แนวทางการเล่น ของ ราโมนส์

แนวดนตรี

ด้วยดนตรีที่ดัง รวดเร็ว ของราโมนส์ ได้รับอิทธิพลส่วนหนึ่งมาจากดนตรีป็อปในช่วงทศวรรษที่ 1950 และ 1960 มีวงคลาสสิกร็อกตัวอย่างเช่น เดอะบีชบอยส์, เดอะฮู, เดอะบีเทิลส์, เดอะ คิงค์ส, เลด เซพเพลิน, เดอะโรลลิงสโตนส์ และ ครีเดนซ์ เคลียร์วอเทอร์ รีไววอล วงแนวบับเบิลกัมอย่าง 1910 ฟรุ๊คกัมคอมพานี และ โอไฮโอเอ็กซ์เพรส และวงเกิร์ลกรุ้ปเช่น เดอะโรเนตเทส และเดอะแชงกรี-ลาส์ ราโมนส์ยังได้รับอิทธิพลจากวงที่ทำดนตรีหนักๆ เช่น MC5, แบล็กแซ็บบาธ[100] เดอะสทูเกส และนิวยอร์กดอลส์ ซึ่งปัจจุบันต่างได้รับการยกให้เป็นผู้บุกเบิกแนวโปรโทพังก์ที่สมบูรณ์[101] สไตล์ของราโมนส์นั้นเป็นส่วหนึ่งของการต่อต้านการทำแนวเพลงที่หนักๆ โดยที่แนวเพลงที่มีจังหวะหนักแต่พอฟังได้นั้น เริ่มเข้าครองตลาดบนป็อปชาร์ตในช่วงทศวรรษที่ 1970 โจอี้ได้กล่าวไว้ครั้งหนึ่งว่า "พวกเราตัดสินใจที่จะเริ่มกลุ่มของพวกเราเพราะว่าพวกเราต่างเบื่อหน่ายกับทุกๆ อย่าง ที่พวกเราฟัง" "ในปี ค.ศ. 1974 ทุกๆ อย่างในรุ่น 10 แบบเอลตัน จอห์น ล้วนมีแต่การทำซ้ำๆซากๆ หรือไม่ก็เป็นเพียงแค่ขยะ ทุกอย่างๆ มันอึดอัดยืดยาว โซโล่กีตาร์ที่ทำยาวๆ...พวกเราคิดถึงอดีตที่มีควรจะเป็น"[102] อิรา รอบบินส์ (Ira Robbins) และสกอตต์ ไอสเลอร์ (Scott Isler) จากนิตยารทรูเซอร์เพรส ได้บรรยายผลลัพธ์นี้ว่า

ด้วยเพียงแค่สี่คอร์ดและหนึ่งจังหวะหลัก ราโมนส์แห่งนิวยอร์กได้พ่นเลือดแห่งวงการร็อกยุคกลางทศวรรษที่ 70 ที่อุดตันอยู่ออกมา ได้คืนชีพวงการดนตรีขึ้นอีกครั้ง ความอัจฉริยะของพวกเขานี้เองที่ได้หวนความสวยงามที่สั้น/เรียบง่าย จากสิ่งที่ป็อปเคยร่อนเร่มาก่อน เป็นการเพิ่มความรู้สึกให้เกิดอารมณ์ขันในวัฒนธรรมพวกขยะ และบังเกิดความมินิมอลในเสียงจังหวะของกีตาร์[103]

ในฐานะผู้นำแนวทางของพังก์ ดนตรีของเดอะราโมนส์ มักถูกอ้างอิงมาจากค่ายของพวกเขา[1] แต่ก็มีบางส่วนที่ระบุว่าดนตรีพวกเขามีลักษณะพิเศษมากกว่า ซึ่งมันควรจะเป็น ป็อปพังก์ ด้วย[104] และรวมไปถึง พาวเวอร์ป็อป[105] ในทศวรรษที่ 1980 ราโมนส์ก็มีการเปลี่ยนแนวไปเล่นฮาร์ดคอร์พังก์บ้าง ซึ่งสามารถได้ยินจากอัลบั้ม Too Tough to Die[103]

ในการแสดงบนเวที วงใช้วิธีการเพ่งความสนใจตรงๆ ทำให้เพิ่มความรู้สึกแก่ผู้ฟังในคอนเสิร์ตแต่ละครั้ง จอห์นนียังได้ชีแนะให้ ซี.เจ. เตรียมตัวก่อนการแสดงสดครั้งแรกกับวง ต่อหน้าผู้ชมทั้งหลาย ทั้งการแกว่งสายกีตาร์เบสไปพรางๆ ช้าๆ ควบคู่ไปกับการเหยียดขาสองข้าง และเดินไปข้างหน้าเวทีในช่วงเวลากับที่จอห์นทำ เพราะจอห์นนีไม่ใช่นักกีตาร์ที่เล่นหันหน้าเข้ากลอง เครื่องขยายเสียง หรือกับสมาชิกคนอื่นๆ เท่านั้น[106]

