ระบบการต่อสู้โปเกมอน ของ ระบบเกมโปเกมอน

ฉากการต่อสู้ในโปเกมอน ไฟร์เรด โปเกมอนด้านบนขวาของจอเป็นโปเกมอนของคู่ต่อสู้ โปเกมอนด้านล่างซ้ายเป็นโปเกมอนของผู้เล่น ตัวเลือกของผู้เล่นแสดงอยู่ด้านขวาล่าง

การต่อสู้ระหว่างโปเกมอนเป็นกลไกสำคัญของเกมชุดโปเกมอน กลไกใช้ฝึกฝนโปเกมอนให้แข็งแกร่งขึ้น เพื่อเป็นการแข่งขันและเพื่อให้บรรลุจุดประสงค์ภายในเกม การต่อสู้กับผู้เล่นกันเองสามารถทำได้ผ่านสายลิงก์เคเบิล เทคโนโลยีไร้สาย หรืออินเทอร์เน็ต

โปเกมอนใช้ระบบการต่อสู้แบบผลัดกัน (turn-based) เมื่อผู้เล่นท้าทายเทรนเนอร์หรือเผชิญหน้ากับโปเกมอนป่า หน้าจอเกมจะเปลี่ยนเข้าฉากต่อสู้กับโปเกมอนฝั่งตรงข้าาม เมื่อเริ่มผลัดแรก ทั้งสองฝ่ายสามารถเลือกท่าโจมตี ใช้ไอเทม สับเปลี่ยนโปเกมอน หรือพยายามหนีจากการต่อสู้ (ไม่สามารถทำได้หากต่อสู้กับเทรนเนอร์คนอื่นหรือในบางสถานการณ์) ถ้าทั้งสองฝ่ายโจมตี ผู้ใดจะได้โจมตีก่อนนั้น พิจารณาจากค่าความเร็ว (Speed) แม้ว่าบางท่า ไอเทม และผลกระทบสามารถลบล้างกลไกนี้ ถ้าฝั่งใดฝั่งหนึ่งเลือกทำอย่างอื่น การกระทำนั้นจะได้กระทำก่อนการโจมตี

โปเกมอนแต่ละตัวจะใช้ท่าโจมตีเพื่อลดค่าฮิตพอยต์ (HP) ของคู่ต่อสู้ให้เหลือศูนย์ ซึ่งทำให้โปเกมอนหมดสติ ถ้าโปเกมอนของผู้เล่นชนะ มันจะได้รับค่าประสบการณ์ เมื่อโปเกมอนได้รับค่าประสบการณ์มากพอ เลเวลของโปเกมอนจะเพิ่มขึ้น ถ้าโปเกมอนของผู้เล่นหมดสติ เขาหรือเธออาจใช้โปเกมอนตัวอื่นแทนหรือหนีไป (การหนีสามารถทำได้กับการต่อสู้โปเกมอนป่าเท่านั้น) ถ้าผู้เล่นไม่เหลือโปเกมอนที่ต่อสู้ได้อีก (หมดสติทั้งหมด) เขาหรือเธอจะแพ้การต่อสู้ เสียเงินครึ่งหนึ่ง และกลับไปที่โปเกมอนเซนเตอร์ที่แวะครั้งล่าสุด[3]

