ย็อนซันกุน

ย็อนซันกุน (เกาหลี: 연산군; ฮันจา: 燕山君; อาร์อาร์: Yeonsangun; เอ็มอาร์: Yŏnsan'gun ค.ศ. 1476 - ค.ศ. 1506) เป็นประมุของค์รัชกาล​ที่ 10 แห่งราชวงศ์โชซ็อน (ค.ศ. 1494 - ค.ศ. 1506) ได้ชื่อว่าเป็นพระมหากษัตริย์เกาหลีที่อื้อฉาวที่สุด รัชสมัยของพระองค์​มีแต่ความวุ่นวาย จนถูกกระทำรัฐประหารยึดอำนาจในค.ศ. 1506 ถูกถอดพระยศจากพระมหากษัตริย์ลงมาเป็นเจ้าธรรมดา และไม่ได้รับพระนามที่พระสุสานย็อนซันกุนประสูติเมื่อค.ศ. 1476 เป็นพระโอรสของพระเจ้าซ็องจงกับพระมเหสีจากตระกูลยุน เรียกว่า วอนจา (원자, 元子) คือ พระโอรสองค์แรกที่ประสูติแต่พระมเหสี แต่พระราชมารดาได้ชื่อว่ามีความหึงหวงอย่างมากและด้วยความกดดันจากพระพันปีอินซู พระอัยยิกาของวอนจาจึงปลดพระมเหสียุนจากตำแหน่งและเนรเทศออกนอกวังไปในค.ศ. 1479 และถูกสำเร็จโทษไปในค.ศ. 1482 วอนจาจึงอยู่ภายใต้การเลี้ยงดูของพระมเหสีองค์ใหม่ คือ พระมเหสีจองฮย็อน (정현왕후, 貞顯王后) และในค.ศ. 1483 วอนจาก็ได้รับการสถาปนาเป็นเจ้าชายรัชทายาท เมื่อพระเจ้าซองจงสวรรคตในค.ศ. 1494 เจ้าชายรัชทายาทจึงขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์องค์ต่อไป ขุนนางที่มีอำนาจมาตั้งแต่รัชสมัยของพระเจ้าซองจงได้แก่ยุนพิลซัง (윤필상, 尹弼商) ลีกึกดน (이극돈, 李克墩) และยูจากวาง (유자광, 柳子光) ก็ยังคงมีอำนาจต่อ ขณะเดียวกันต้องต่อสู้กับการโจมตีของขุนนางฝ่ายซาริม (사림파, 士林派) ในค.ศ. 1498 ขณะมีการจัดทำบันทึกประวัติศาสตร์รัชกาลพระเจ้าซองจงนั้น คิมอิลซุน (김일손, 金馹孫) ขุนนางฝ่ายซาริมคนหนึ่ง ได้อ้างอิงข้อความจากหนังสือเรื่อง ความเสียใจต่อพระองค์ผู้ทรงธรรม (조의제문, 弔義帝文) ของ คิมจงจิก (김종직, 金宗直) ขุนนางสมัยพระเจ้าซองจงและอาจารย์ของตน มาเขียนในบันทึกประวัติศาสตร์ว่าการยึดอำนาจของพระเจ้าเซโจจากเจ้าชายโนซาน (노산군, 魯山君) นั้นไม่มีความชอบธรรม เป็นเหตุให้ย็อนซันกุนถึงกับเปิดอ่านบันทึกประวัติศาสตร์ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องห้าม[1] ลีกึกดนและยูจากวางจึงทูลยุยงให้ย็อนซันกุนทำการกวาดล้างขุนนางฝ่ายซาริมจากการกล่าวหาว่าพระเจ้าเซโจซึ่งเป็นพระปัยกานั้นขาดความชอบธรรมในการครองราชย์ เรียกว่า การสังหารหมู่ปราชญ์ปีมูโอ (무오사화, 戊午士禍) ขุนนางและนักปราชญ์ฝ่ายซานิมจำนวนมากถูกประหารชีวิตและเนรเทศ ส่วนคนที่ตายไปแล้วเช่นคิมจงจิกนั้นก็ได้ถูกขุดศพขึ้นมาทำลายพระเจ้าซองจงมีรับสั่งให้ปิดเรื่องการสำเร็จโทษอดีตพระมเหสียุนเป็นความลับ แต่ในค.