่อง เพลย์สเตชัน 2 ภายใต้ชื่อ Higurashi no Naku Koro ni Matsuri (ひぐらしのなく頃に祭, When Cicadas Cry Festival)

  • Taraimawashi-hen (盥回し編, Rotation Chapter)

บทนี้จะเป็นบทที่คล้ายกับ บทเทศกาลมรณะ แต่จะมีฉากจบที่แตกต่างกัน คือ มิองได้รอดจากเหตุการณ์ฆาตกรรมต่อเนื่องของชิองที่ตัวเองเป็นเหยื่อและเหตุการณ์ก๊าซภูเขาไฟปะทุในหมู่บ้านฮินามิซาวะ

  • Tsukiotoshi-hen (憑落し編, Exorcism Chapter)

โดยเนื้อเรื่องจะเล่าถึง ซาโตโกะ และ ชิอง ถูกเทปเปทารุณ เหมือนซาโตโกะและซาโตชิ เคอิจิและเรนะได้ร่วมมือกันฆ่าเทปเป แต่หลังจากการฆาตกรรมเสร็จสิ้น เรนะเริ่มแสดงท่าทางแปลก ๆ ส่วนเคอิจิคิดว่าเขาได้ยินโอยาชิโระคุยกับเขา มิองได้สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของเพื่อนของเธอและใช้สถานที่ของ ชิองเพื่อค้นหาว่าทำไมพวกเขาถึงทำแบบนี้ ต่อมาซาโตโกะก็เริ่มถูกโรคฮินามิซาวะกำเริบ จนได้ฆ่าชิองที่สุด หลังจากนั้นก็ฆ่าตัวตายในที่สุด

  • Miotsukushi-hen (澪尽し編, Canal Drying Chapter)

เป็นฉากจบอีกแบบหลังจากที่ ริกะ ทราบว่าใครคือฆาตกรตัวจริงที่ฆ่าริกะ เคย์อิจิได้ตัดสินใจที่จะยุติความลึกลับทั้งหมด แต่พวกเขาก็อยู่ในสถานการณ์ที่แตกต่างจากบทสันนิบาตเทศกาล พวกเขาจึงต้องแก้ปริศนาของบททุกบทที่เกิดขึ้น

Higurashi no Naku Koro ni Kizuna

มีทั้งหมด 4 บทซึ่งเป็นบทพิเศษที่สร้างครั้งแรก ของเกมชื่อ Higurashi no Naku Koro ni Kizuna และนำไปลงกับเครื่อง นินเท็นโด ดีเอส

  • Someutsushi-hen (染伝し編, Dye Following Chapter)

เป็นเนื้อเรื่องเล่าต่อจากมังงะ บทยักษ์ตัดคอ กับตัวละครใหม่และความแตกต่างเล็กน้อย เล่าถึง ตำรวจหญิงชื่อ มิไน โทโมเอะ ได้ร่วมมือกับ อาคาซากะ และ โออิชิ ในการสืบคดีฆาตกรรมใน โรงเรียนลูเซียน่า โรงเรียประจำนสตรีที่ ชิองอยู่

  • Kagebōshi-hen (影紡し編, Silhouette Spinning Chapter)

เป็นบทใหม่ของ Higurashi no Naku Koro Ni Kizuna เวอร์ชันของบทยักษ์ตัดคอ ถูกเล่าผ่าน มิไน โทโมเอะ ตำรวจหญิงที่กำลังสืบสวนเหตุการณ์แปลก ๆ ที่เกิดขึ้นทั่วประเทศญี่ปุ่น ส่วนอาคาซากะ และโออิชิ ก็อยู่ในบทนี้ด้วย บทนี้จะมีตัวละครใหม่จากมังงะในชื่อ มิไน มาโดกะ ซึ่งเป็นน้องสาวของ โทโมเอะ บทนี้จะมีตอนจบเหมือนมังงะ แต่มีเหตุการณ์ที่แตกต่างกันทำให้เกิดขึ้น นั้นคือนัตซึมิได้ทำร้ายชิซาโตะเพื่อนคนหนึ่งของเธอ จนต่อพาเธอเข้าโรงพยาบาลหลังจากนั้นเธอก็คุยกับอากาซากะ นัตซึมิได้เหล่าถึงการเกิดเหตุฆาตกรรมครอบครัวของเธอ ที่ไม่อาจคาดเดาได้ หลังจากนั้นชิซาโตะ ได้พบ นัตซึมิ บนดาดฟ้าโรงพยาบาลและเธอได้ปลอบใจนัตซึมิลงได้ในที่สุด

  • Tokihogushi-hen (解々し編, Untangling Chapter)

เป็นบทใหม่ใน Higurashi no Naku Koro Ni Kizuna โดยเหล่าถึง มิไน โทโมเอะ โออิชิ และ ตัวละครใหม่ชื่อ โอซากิ นางิสะ เพื่อสมัยเด็กของ เรนะ บทนี้จะเป็นบทที่สืบคดีของ เรนะที่ใช้ไม้เบสบอลทำร้ายเพื่อนผู้ชายสามคน ในปีโชวะที่ 57

  • Kotohogushi-hen (言祝し編, Congratulating Chapter)

บทพิเศษของ นินเท็นโด ดีเอส ในบทสุดท้ายของ Higurashi no Naku Koro Ni Kizuna บทนี้สำรวจอดีตของฮานิว และที่มาของหมู่บ้านฮินามิซาวะ ตัวละครที่ปรากฏในบทนี้เช่น ฟุรุเดะ ริคุ หนึ่งในบรรพบุรุษของ ริกะ และเป็นผู้ตกหลุมรัก ฮานิว และเล่าถึงลูกสาวของ ริคุและริกะ ที่มีชื่อว่า ฟุรุเดะ โอกะ