โปเกมอน รูบีและแซฟไฟร์ นำเสนอการต่อสู้แบบดับเบิล หรือสองต่อสอง (Double Battles) ซึ่งในทีมจะต่อสู้ด้วยโปเกมอนสองตัวในครั้งเดียวกัน แม้ว่ากลไกหลักของเกมจะยังเหมือนเดิม ท่าโจมตีอาจมีเป้าหมายที่โปเกมอนหลายตัว กล่าวคือ บางท่าจะกระทบกับโปเกมอนฝั่งเดียวกันและฝั่งคู่ต่อสู้ด้วย ที่เพิ่มเติมคือ ความสามารถพิเศษบางอย่างจะทำงานเฉพาะในการต่อสู้แบบหลายคน การต่อสู้แบบมัลติมีเช่นกัน โดยผู้เล่นสองคนต่อสู้กับคนสองคน เกมในเจเนอเรชันที่สามจะมีเพียงการต่อสู้แบบสองต่อสองกับเทรนเนอร์คนอื่นเท่านั้น แต่ในภาคไดมอนด์และเพิร์ลจะมีการต่อสู้แบบสองต่อสองกับโปเกมอนป่าถ้าผู้เล่นเดินทางร่วมกับตัวละครที่ไม่ใช่ผู้เล่น (NPC) ภาคแบล็กและไวต์ได้กำจัดข้อจำกัดนี้ไปและได้เพิ่มหญ้าสูงชนิดพิเศษที่โปเกมอนป่าจะปรากฏพร้อมกันสองตัวได้

ภาคแบล็กและไวต์ยังนำเสนอการต่อสู้แบบสามต่อสาม (Triple Battle)[4] และการต่อสู้แบบหมุนวน (Rotation Battle)[5] ในการต่อสู้แบบสามต่อสาม ทีมทั้งสองทีมจะส่งโปเกมอนออกมาพร้อมกันสามตัว โปเกมอนด้านซ้ายจะโจมตีโปเกมอนได้ทุกตัวยกเว้นโปเกมอนด้านขวาสุด (ยกเว้นท่าโจมตีที่มีพิกัดกว้างบางท่า) และกลับกัน ในการต่อสู้แบบหมุนวน ทั้งสองฝ่ายจะส่งโปเกมอนพร้อมกันสามตัว แต่จะใช้ได้ครั้งละหนึ่งตัว โปเกมอนที่ต่อสู้อยู่สามารถสับเปลี่ยนกับโปเกมอนอีกสองตัวได้ โดยที่ไม่เสียตา

โปเกมอนภาคเอกซ์และวายนำเสนอกลไกการต่อสู้แบบใหม่คือ การต่อสู้บนฟ้า (Sky Battle) จะเกิดขึ้นได้เฉพาะกับสกายเทรนเนอร์ (Sky Trainer) และสามารถใช้โปเกมอนประเภทบิน หรือโปเกมอนที่มีความสามารถพิเศษแบบลอยได้ (Levitate) เท่านั้น กล่าวกันว่าเป็นการต่อสู้ที่ยาก การเผชิญหน้าเป็นฝูง (Horde Encounter) คือการพบกับโปเกมอนป่าพร้อมกันถึงห้าตัว จำเป็นต้องใช้ท่าที่โจมตีพร้อมกันหลายเป้าหมายได้เพื่อให้โจมตีง่ายขึ้น[6][7][8] อีกรูปแบบการต่อสู้หนึ่งคือการต่อสู้แบบผกผัน (Inverse Battle) การต่อสู้แบบผกผันจะเหมือนกับการต่อสู้แบบปกติ แต่ตารางความได้เปรียบเสียเปรียบของประเภทการโจมตีจะถูกเปลี่ยน หมายความว่าท่าที่ปกติจะโจมตีได้ผลดี จะเป็นท่าที่โจมตีไม่ได้ผลดีนัก และกลับกัน ปกติแล้ว ท่าโจมตีจะมีความแข็งแกร่งและความอ่อนแอ เช่น ไฟจะโจมตีได้ผลดีต่อหญ้า

ประเภทของโปเกมอน

ตารางนี้แสดงประเภทของโปเกมอนทั้งหมด 18 ประเภท (นับถึงโปเกมอน โอเมการูบี และอัลฟาแซฟไฟร์) และความแข็งแกร่ง ความอ่อนแอ ภูมิคุ้มกันต่อประเภทอื่น ๆ

