พระประวัติ ของ ยฺหวิ่นเหริง

องค์ชายอิ้นเหริง ประสูติในตระกูลแมนจูอ้ายซินเจว๋หลัว ทรงเป็นพระราชโอรสพระองค์ที่เจ็ดในจักรพรรดิคังซี แต่เป็นพระองค์ที่สองที่เติบโตจนเป็นผู้ใหญ่ พระองค์มีพระนามเดิมว่าเป่าเฉิง และได้เปลี่ยนเป็น อิ้นเหริง เมื่อมีพระชันษามากขึ้น

พระราชมารดาของพระองค์คือจักรพรรดินีเซี่ยวเฉิงเหริน สกุลเฮ่อเซ่อหลี่ ซึ่งเป็นหลานสาวของสั่วหนี (หนึ่งในคณะสำเร็จราชการของคังซี) ซึ่งเสด็จสวรรคตหลังมีพระประสูติกาลอิ้นเหริงได้ไม่นาน

จักรพรรดิคังซีได้ประกาศแต่งตั้งอิ้นเหริงเป็นพระรัชทายาทเมื่อพระองค์มีพระชันษา 1 ปี คังซีได้หาผู้มีความรู้มาอบรมสั่งสอนพระรัชทายาท ทำให้อิ้นเหริงเป็นผู้รอบรู้ทั้งภาษาฮั่นและภาษาแมนจู

ในปี 1696 – 1697 จักรพรรดิคังซียกทัพปราบเก๋อเอ่อตานข่าน อิ้นเหริงได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้สำเร็จราชการรักษานครปักกิ่ง แม้จะมีเรื่องอื้อฉาวและข้อกล่าวหาของการทุจริตและความอยุติธรรม พระองค์ยังคงเป็นที่โปรดปรานของพระราชบิดา

ในปี 1703 สั่วเอ้อถู (อาของจักรพรรดินีเซี่ยวเฉิงเหริน) ได้ถูกจับกุมด้วยข้อหาวางแผนลอบปลงพระชนม์และทุจริต เขาได้ถูกจำคุกและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทำให้อิ้นเหริงเริ่มมีความขัดแย้งกับพระราชบิดา ปี 1708 อิ้นเหริงถูกข้อหาว่า ได้นำม้าต้นที่เผ่ามองโกลถวายให้จักรพรรดิคังซีนำไปขี่เล่น ซึ่งทำให้มีการตำหนิอย่างหนัก จักรพรรดิคังซีได้มีคำสั่งปลดอิ้นเหริงจากตำแหน่งรัชทายาท แต่ในภายหลังได้มีการจับกุมองค์ชายอิ้นถี (พระราชโอรสพระองค์ใหญ่ของคังซี) ด้วยข้อหาทำคาถาใส่พระรัชทายาท ปี 1709 อิ้นเหริงจึงได้รับการแต่งตั้งขึ้นเป็นพระรัชทายาทอีกครั้ง ตลอดช่วงระยะเวลาสามปีต่อมา อิ้นเหริงมีพฤติกรรมที่แย่ลง ยังใช้อำนาจในทางมิชอบ ซ่องสุมกลุ่มขุนนาง รังแกเหล่าพระอนุชา จักรพรรดิคังซีจึงสั่งปลดจากตำแหน่งรัชทายาทอีกครั้งในปี 1712 และได้มีการคุมขังไว้

ปี 1722 จักรพรรดิคังซีสวรรคต เจ้าชายสี่อิ้นเจินได้สืบทอดราชบังลังก์เป็นจักรพรรดิยงเจิ้ง อิ้นเหริงต้องเปลี่ยนพระนามเป็นยฺหวิ่นเหริง เพื่อไม่ให้ใช้คำว่า อิ้น เหมือนองค์จักรพรรดิ ในปี 1725 ยฺหวิ่นเหริงสิ้นพระชนม์ขณะยังถูกคุมขัง จักรพรรดิยงเจิ้งทรงสถาปนาให้เป็นเหอชั่วหลี่มี่ชินหวัง (和碩理密親王)