การทำงาน ของ ระวี_ภาวิไล

เข้ารับราชการเป็นอาจารย์ตั้งแต่อายุ 19 ปี สอนหนังสืออยู่ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2488 จนกระทั่งเกษียณอายุในปี พ.ศ. 2529

ผลงานทางดาราศาสตร์เป็นที่ยอมรับในต่างประเทศ เคยร่วมประชุมและรับเชิญทำงานวิจัยในต่างประเทศเกือบ 20 ครั้ง มีผลงานค้นคว้าวิจัยสำคัญ ดังเช่นเรื่องโครงสร้างละเอียดของโครโมสเฟียร์ ดวงอาทิตย์ เรื่องโครงสร้างอาณาจักรบริเวณกัมมันต์บนดวงอาทิตย์ เรื่องโครงสร้างและการเคลื่อนไหวของบรรยากาศระดับโครโมสเฟียร์ของดวงอาทิตย์ เรื่องบรรยากาศของดวงอาทิตย์ เป็นต้น

มีความสนใจทางด้านศาสนาและปรัชญา เขียนหนังสือไว้หลายเล่ม รวมทั้งงานแปลวรรณกรรมคลาสสิก และปรัชญาศาสนา

ในด้านพุทธศาสนาได้คิดค้นแบบจำลองจิต-เจตสิก ใช้ในการช่วยศึกษาและเข้าใจพระอภิธรรม เป็นแบบจำลองที่สามารถแสดงการประกอบของเจตสิกในจิตแต่ละดวงได้สมบูรณ์มากใช้ในการศึกษาเพื่อหาองค์ธรรมในพระสูตรได้ด้วย ช่วยให้สามารถศึกษาพระอภิธรรมได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว

เคยเป็นกรรมการบริหารโครงการสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน โดยพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และนายกสมาคมดาราศาสตร์ไทย และเคยได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในปี พ.ศ. 2516[1]

ในช่วงบั้นปลายชีวิต ระวีได้รับแต่งตั้งเป็นราชบัณฑิต ศาสตราจารย์กิตติคุณ ผู้อำนวยการธรรมสถานของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และได้พาตัวเองเข้าสู่ทางธรรมอย่างเต็มตัว และติดตามโลกวิทยาศาสตร์อยู่ห่าง ๆ แต่ก็ยังได้รับเชิญให้ไขข้อสงสัยในปรากฏการณ์วิทยาศาสตร์อยู่เสมอ เช่น การส่งจรวดขึ้นไปยิงดาวหางเทมเปิล-1 ขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐ ก็ให้ความเห็นว่า เป็นเพียงการสร้างภาพของ "พี่เบิ้ม" เท่านั้น ไม่ใช่เหตุการณ์ที่ต้องใส่ใจ นอกจากนี้ยังศึกษาค้นคว้าเรื่องการกำเนิดของจักรวาล การวิจัยเรื่องอุกกาบาตที่ตกในประเทศไทย ทำงานแปลและงานเขียนบรรยายเรื่องเกี่ยวกับดาราศาสตร์ ศาสนา และปรัชญา และเป็นหนึ่งในบรรณาธิการของสำนักพิมพ์ผีเสื้อ

ระวีเสียชีวิตอย่างสงบเมื่อวันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2560 สิริอายุ 91 ปี