เบื้องหลังและคำวิจารณ์ ของ ยุทธการดับจอมอหังการ์อินทรีเหล็ก

Valkyrie เป็นภาพยนตร์แนวประวัติศาสตร์ตื่นเต้นเร้าใจ ที่มีเนื้อเรื่องในไรช์ที่สามในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เกี่ยวกับแผนลับ 20 กรกฎาคม โดยนายทหารจำนวนหนึ่งที่ลอบสังหารอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ โดยใช้ปฏิบัติการวัลคือเรอในวาระฉุกเฉินเพื่อควบคุมประเทศ ภายใต้การกำกับของ ไบรอัน ซิงเกอร์ ผู้กำกับภาพยนตร์หนุ่มที่เคยประสบความสำเร็จมาแล้วจากภาพยนตร์หลายเรื่องก่อนหน้านั้น เช่น The Usual Suspects ในปี ค.ศ. 1996 และ X-Men ในปี ค.ศ. 2000 ซึ่งซิงเกอร์เปิดเผยว่า ตนมีความตั้งใจที่จะผลิตภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่สองหรือนาซีเยอรมันอยู่แล้ว โดยจะเห็นได้จากฉากเปิดเรื่องในเรื่อง X-Men เป็นต้น[2]

นำแสดงโดย ทอม ครูซ นักแสดงชาวอเมริกัน มารับบท พันเอกเคลาส์ ฟอน ชเตาเฟินแบร์ค ผู้เป็นแกนหลักในปฏิบัติการครั้งนี้และเป็นตัวเอกในเรื่อง ซึ่งหน้าตาของครูซเมื่อหันด้านข้างคล้ายกับชเตาเฟินแบร์คเป็นอย่างมาก[3] พร้อมด้วยนักแสดงระดับคุณภาพมากมาย ทั้ง เคนเนธ บรานาห์, เทอร์เรนซ์ แสตมป์, บิล ไนอี, ทอม วิลคินสัน และ เอ็ดดี้ อิซซาร์

แต่การที่ครูซมารับบทบาทแสดงในเรื่องนี้ทำให้เกิดข้อพิพาทขึ้นกับนักการเมืองเยอรมันและครอบครัวของชเตาเฟินแบร์ค เพราะด้วยความเชื่อของครูซที่เชื่อในลัทธิไซแอนโทโลจีซึ่งเป็นข้อคลางแคลงใจกับชาวเยอรมัน หนังสือพิมพ์และผู้สร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ต่างสนับสนุนภาพยนตร์โดยให้ความรู้เกี่ยวกับแผนของชเตาเฟินแบร์ค การทำภาพยนตร์ในช่วงแรกค่อนข้างไปเป็นได้ด้วยความยากลำบากเนื่องจากสถานที่ถ่ายทำในเยอรมนีเนื่องจากเกิดข้อพิพาท แต่ต่อมาก็ดำเนินการได้เนื่องจากสถานที่ถ่ายทำมีความเหมาะสมกับตัวเนื้อเรื่อง อย่างเช่นที่ อาคารเบนเดลอร์บล็อก อันเป็นฐานบัญชาการจริงของปฏิบัติการครั้งนี้ ซึ่งการออกแบบฉากและเครื่องแต่งกายทำได้เหมือนจริงมาก แม้กระทั่งหญิงชราชาวเยอรมันผู้หนึ่งผ่านมาพบเห็นเข้า ถึงกับอุทานและเอ่ยว่า เหมือนได้ย้อนเวลากลับไปช่วงนั้นอีกครั้ง ซึ่งเธอผู้นี้ได้อาศัยอยู่ที่เบอร์ลินในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองจริง ๆ [2][4]

ภาพยนตร์เลื่อนฉายอยู่หลายครั้ง ตั้งแต่ช่วงต้นคือ 27 มิถุนายน ค.ศ. 2008 ไปเป็น 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2009 การเปลี่ยนตารางเวลาและการตอบรับไม่ดีในการทำตลาด เป็นสิ่งประเมินผลงานความอยู่รอดของบริษัทผู้สร้าง หลังจากการฉายรอบทดสอบได้รับเสียงบวก ภาพยนตร์ก็ออกฉายในอเมริกาเหนือ เปลี่ยนไปเป็นวันที่ 25 ธันวาคม ค.ศ. 2008 โดย ยูไนเต็ด อาร์ติสต์ ได้ทำแผนการตลาดใหม่โดยลดการเน้นภาพลักษณ์ของครูซลงและชูผลงานของผู้กำกับขึ้นแทน ภาพยนตร์ได้รับเสียงวิจารณ์ทั้งบวกและลบ คละกันไปในสหรัฐอเมริกา เปิดตัวในเยอรมนีเมื่อวันที่ 22 มกราคม ค.ศ. 2009 ได้รับเสียงวิจารณ์ทั้งบวกและลบจากชาวเยอรมัน จนถึงวันนี้ภาพยนตร์ทำรายได้ 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐทั่วโลก[1]

ใกล้เคียง

ยุทธการที่เดียนเบียนฟู ยุทธการที่เซกิงาฮาระ ยุทธการที่มอสโก ยุทธการที่เซี่ยงไฮ้ ยุทธการที่อิเหลง ยุทธการที่สตาลินกราด ยุทธการที่ฝรั่งเศส ยุทธการที่โอกินาวะ ยุทธการที่เทอร์มอพิลี ยุทธการที่วอเตอร์ลู