การให้บริการ ของ ยูโรสตาร์

ความถี่ของขบวนรถไฟ

รถไฟยูโรสตาร์มีขบวนรถระหว่างลอนดอน-ปารีส 16 ขบวนต่อวัน (18 ขบวนในวันศุกร์) ในจำนวนนี้มีขบวนรถที่ไม่หยุดระหว่างทาง 10 ขบวน (12 ขบวนในวันศุกร์) และระหว่างลอนดอน-ลีลล์-บรัสเซลส์ 10 ขบวนต่อวัน (5 ขบวนไม่หยุดที่ลีลล์) นอกจากนี่ยังมีขบวนรถสู่ลอนดอนจากสถานี Marne-la-Vallée - Chassy ไกล้กับสวนสนุกดีสนีย์ แลนด์ปารีส ทุกวันจันทร์ พุธ พฤหัส ศุกร์ และอาทิตย์ ในช่วงระหว่างที่โรงเรียนเปิดเทอมแต่จะมีขบวนรถวิ่งทุกวันในช่วงวันหยุดปิดเทอม รถไฟยูโรสตาร์มีขบวนรถตามฤดูกาลในแต่ละช่วงของปีดังนี้ ระหว่างเดือนพฤษภาคม ถึงมิถุนายน มีขบวนรถระหว่างลอนดอน-แอชฟอร์ด-ลียง-อาวีญง-โพรวองซ์ ในฝรั่งเศส สัปดาห์ละ 1 เที่ยวระหว่างเดือนกรกฎาคม ถึงกันยายน มีขบวนรถระหว่างลอนดอน-แอชฟอร์ด-อาวีญง สัปดาห์ละ 1 เที่ยวในช่วงฤดูหนาวมีขบวนรถ "snow trains" สู่สกีรีสอร์ทสำหรับผู้ที่ต้องการไปเล่นสกีในช่วงฤดูหนาว ระหว่างลอนดอน-Bourg-Saint-Maurice, Aime-la-plagne และ Moûtiers ในเทือกเขาแอลป์ 2 ขบวนต่อสัปดาห์คือ 1 ขบวนในเวลากลางวัน และอีก 1 ขบวนเป็นรถนอนกลางคืน จอดรับส่งผู้โดยสารที่สถานีนานาชาติแอปสฟลีท สถานีนานาชาติแอชฟอร์ด สถานีกาแล-แฟรทุน และสถานีลีลล์-ยุโรป

ค่าโดยสาร

ค่าโดยสารรถไฟยูโรสตาร์นั้นค่อนข้างสูงในช่วงแรกๆที่เปิดให้บริการ ค่าโดยสารไป-กลับที่ถูกที่สุดในปี ค.ศ. 1994 ระหว่างลอนดอน-ปารีส ราคา 99 ปอนด์ ในปี 2002 ทางยูโรสตาร์ได้มีแผนที่จะปรับลดค่าโดยสาร เช่นตั๋วไป-กลับภายใน 1 วัน ระหว่างลอนดอน-ปารีส และลอนดอน-บรัสเซลส์ เริ่มต้นที่ราคา 50 ปอนด์ เมื่อเดือนมีนาคม ปี 2003 ราคาตั๋วไป-กลับที่ถูกที่สุดจากลอนดอนราคา 59 ปอนด์ ใช้ได้ตลอดทั้งปี เดือนมิถุนายน ปี 2009 รถไฟยูโรสตาร์ปรับราคาตั๋วเที่ยวเดียวระหว่างลอนดอน-ปารีส และบรัสเซลส์ เริ่มต้นที่ 31 ปอนด์ การแข่งขันระหว่างรถไฟยูโรสตาร์และสายการบิน เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้รถไฟยูโรสตาร์ต้องลดราคาค่าโดยสารในช่วงแรกๆ ค่าโดยสารในชั้นธุรกิจยังมีการตัดราคาให้ถูกกว่าการเดินทางโดยเครื่องบินเล็กน้อยเมื่อเทียบในเส้นทางเดียวกัน กลุ่มลูกค้าหลักคือนักธุรกิจที่เดินทางบ่อย ในปี 2009 ยูโรสตาร์ได้เพิ่มงบประมาณเกี่ยวกับตั๋วเพื่อพยุงราคาตั๋วโดยสาร ช่วยให้บริษัทสามารถเติบโตและมีส่วนแบ่งทางการตลาดที่โดดเด่น ระบบการจำหน่ายตั๋วของรถไฟยูโรสตาร์เป็นระบบที่ซับซ้อนมาก โดยมีระบบการจำหน่ายตั๋วมากกว่า 48 ระบบ ยูโรสตาร์เป็นสมาชิกของ Amadeus ซึ่งเป็นระบบการจัดการสำรองที่นั่งของสายการบินต่างๆทั่วโลก ทำให้ตั๋วของยูโรสตาร์มีลักษณะเหมือนตั๋วของสายการบินทั่วโลก