Higurashi no Naku Koro ni มังงะ (ตอนพิเศษ)

เรื่องราวเหล่านี้เป็นบทดั้งเดิมที่ต่อเนื่องกันในรูปแบบมังงะซึ่งเป็นการเสริมเกมและดำเนินการต่อบางส่วน

  • บทยักษ์ตัดคอ (鬼曝し編, Onisarashi-hen)

เล่าถึงเด็กสาวชื่อ นัตซึมิ ถูกหลอกหลอนจากเหตุการณ์ ก๊าซพิษปะทุใน ฮินามิซาวะ ไม่นานหลังจากคุณยายของเธอ อดีตผู้อาศัยอยู่ในฮินามิซาวะบอกเธอเกี่ยวกับคำสาปของท่านโอยาชิโระ

  • บทพ้นทิวา (宵越し編, Yoigoshi-hen)

บทนี้เป็นบทส่งท้ายของบทชดใช้บาปแค่จะแตกต่างกันที่ เรนะได้เผาโรงเรียนและฆ่าเพื่อนๆไปในที่สุด มีแต่มิองเท่านั้นที่รอดชีวิต โดยเนื้อเรื่องนั้นจะเล่าในปีเฮเซที่ 18 (พ.ศ. 2549)

  • Kataribanashi-hen (語咄し編, Anthology Chapter)

เป็นชื่อคอลเลกชันของมังงะที่สร้างโดย ริวคิชิ 07

  • บทเยียวยาใจ (心癒し編, Kokoroiyashi-hen)

บทส่งท้ายของบทสันนิบาตเทศกาล ที่ริกะและคนอื่น ๆ รวมถึงฮานิว ได้ไปเที่ยวพักผ่อนช่วงฤดูร้อน

Higurashi no Naku Koro ni อนิเมะ (ตอนพิเศษ)

  • บทหายนะฟื้นคืน (厄醒し編, Yakusamashi-hen)

บทนี้เป็นบทที่ถูกสร้างขึ้นจากที่ บริษัท ริวคิชิ 07 ได้ออกฉายเมื่อ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 - 3 สิงหาคม พ.ศ. 2550 โดยมีทั้งหมด 4 ตอน ด้วยกัน ซึ่งได้ขอร้องให้สร้างบทนี้ขึ้นมาเพื่อรวมรายละเอียดการวางแผนที่สำคัญที่ถูกปล่อยออกมาจาก ซี่ซั่นนแรก เพื่อผูกทั้งสองซี่ซั่นเข้าด้วยกัน ปัญหาความลับของฮินามิซาวะได้รับการแก้ไขตั้งแต่ต้นในสถานการณ์นี้ทำให้ตัวละครอื่น ๆ สามารถเข้ากันได้โดยไม่ต้องมีปัญหาเพิ่มเติม เรื่องราวถูกเล่าจากมุมมองของซาโตโกะเมื่อเธอเริ่มกังวลกับพฤติกรรมแปลก ๆ ของ ริกะ มากขึ้นรวมถึงการพูดสิ่งที่มองไม่เห็น (ริกะคุยกับฮานิว) ต่อมาซาโตโกได้รับสถานการณ์ที่มีองค์ประกอบจาก บทคำสาปสังหาร และ บท Taraimawashi จากการค้นพบศพของริกะ ทำให้เธอรอดจากเหตุการณ์ก๊าซพิษปะทุ แต่เธอก็และตายในโรงพยาบาลเมื่อเธอได้รู้ความลับเบื้องหลังการฆาตกรรมของริกะ (เช่นเดียวกับกรณีของเคย์อิจิในบทคำสาปสังหาร)

  • Kamikashimashi-hen (神姦し編, God Violating Chapter)

เป็นบทที่เป็นบทพิเศษในอนิเมะและเป็นบทล่าสุดของทุกบทที่ผ่านมา ได้ออกฉายเมื่อ วันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2556 ซึ่งมีแค่ตอนเดียว แต่มีความยาวประมาณเกือบ 1 ชั่วโมง และตั้งชื่ออนิเมะว่า Higurashi no Naku Koro ni Kaku (ひぐらしのなく頃に拡~アウトブレイク~, When the Cicadas Cry Expanded -Outbreak-) หลังจากนั้นก็ได้ ถูกเอาลงในเกมในชื่อ Higurashi no Naku Koro ni Hō วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2557 โดยเนื้อเรื่องเล่าถึง หมู่บ้านถูกปิดตายอย่างสมบูรณ์เนื่องจากได้พบไวรัสลึกลับในปีโชวะที่ 58 โดยที่ โซโนะซากิ มิอง, มาเอบาระ เคอิจิ และ ริวงู เรนะ ได้เชื่อว่า มันคือ โรคฮินามิซาวะ จากคำสาปของท่านโอยาชิโระ หลังจากที่หมู่บ้านปิดตายในตอนกลางคืนนั้นชาวบ้านทุกคนได้เกิดอาการคุ้มคลั่งและเริ่มฆ่ากัน ทำให้เคอิจิ เพื่อนๆ และ พ่อแม่ของเขา ต้องพยายามออกจากหมู่บ้านฮินามิซาวะโดยที่ทุกคนกำลังคลุ้มคลั่งกัน