เมนูนำทาง
ฤดูพายุไซโคลนภูมิภาคออสเตรเลีย_พ.ศ._2561–2562 พายุความกดอากาศต่ำเขตร้อน (มาตราออสเตรเลีย) | ||
---|---|---|
พายุดีเปรสชันเขตร้อน (SSHWS) | ||
ระยะเวลา | 25 (เข้ามาในแอ่ง) – 29 กันยายน | |
ความรุนแรง | 55 กม./ชม. (35 ไมล์/ชม.) (เฉลี่ย 10 นาที) 995 mbar (hPa; 29.38 inHg) |
ความกดอากาศต่ำเขตร้อน (มาตราออสเตรเลีย) | ||
---|---|---|
พายุโซนร้อน (SSHWS) | ||
ระยะเวลา | 9 (เข้ามาในแอ่ง) – 16 พฤศจิกายน (ออกนอกแอ่งไปเมื่อวันที่ 10 และกลับเข้ามาอีกครั้งในวันที่ 14 และออกนอกแอ่งไปอีกครั้งในวันที่ 16) | |
ความรุนแรง | 55 กม./ชม. (35 ไมล์/ชม.) (เฉลี่ย 10 นาที) 1005 mbar (hPa; 29.68 inHg) |
หย่อมความกดอากาศกำลังอ่อนก่อตัวขึ้นแถบศูนย์สูตรในมหาสมุทรอินเดีย ภายในพื้นที่รับผิดชอบของเมเตโอ-ฟร็องส์ในวันที่ 1 พฤศจิกายน โดยระบบหย่อมความกดอากาศต่ำได้ค่อย ๆ เคลื่อนตัวไปทางตะวันออก และแสดงให้เห็นถึงสัญญาณการทวีกำลังแรงขึ้นเพียงเล็กน้อย[3] ในช่วงปลายของวันที่ 9 พฤศจิกายน พายุดีเปรสชันลูกก่อนหน้าในอ่าวเบงกอลได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุดีเปรสชันหมุนเร็ว บีโอบี 09 และเริ่มเคลื่อนตัวห่างออกไปและพบกับการบรรจบกันของการไหลของอากาศระดับต่ำที่สัมพันธ์กับการอ่อนกำลังของมัน[4] โครงสร้างของระบบเริ่มจัดระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเมเตโอฟร็องส์ได้จัดให้ระบบเป็นการแปรปรวนของลมในเขตร้อน[5] ไม่นานหลังจากนั้นระบบได้เคลื่อนตัวผ่านเส้นเมริเดียนที่ 90 องศาตะวันออก และเข้าสู่แอ่งภูมิภาคออสเตรเลีย โดยได้รับการจัดความรุนแรงของศูนย์เตือนพายุหมุนเขตร้อนจาการ์ตาเป็นพายุดีเปรสชันเขตร้อน ในวันที่ 10 พฤศจิกายน ตามเวลาท้องถิ่น[6] ต่อมาศูนย์เตือนไต้ฝุ่นร่วมประเมินว่าการพัฒนาของหย่อมความกดอากาศต่ำนั้น อยู่ในระดับพายุโซนร้อนแล้วตามมาตราเฮอร์ริเคนแซฟเฟอร์–ซิมป์สัน และจึงได้ออกรหัสเรียกอย่างไม่เป็นทางการกับระบบว่า 04S[7] ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ในเวลา 10:00 UTC (17:00 น. ตามเวลาในประเทศไทย) ระบบได้เคลื่อนตัวย้อนกลับไปทางตะวันตก และกลับเข้าสู่แอ่งมหาสมุทรอินเดียตะวันตก-ใต้ตามเดิม[8] และมีการทวีกำลังขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นพายุโซนร้อนกำลังแรง โดยได้รับชื่อจากเมเตโอ-ฟร็องส์ว่า บูชรา (Bouchra)[9]