การบริการเชื่อมต่อ

เนื่องจากบริษัทยูโรสตาร์ไม่ต้องให้บริการในส่วนของรถท้องถิ่นยูโรสตาร์ที่ให้บริการในภาคอื่นๆของประเทศอังกฤษเหมือนความตั้งใจเดิมตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง ทำให้ยูโรสตาร์ได้พัฒนาระบบเชื่อมต่อกับการระบบขนส่งอื่นๆให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นแทน เช่นการร่วมปรับปรุงตารางการเดินรถและเส้นทางให้บริการกับรถไฟเดิมของอังกฤษให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้ผู้โดยสารสามารถใช้ระบบรถไฟยูโรสตาร์เพื่อไปสู่จุดหมายปลายทางต่างๆในภาคพื้นยุโรปได้ง่ายขึ้น โดยมี 3 สถานีหลักในการให้บริการคือ สถานีนานาชาติเซนต์แพงครัส สถานีปารีสนอร์ท และสถานีบรัสเซลส์มิดิ ทั้ง 3 สถานีนี้เชื่อมต่อกับรถไฟท้องถิ่น หรือระบบขนส่งมวลชนที่ให้บริการในประเทศนั้นๆ เช่นรถไฟใต้ดินของลอนดอน และปารีส เมโทร รถไฟยูโรสตาร์มีพันธมิตรร่วมกับระบบขนส่งทางรางอื่นๆมากมาย ที่สำคัญๆได้แก่ รถไฟตาลิส เชื่อมต่อที่ ลีลล์ และบรัสเซลส์ สำหรับผู้โดยสารของยูโรสตาร์ที่ต้องการเดินทางไปยังประเทศเนเธอร์แลนด์ และเยอรมนี ในปี 2002 ยูโรสตาร์เริ่มให้บริการโปรแกรม ยูโรสตาร์-พลัสส์ ซึ่งเป็นตั๋วโดยสารที่ใช้ต่อจากสถานีลีลล์และปารีส สู่หลากหลายจุดหมายปลายทางในฝรั่งเศส ตั๋วรถไฟยูโรสตาร์ยังใช้ได้จากเมืองต่างของอังกฤษมากกว่า 68 เมืองสู่หลากหลายเมืองในฝรั่งเศสและเบลเยี่ยม ในปี 2009 ยูโรสตาร์ได้ร่วมมือกับเตเฌเว ลีรียา (TGV Lyria - ชื่อของรถไฟ TGV ในเส้นทางระหว่างฝรั่งเศสและสวิสเซอร์แลนด์) ให้บริการเชื่อมต่อไปยังสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งจะดำเนินการโดยรถไฟ TGV จากสถานีลีลล์ สู่เทือกเขาแอลป์ในประเทศสวิสเซอร์แลนด์

