ความตอนต้น ของ ยุขัน

"ท้าวเวณุมาน" เป็นกษัตริย์ครองเมืองสิบสองเหลี่ยม มีมเหสีชื่อ "บุปผา" แต่กลับไม่มีโอรสธิดาสืบสกุล อยู่ต่อมา "เมืองกาหรำ" ซึ่งเป็นเมืองขึ้น เกิดแข็งเมือง ท้าวเวณุมานจึงใช้ให้ "สุสิหลำ" เป็นแม่ทัพยกไปปราบซึ่งต้องออกศึกนานถึง 7 ปี สุสิหลำมีภรรยาชื่อ "นางมาลา" และลูกสาวชื่อ "นางวัลลุมาลี" สุสิหลำได้รำลาภรรยาและบุตรสาว พร้อมทั้งกำชับบุตรสาวว่าให้ครองตนเป็นโสดจนกว่าตนจะกลับมาแล้วจะเลือกคู่ครองที่เหมาะสมให้กับนางวัลลุมาลีเอง ในวันที่นางมาลา และนางวัลลุมาลีไปส่งสุสิหลำนั้น อุเซนซึ่งเป็นบุตรของโปหะเศรษฐีและสหายนามว่า อุซ่าหรำได้มาชมการเคลื่อนทัพในครั้งนั้นด้วย ทำให้อุเซนได้พบและหลงรักนางวัลลุมาลีตั้งแต่แรกพบ เช่นเดียวกันกับนางวัลลุมาลีก็มีใจให้กับอุเซนเช่นกัน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้อุเซนตัดสินใจลอบเข้าหานางวัลลุมาลีโดยปีนเข้าไปทางหน้าต่าง และมีอุซ่าหรำคอยช่วยอยู่ นางวัลลุมาลีได้เล่าให้อุเซนฟังถึงคำสัตย์ปฏิญาณต่อบิดา ทั้งสองจึงตกลงที่จะรอคอยและทำตามสัญญานั้นอย่างเคร่งครัด และพูดคุยโดยมิแตะเนื้อต้องตัวกัน

จนกระทั่งในคราหนึ่ง ท้าวเวณุมานทรงปลอมพระองค์เป็นทหารนายตรวจเพื่อตรวจดูความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง เมื่อผ่านมายังหน้าบ้านสุสิหลำเห็นสายห่วงห้อยลงมาจากหน้าต่างห้องนางวัลลุมาลี จึงทรงปีนไปตามสายห่วงนั้น และได้เห็นพฤติกรรมของทั้งสองคน จึงทรงดำริที่จะทดลองในความซื่อสัตย์ของทั้งสองโดยออกอุบายให้ทหารจับตัวอุเซนไปประหารชีวิต ฝ่ายอุเซนเมื่อทราบว่าความผิดของตนร้ายแรงถึงขั้นนั้น จึงได้กล่าวขอร้องให้อุซ่าหรำเป็นตัวประกันแทนชั่วคราว เพื่อตนจะได้ไปบอกลานางวัลลุมาลีเป็นครั้งสุดท้าย ด้วยความเป็นมิตรแท้อุซ่าหรำก็ตกลงด้วยความเต็มใจ ท้าวเวณุมานสะกดรอยคามไปและได้ฟังถ้อยคำที่รำลากันตลอดทั้งคืน ก็ทรงชื่นชมในความสัตย์ของคนทั้งสองและตั้งใจจะชุบเลี้ยงให้เป็นบุตรของพระองค์อย่างดี

ครั้นรุ่งเช้า อุเซนก็จึงยอมไปมอบตัวและเปลี่ยนตัวแทนอุซ่าหรำ ในขณะนั้นเองสุสิหลำก็ชนะศึกเมืองกาหรำและเดินทางกลับมาทัน ทราบข่าวว่าท้าวเวณุมานจะลงอาญาผู้กระทำความผิดที่ลอบเข้าหาลูกสาวตนจึงรีบตามไปเข้าเฝ้ายังพลับพลาที่ประทับ นางวัลลุมาลีซึ่งปลอมตัวเป็นชายมาเฝ้าดูเหตุการณ์ก็จงใจควบม้าตัดหน้าพระที่นั่ง ท้าวเวณุมานซึ่งทรงทราบล่วงหน้าแล้วว่าชายปลอมดังกล่าวคือนางวัลลุมาลี จึงแสร้งเป็นพิโรธหนักแล้วสั่งให้สุสิหรำจับตัวมาลงโทษให้ได้

เมื่อความจริงปรากฏนางวัลลุมาลีจึงทูลตอบท้าวเวณุมานว่า ที่ตนกระทำการเช่นนั้นเพราะตั้งใจจะยอมตายพร้อมกับอุเซน ท้าวเวณุมานจึงให้สุสิหรำพิจารณาคดี สุสิหรำแม้จะรักลูกสักปานใดแต่ด้วยความซื่อสัตย์จึงตัดสินใจให้ประหารชีวิตนางวัลลุมาลี ส่วนโปหะเศรษฐีซึ่งทราบข่าวก็ทูลตัดสินให้ประหารชีวิตอุเซนเช่นกันเพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างสืบไป

ท้าวเวณุมานทรงพอพระทัยและซาบซึ้งในความซื่อสัตย์ของบุคคลทั้ง ๕ เป็นอย่างยิ่ง จึงทรงอภัยโทษ แล้วแต่งตั้งอุเซนกับนางวัลลุมาลีเป็นโอรสธิดาบุญธรรมของพระองค์ จากนั้นก็กำหนดฤกษ์ทำพิธีสยุมพรให้กับคนทั้งสอง ฝ่ายอุเซนได้มอบข้าวของมีค่ามากมายให้แก่อุซ่าหรำเพื่อตอบแทนบุญคุณของสหายรัก

หลังจากท้าวเวณุมานสิ้นพระชนม์ลงแล้ว อุเซนก็ได้ขึ้นครองราชย์ ณ เมืองสิบสองเหลี่ยมแทนปรากฏพระนามว่า พระเจ้าอุเรเซ็นและเปลี่ยนนามพระนครเป็นเมืองอุเรเซ็น ทรงแต่งตั้งอุซ่าหรำให้เป็นอุปราชฝ่ายหน้า ดูแลราษฎรให้เป็นสุขสิบไป