หลังจากที่พายุเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกของเส้นขอบมหาสมุทรอินเดียตะวันตกด้านใต้อยู่เป็นเวลาหลายวัน ระบบได้เคลื่อนตัวกลับเข้ามาในภูมิภาคออสเตรเลียอีกครั้งในวันที่ 12 พฤศจิกายน[10]โดยกลับเข้ามาในฐานะของพายุที่อ่อนกำลังลงอย่างมาก จากกำลังสูงสุดของตัวมันเอง และเหลือเพียงแค่เป็นความกดอากาศต่ำเขตร้อนเท่านั้น[11] โดยหย่อมนี้จะอยู่ภายในแอ่งออสเตรเลียเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ อีกครั้ง เนื่องจากเมเตโอ-ฟร็องส์ชี้ว่าระบบพายุไซโคลนบูชราเก่านี้ จะเคลื่อนตัวเลี้ยวกลับเข้าไปในด้านตะวันออกสุดของพื้นที่รับผิดชอบของหน่วยงานในวันที่ 13 พฤศจิกายน[10] อีกหลายวันต่อมา สำนักอุตุนิยมวิทยาออสเตรเลียได้บันทึกว่า ระบบได้เคลื่อนตัวเลี้ยวกลับเข้าไปในแอ่งออสเตรเลียอีกครั้ง โดยมีระยะห่างจากหมู่เกาะโคโคสไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ 1,000 กม. ทำให้มันกลายเป็นความกดอากาศต่ำเขตร้อนที่เคลื่อนตัวเข้าและออกจากแอ่งออสเตรเลียถึงสามครั้ง ภายในเวลาเพียงห้าวัน[12]
บริเวณความกดอากาศต่ำเขตร้อน (มาตราออสเตรเลีย) | ||
---|---|---|
ระยะเวลา | 14 – 18 พฤศจิกายน | |
ความรุนแรง | ไม่ทราบความเร็วลม 1004 mbar (hPa; 29.65 inHg) |
วันที่ 14 พฤศจิกายน สำนักอุตุนิยมวิทยาได้บันทึกว่ามีความกดอากาศต่ำเขตร้อนก่อตัวขึ้นในบริเวณพายุฝนฟ้าคะนอง ห่างจากเกาะคริสต์มาสไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ 490 กม.[12] ซึ่งอยู่เหนือบริเวณที่มีน้ำทะเลที่อบอุ่นของเขตร้อนในมหาสมุทรอินเดีย นอกชายฝั่งของเกาะชวา มีการพยากรณ์ว่าระบบจะเคลื่อนตัวไปทางตะวันออกเฉียงใต้ และมีโอกาสปานกลางในการก่อตัวเป็นพายุหมุนเขตร้อน[12]
พายุไซโคลนเขตร้อนกำลังแรงระดับ 3 (มาตราออสเตรเลีย) | ||
---|---|---|
พายุไซโคลนเขตร้อนระดับ 1 (SSHWS) | ||
ระยะเวลา | 29 พฤศจิกายน – 15 ธันวาคม | |
ความรุนแรง | 150 กม./ชม. (90 ไมล์/ชม.) (เฉลี่ย 10 นาที) 956 mbar (hPa; 28.23 inHg) |
ในระหว่างที่พายุไซโคลนโอเวนพัดผ่านตอนเหนือของรัฐควีนส์แลนด์ พายุทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 1 คน และมีปริมาณน้ำฝนทั่วทั้งภูมิภาคสูงที่สุดอยู่ในชายฝั่งตะวันออก เมื่อเทียบกับชายฝั่งด้านตะวันตกเฉียงใต้ส่วนที่เหลือของรัฐ[19] ที่เมืองอินนิสเฟล วัดปริมาณน้ำฝนสูงสุดรายวันเมื่อวันที่ 15 ธันวาคมได้ที่ 149 มิลลิเมตร (5.9 นิ้ว) ขณะที่เมืองคาวลีย์บีชวัดได้ 135 มิลลิเมตร (5.3 นิ้ว) เขื่อนคอปเปอร์โลดฟอลส์ที่อยู่ทางตะวันตกของเมืองแคนส์วัดได้ 130 มิลลิเมตร (5.1 นิ้ว) และที่เมืองมิชชันบีชวัดได้ 98 มิลลิเมตร (3.9 นิ้ว)[20]
บริเวณความกดอากาศต่ำเขตร้อน (มาตราออสเตรเลีย) | ||
---|---|---|
ระยะเวลา | 9 – 12 ธันวาคม | |
ความรุนแรง | ไม่ทราบความเร็วลม 1005 mbar (hPa; 29.68 inHg) |
พายุไซโคลนเขตร้อนระดับ 1 (มาตราออสเตรเลีย) | ||
---|---|---|
พายุโซนร้อน (SSHWS) | ||