ระบบการตรวจคนเข้าเมืองและการรักษาความปลอดภัย

เนื่องจากสหราชอาณาจักรไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่เชงเก้น ในทางกลับกัน เบลเยี่ยมและฝรั่งเศสก็ไม่ได้อยู่ใน Common Travel Area (ไอร์แลนด์,บริเตนใหญ่,เกาะแมน และหมู่เกาะแชนแนล) ทำให้ผู้โดยสารรถไฟยูโรสตาร์ทุกคนต้องผ่านการตรวจคนเข้าเมือง ทั้งรัฐบาลอังกฤษ และรัฐบาลของกลุ่มประเทศเชงเก้นได้ มีข้อตกลงร่วมกันที่จะตรวจเอกสารการเดินทางของผู้ที่เดินทางด้วยรถไฟยูโรสตาร์ในการข้ามประเทศ

การตรวจคนเข้าเมืองและตรวจด้านความปลอดภัยจะทำเหมือนที่ท่าอากาศยานทุกแห่ง มีตั้งแต่การตรวจเอ็กซ์เรย์กระเป๋าสัมภาระ ตรวจค้นอาวุธและของมีคมในกระเป๋าเสื้อและกางเกง การตรวจค้นที่สถานีรถไฟยูโรสตาร์เทียบได้กับสนามบินเล็กๆ แต่ไวกว่าสนามบินใหญ่ๆเช่นสนามบินลอนดอนฮีทโทรว์ เวลาที่ทางยูโรสตาร์แนะนำในการเช็คอินก่อนออกเดินทางคือ 30 นาที ยกเว้นผู้โดยสารชั้นธุรกิจใช้เวลาประมาณ 10 นาที สำหรับเหตุผลในการตรวจค้นแบบเต็มรูปแบบเนื่องจากเหตุผลด้านความปลอดภัยของอังกฤษในการโดยสารผ่านอุโมงค์ช่องแคบอังกฤษ

ผู้โดยสารรถไฟยูโรสตาร์ที่เดินทางภายในพื้นที่เชงเก้น (เช่นจากบรัสเซลส์-ลีลล์ หรือบรัสเซลส์-กาเลต์) จะถูกตรวจค้นโดยเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองอังกฤษภายในเขตประเทศเบลเยี่ยม ตั้งแต่ยังไม่มีวิธีการที่จะคัดแยกผู้โดยสารที่โดยสารในเส้นทางบรัสเซลส์-ลอนดอน

ภายหลังจากการลงนามไตรภาคี รัฐบาลเบลเยี่ยมกล่าวว่ามีคำถามจากหลายฝ่ายถึงความสอดคล้องข้อตกลงนี้กับหลักการของสนธิสัญญากลุ่มประเทศเชงเก้นที่อนุญาตให้พลเมืองที่ตั้งถิ่นฐานในพื้นที่เชงเก้นมีการย้ายถิ่นอย่างเสรีวันที่ 30 มิถุนายน ค.ศ. 2009 ที่ประชุมสภาสามัญชนของอังกฤษได้แสดงความกังวลต่อประเด็นของยูโรสตาร์ว่าเป็นการขัดต่อกฎหมายของฝรั่งเศสในการที่รัฐบาลอังกฤษจะเก็บข้อมูลของผู้โดยสารภายใต้โครงการ e-Borders (การตรวจคนเข้าเมือง)ดังนั้นในกรณีที่ไม่มีด่านตรวจรักษาความปลอดภัย และไม่มีสถานีที่แยกอย่างเป็นกิจลักษณะ เช่นผู้โดยสารที่เดินทางกับรถที่เปิดบริการตามฤดูกาลท่องเที่ยว ต้องมาเปลี่ยนรถที่สถานีลีลล์และผ่านการตรวจคนเข้าเมืองและตรวจด้านความปลอดภัยที่นี่มีหลายครั้งที่ผู้โดยสารพยายามหนีการตรวจค้นและหลบซ่อนเพื่อเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายเข้าสู่ประเทศอังกฤษ และหลายๆครั้งมาเป็นกลุ่มใหญ่ ทำให้การตรวจคนเข้าเมืองอังกฤษต้องเพิ่มความเข้มงวดมากขึ้น และยูโรสตาร์ได้อ้างว่าได้ให้ความร่วมมืออย่างดีเยี่ยมในมาตรการด้านความปลอดภัย