ภาพลักษณ์ของวง

ต้นแบบ ตราประธานาธิบดีสหรัฐที่ดัดแปลงมาใช้เป็นตราประจำวงราโมนส์

สมาชิกวงราโมนส์นั้นเป็นที่จดจำด้วยทรงผมยาวแบบ Bowl cut การสวมชุดแจ็กเก็ต ทีเชิร์ต กางเกงยีนส์ขาดๆ และรองเท้าผ้าใบ เป็นเทรนด์แฟชันที่ตรอกย้ำให้เห็นถึงความเรียบง่าย และมันก็ได้สร้างอิทธิพลอย่างมากในกรุงนิวยอร์ก ในช่วงทศวรรษที่ 1970 ซึ่งยังสะท้อนถึงงานดนตรีของพวกเขาที่สั้นๆ และเรียบง่าย[107] ทอมมี ราโมน ได้กล่าวว่า ทั้งดนตรีและภาพลักษณ์ "พวกเราล้วนได้รับอิทธิพลอีกทีมาจากหนังสือการ์ตูน ภาพยนตร์ การเคลื่อนไหวงานศิลปะของแอนดี วอร์ฮอล และภาพยนตร์แนวอาว็อง-การ์ด ฉันคงเป็นแฟนคลับที่บ้าคลั่งอยู่คนเดียว"[107]

ตราสัญลักษณ์ของวง ได้รับการออกแบบร่วมระหว่างอาร์ทูโร เวกา ศิลปินชาวนิวยอร์กและสมาชิกวง เวกา ผู้ซึ่งเป็นเพื่อนกันมาอย่างยาวนาน จึงได้ถูกเชิญให้มาร่วมงานกับโจอี และดี ดี[108] เขาได้สร้างสรรค์เสื้อทีเชิร์ตวงหลายแบบ ซึ่งเป็นที่มาของรายได้หลัก งานศิลป์นี้ใช้พื้นฐานภาพลักษณ์ดำ-ขาว และรูปถ่ายหมู่ง่ายๆ เขายังสร้างตราหัวเข็มขัดอินทรี ที่ปรากฏให้เห็นในปกหลังของอัลบั้มแรก Ramones[109] เวกา ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบตราภายหลังไปทริปที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. โดยกล่าวถึงตราที่เขาออกแบบนี้ว่า

ฉันมองพวกเขาคือที่สุดแห่งวงอเมริกัน พวกเขาสะท้อนความเป็นอเมริกัน ที่เป็นพวกเด็กไรเดียงสาแสนบริสุทธิ์แต่ก้าวร้าว...ฉันคิดว่า 'ตราประธานาธิบดีสหรัฐ' คงมีความสมบูรณ์แบบที่สุดสำหรับราโมนส์ ในตราเดิมอินทรีจับลูกธนู แสดงถึงความแข็งแกร่งและก้าวร้าวที่ไว้ใช้สู้กับใครก็ตามที่กล้าปะทะพวกเขา แต่เมื่อเปลี่ยนมาเป็นกิ่งใบมะกอกนั้น ได้สื่อถึงใครก็ตามที่ต้องการเป็นมิตรด้วย นอกจากนี้พวกเราตัดสินที่จะปรับเปลี่ยนมันนิดนึง ด้วยการแทนที่ใบมะกอกเป็น ใบต้นแอปเปิลแทน เพราะราโมนส์มันคืออเมริกันจริงๆ (American as apple pie) และด้วยเหตุที่จอห์นนีชื่นชอบเบสบอล พวกเราจึงทำเป็นอินทรีจับไม้เบสบอลแทนที่ลูกศรธนูเดิม[109]

สำหรับม้วนกระดาษในตราประธานาธิบดีสหรัฐเดิมที่ระบุข้อความว่า "Look out below" ก็เปลี่ยนใหม่เป็น "Hey ho let's go" ซึ่งนำมาจากเพลง "Blitzkrieg Bop" มีการปรับเป็นหัวธนูออกจากอินทรี และชื่อวง "RAMONES" ที่ได้เลือกใช้ฟอนต์ตัวพิมพ์ภาษาอังกฤษตัวใหญ่ วางไว้เหนือกรอบวงอีกที[22] นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนตัวหนังสือที่เขียนล้อมวงตามเข้มนาฬิกาว่า "Seal of the President of the United States" เป็นชื่อสมมุติของสมาชิกวงดั้งเดิมทั้ง 4 คนแทน คือ จอห์นนี, โจอี, ดี ดี และ ทอมมี ซึ่งภายหลังเมื่อมีการเปลี่ยนสมาชิกวงใหม่ ก็แทนชื่อใหม่ของสมาชิกคนนั้นแทน[110]

แหล่งที่มา

WikiPedia: ราโมนส์ http://www.exclaim.ca/articles/multiarticlesub.asp... http://www.exclaim.ca/articles/research.aspx?csid1... http://www.allbusiness.com/retail-trade/miscellane... http://allmusic.com/cg/amg.dll?p=amg&sql=p116834 http://allmusic.com/cg/amg.dll?p=amg&sql=p463857 http://allmusic.com/cg/amg.dll?p=amg&sql=p5223 http://allmusic.com/cg/amg.dll?p=amg&sql=r16121 http://allmusic.com/cg/amg.dll?p=amg&sql=r16124 http://allmusic.com/cg/amg.dll?p=amg&sql=r16125 http://allmusic.com/cg/amg.dll?p=amg&sql=r16126