ระยะเวลา | 14 – 16 ธันวาคม (ออกนอกแอ่ง) | |
ความรุนแรง | 75 กม./ชม. (45 ไมล์/ชม.) (เฉลี่ย 10 นาที) 996 mbar (hPa; 29.41 inHg) |
บริเวณความกดอากาศต่ำเขตร้อน (มาตราออสเตรเลีย) | ||
---|---|---|
ระยะเวลา | 27 – 28 ธันวาคม | |
ความรุนแรง | ไม่ทราบความเร็วลม 1001 mbar (hPa; 29.56 inHg) |
บริเวณความกดอากาศต่ำเขตร้อน (มาตราออสเตรเลีย) | ||
---|---|---|
ระยะเวลา | 28 – 31 ธันวาคม (ออกนอกแอ่ง) | |
ความรุนแรง | ไม่ทราบความเร็วลม 1002 mbar (hPa; 29.59 inHg) |
พายุไซโคลนเขตร้อนระดับ 2 (มาตราออสเตรเลีย) | ||
---|---|---|
พายุโซนร้อน (SSHWS) | ||
ระยะเวลา | 28 ธันวาคม – 9 มกราคม | |
ความรุนแรง | 95 กม./ชม. (60 ไมล์/ชม.) (เฉลี่ย 10 นาที) 987 mbar (hPa; 29.15 inHg) |
บริเวณความกดอากาศต่ำเขตร้อน (มาตราออสเตรเลีย) | ||
---|---|---|
ระยะเวลา | 29 – 30 ธันวาคม | |
ความรุนแรง | ไม่ทราบความเร็วลม 1007 mbar (hPa; 29.74 inHg) |
บริเวณความกดอากาศต่ำเขตร้อน (มาตราออสเตรเลีย) | ||
---|---|---|
ระยะเวลา | 30 ธันวาคม – 2 มกราคม | |
ความรุนแรง | ไม่ทราบความเร็วลม 1005 mbar (hPa; 29.68 inHg) |
บริเวณความกดอากาศต่ำเขตร้อน (มาตราออสเตรเลีย) | ||
---|---|---|
ระยะเวลา | 15 – 23 มกราคม (ออกนอกแอ่ง) | |
ความรุนแรง | ไม่ทราบความเร็วลม 1004 mbar (hPa; 29.65 inHg) |
พายุไซโคลนเขตร้อนกำลังแรงระดับ 3 (มาตราออสเตรเลีย) | ||
---|---|---|
พายุไซโคลนเขตร้อนระดับ 1 (SSHWS) | ||
ระยะเวลา | 21 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ | |
ความรุนแรง | 120 กม./ชม. (75 ไมล์/ชม.) (เฉลี่ย 10 นาที) 974 mbar (hPa; 28.76 inHg) |
บริเวณความกดอากาศต่ำเขตร้อน (มาตราออสเตรเลีย) | ||
---|---|---|
ระยะเวลา | 21 – 25 มกราคม | |
ความรุนแรง | 55 กม./ชม. (35 ไมล์/ชม.) (เฉลี่ย 10 นาที) 999 mbar (hPa; 29.5 inHg) |
บริเวณความกดอากาศต่ำเขตร้อน (มาตราออสเตรเลีย) | |
---|---|
ระยะเวลา | 6 – 9 กุมภาพันธ์ |
ความรุนแรง | ไม่ทราบความเร็วลม 994 mbar (hPa; 29.35 inHg) |
พายุไซโคลนเขตร้อนระดับ 2 (มาตราออสเตรเลีย) | ||
---|---|---|
พายุโซนร้อน (SSHWS) | ||
ระยะเวลา | 7 กุมภาพันธ์ – 22 กุมภาพันธ์ (ออกนอกแอ่งไปเมื่อวันที่ 11 และกลับเข้ามาอีกครั้งในวันที่ 21 และออกนอกแอ่งอีกครั้งในวันที่ 22) | |
ความรุนแรง | 95 กม./ชม. (60 ไมล์/ชม.) (เฉลี่ย 10 นาที) 977 mbar (hPa; 28.85 inHg) |
บริเวณความกดอากาศต่ำเขตร้อน (มาตราออสเตรเลีย) | ||
---|---|---|
ระยะเวลา | 6 – 11 มีนาคม | |
ความรุนแรง | ไม่ทราบความเร็วลม 1007 mbar (hPa; 29.74 inHg) |