ประเภทของโปเกมอน เป็นคุณสมบัติที่กำหนดความแข็งแกร่งและความอ่อนแอของโปเกมอนแต่ละตัว และท่าโจมตีแต่ละท่า จะมีการหักล้างกันในความสัมพันธ์แบบเป่ายิ้งฉุบ ตัวอย่างหลัก ๆ ของความสัมพันธ์นี้คือระหว่างประเภทหญ้า ไฟ และน้ำ หญ้าอ่อนแอต่อไฟ ไฟอ่อนแอต่อน้ำ และน้ำอ่อนแอต่อหญ้า แต่ละประเภทจะทนทานต่อประเภทอื่น ๆ ความสัมพันธ์ของประเภทที่เป็นภูมิคุ้มกัน เช่น ผีมีภูมิคุ้มกันต่อประเภทปกติ และประเภทต่อสู้ ความอ่อนแอ การต่อต้านอาจรวมกันได้หากโปเกมอนมีสองประเภท เช่น โปเกมอนประเภทพื้นดินและบินได้ จะมีภูมิคุ้มกันต่อท่าประเภทไฟฟ้า เนื่องจากความอ่อนแอต่อประเภทบินได้ ถูกหักล้างโดยประเภทพื้นดิน อย่างไรก็ตาม โปเกมอนตัวนั้นจะอ่อนแอต่อประเภทน้ำแข็งถึงสองเท่า เนื่องจากประเภทพื้นดินและบินได้ต่างก็อ่อนแอต่อประเภทน้ำแข็ง ความสามารถพิเศษบางอย่างของโปเกมอนสามารถเปลี่ยนปฏิกิริยาเหล่านี้ได้ เช่น โปเกมอนที่ลอยได้ (Levitate) จะมีภูมิคุ้มกันต่อท่าประเภทพื้นดิน

ในเกมโปเกมอนภาคเรด กรีน บลู และเยลโลว์ มีประเภทของโปเกมอนทั้งหมด 15 ประเภท รวมถึงประเภทที่ยกตัวอย่างไว้ด้านบน และมีประเภทพิษ พลังจิต แมลง หิน และมังกร ในภาคโกลด์และซิลเวอร์ ได้เพิ่มประเภทอีกสองประเภท ได้แก่ ความมืดและเหล็ก ทำให้มีประเภททั้งหมด 17 ประเภทมาเป็นเวลา 14 ปี เกมยังมีประเภทที่ไม่รู้จัก (ประเภท "???") ซึ่งเคยเป็นประเภทของท่า Curse จนกระทั่งท่านั้นถูกเปลี่ยนเป็นประเภทผีในภาคแบล็กและไวต์ เกมคอนโซลภาคโคลอสเซียมและเอกซ์ดี ยังมีประเภทของท่าที่เป็นเอกลักษณ์ ได้แก่ ประเภทเงา แต่ประเภทนี้ไม่ได้ถูกใช้นอกเกมคอนโซล โปเกมอนเงาอาจถือว่าเป็นประเภทเงาได้ แต่มันก็ยังเป็นประเภทเดิมอยู่ ในเกมโปเกมอน เอกซ์ดี ท่าประเภทเงาจะได้เปรียบต่อโปเกมอนที่ไม่ใช่เงา และจะเสียเปรียบกับโปเกมอนเงาด้วยกัน ภาคเอกซ์และวายนำเสนอประเภทที่ 18 ได้แก่ นางฟ้า (Fairy) ประเภทนี้ได้เปรียบกับประเภทต่อสู้ มังกร และความมืด เสียเปรียบต่อประเภทไฟ พิษ และเหล็ก ประเภทนางฟ้าทนทานต่อประเภทต่อสู้ แมลง และความมืด อ่อนแอต่อประเภทพิษและเหล็ก และมีภูมิคุ้มกันต่อประเภทมังกร นอกจากนี้ ในโปเกมอนภาคเอกซ์และวาย ประเภทความมืดและผีเป็นกลางต่อประเภทเหล็กด้วย

ใกล้เคียง