ศ. 1504 ลิมซาฮง (임사홍, 任士洪) และชินซูกึน (신수근, 愼守勤) ได้ทูลเรื่องนี้แก่ย็อนซันกุน ทำให้พิโรธมากและสั่งประหารชีวิตทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการให้ร้ายพระราชมารดาแม้เพียงเล็กน้อย เรียกว่า การสังหารหมู่ปราชญ์ปีคัปจา (갑자사화, 甲子士禍) ขุนนางผู้ใหญ่ในสมัยพระเจ้าซองจงเช่นยุนพิลซังล้วนถูกสำเร็จโทษทั้งหมด คนที่เสียชีวิตไปแล้วเช่นฮันมยองฮีก็ถูกขุดศพขึ้นมาทำลาย พระสนมของพระเจ้าซองจง คือ พระสนมควีอิน ตระกูลจอง (귀인 정씨, 貴人 鄭氏) และพระสนมควีอิน ตระกูลออม (귀인 엄씨, 貴人 嚴氏) ถูกสำเร็จโทษและนำพระศพไปทำลาย[2] รวมทั้งเจ้าชายอันยาง (안양군, 安陽君) และเจ้าชายพงอัน (봉안군, 鳳安君) พระอนุชาที่เป็นพระโอรสของพระสนมจอง ก็ถูกสำเร็จโทษและทำลายพระศพเช่นกัน ย็อนซันกุนสถาปนาพระราชมารดาขึ้นใหม่เป็น พระมเหสีเจฮอน (제헌왕후, 齊獻王后) ทำให้พระหมื่นปีอินซู (인수대왕대비, 仁粹大王大妃) ไม่พอพระทัยเป็นอย่างยิ่ง เกิดการวิวาทกันจนย็อนซันกุนทำร้ายพระวรกายของพระหมื่นปีอินซูจนสิ้นพระชนม์นับแต่นั้นมาราชสำนักก็เข้าสู่กลียุค ใครก็ตามที่ขัดพระทัยของเจ้าชายย็อนซัยแม้เพียงน้อยนิดล้วนถูกประหารชีวิต ย็อนซันกุนเลิกสนพระทัยกิจการบ้านเมืองและประพฤติตนเหลวแหลกใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ให้นางโลมหรือคีแซงเข้ามาอยู่ในพระราชวังเพื่อหลับนอนและสรรหาหญิงงามจากทั่วอาณาจักร โดยเฉพาะนางโลมที่ชื่อว่า จางนกซู (장녹수, 張綠水) ซึ่งย็อนซันกุนแต่งตั้งให้เป็นพระสนม ย็อนซันกุนล่วงเกินภรรยาของขุนนางทั้งหลาย รวมทั้งพระชายาซึงพยอง (승평부부인, 昇平府夫人) พระชายาของเจ้าชายโวลซานพระปิตุลา จนพระชายาต้องทำอัตวินิบาตกรรมเพื่อหนีความอัปยศในค.ศ. 1506 กลุ่มขุนนางประกอบด้วย พัก วอนจง (박원종, 朴元宗 เชษฐาของพระชายาซึงพยอง) ซองฮึยอัน (성희안, 成希顔) ยูซุนจอง (유순정, 柳順汀) ฯลฯ กระทำการยึดอำนาจนำทัพเข้าบุกพระราชวังคยองบก ปลดย็อนซันกุนลงจากบัลลังก์ ลดพระยศให้เป็นเจ้าชายธรรมดามีพระนามว่า ย็อนซันกุน แล้วเนรเทศไปเกาะคังฮวาพร้อมกับอดีตพระมเหสี คณะรัฐประหารจึงยกเจ้าชายจินซอง (진성대군, 晉城大君) พระอนุชาต่างพระราชมารดาของย็อนซันกุน พระโอรสของพระมเหสีจองฮย็อน ขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้าจุงจง เรียกเหตุการณ์นี้ว่า รัฐประหารพระเจ้าจุงจง (중종반정, 中宗反正) ไม่นานนักย็อนซันกุนก็สิ้นพระชนม์

ย็อนซันกุน

พระราชอิสริยยศ กษัตริย์แห่งโชซ็อน
ราชวงศ์ โชซ็อน
พระปรมาภิไธย ย็อนซันกุน
รัชกาลถัดไป พระเจ้าจุงจง
รัชกาลก่อน พระเจ้าซองจง
พระราชมารดา พระมเหสีเจฮ็อน (อดีตพระมเหสีในพระเจ้าซองจง)
พระราชบิดา พระเจ้าซองจง
พระมเหสี พระมเหสีวอนซาน ตระกูลชิน
รัชกาล 12 ปี 225 วัน
พระนามาภิไธย ลี ยุง (이융, 李㦕)