พายุไซโคลนเขตร้อนกำลังแรงระดับ 4 (มาตราออสเตรเลีย) | ||
---|---|---|
พายุไซโคลนเขตร้อนระดับ 3 (SSHWS) | ||
ระยะเวลา | 7 – 17 มีนาคม (ออกนอกแอ่ง) | |
ความรุนแรง | 175 กม./ชม. (110 ไมล์/ชม.) (เฉลี่ย 10 นาที) 951 mbar (hPa; 28.08 inHg) |
บริเวณความกดอากาศต่ำเขตร้อน (มาตราออสเตรเลีย) | |
---|---|
ระยะเวลา | 13 – 14 มีนาคม |
ความรุนแรง | ไม่ทราบความเร็วลม 1006 mbar (hPa; 29.71 inHg) |
พายุไซโคลนเขตร้อนกำลังแรงระดับ 4 (มาตราออสเตรเลีย) | ||
---|---|---|
พายุไซโคลนเขตร้อนระดับ 3 (SSHWS) | ||
ระยะเวลา | 15 – 26 มีนาคม | |
ความรุนแรง | 175 กม./ชม. (110 ไมล์/ชม.) (เฉลี่ย 10 นาที) 950 mbar (hPa; 28.05 inHg) |
พายุไซโคลนเขตร้อนกำลังแรงระดับ 4 (มาตราออสเตรเลีย) | ||
---|---|---|
พายุไซโคลนเขตร้อนระดับ 4 (SSHWS) | ||
ระยะเวลา | 18 – 28 มีนาคม | |
ความรุนแรง | 195 กม./ชม. (120 ไมล์/ชม.) (เฉลี่ย 10 นาที) 938 mbar (hPa; 27.7 inHg) |
พายุไซโคลนเขตร้อนกำลังแรงระดับ 3 (มาตราออสเตรเลีย) | ||
---|---|---|
พายุไซโคลนเขตร้อนระดับ 1 (SSHWS) | ||
ระยะเวลา | 1 – 16 เมษายน | |
ความรุนแรง | 120 กม./ชม. (75 ไมล์/ชม.) (เฉลี่ย 10 นาที) 980 mbar (hPa; 28.94 inHg) |
สืบเนื่องจากการหยุดลงของร่องมรสุมที่มีมีพลัง ซึ่งมีส่วนช่วยทำให้เกิดการก่อตัวของพายุไซโคลนกำลังแรงเทรเวอร์และเวรอนิกาในสองสัปดาห์ก่อนหน้า การเพิ่มขึ้นของกระแสพัดข้ามเส้นศูนย์สูตรจากมหาสมุทรแปซิฟิกเหนือจึงนำไปสู่การพัฒนาขึ้นอีกครั้งของร่องมรสุมกำลังอ่อน ในทะเลเขตร้อนทางเหนือของทวีปออสเตรเลีย[30] การกลับมาของลักษณะแบบนี้มีส่วนรับผิดชอบในการสร้างสภาพบรรยากาศที่มีส่วนสนับสนุนการก่อตัวของความกดอากาศต่ำเขตร้อน[30]
บริเวณความกดอากาศต่ำเขตร้อน (มาตราออสเตรเลีย) | ||
---|---|---|
พายุดีเปรสชันเขตร้อน (SSHWS) | ||
ระยะเวลา | 5 – 15 เมษายน | |
ความรุนแรง | 65 กม./ชม. (40 ไมล์/ชม.) (เฉลี่ย 10 นาที) 1005 mbar (hPa; 29.68 inHg) |
บริเวณความกดอากาศต่ำเขตร้อน (มาตราออสเตรเลีย) | ||
---|---|---|
พายุดีเปรสชันเขตร้อน (SSHWS) | ||
ระยะเวลา | 21 – 26 เมษายน | |
ความรุนแรง | 55 กม./ชม. (35 ไมล์/ชม.) (เฉลี่ย 10 นาที) 998 mbar (hPa; 29.47 inHg) |
พายุไซโคลนเขตร้อนระดับ 1 (มาตราออสเตรเลีย) | ||
---|---|---|
พายุโซนร้อน (SSHWS) | ||
ระยะเวลา | 4 – 11 พฤษภาคม | |
ความรุนแรง | 75 กม./ชม. (45 ไมล์/ชม.) (เฉลี่ย 10 นาที) 997 mbar (hPa; 29.44 inHg) |
พายุไซโคลนเขตร้อนระดับ 2 (มาตราออสเตรเลีย) | ||
---|---|---|
พายุโซนร้อน (SSHWS) | ||
ระยะเวลา | 9 (เข้ามาในแอ่ง) – 18 พฤษภาคม | |
ความรุนแรง | 95 กม./ชม. (60 ไมล์/ชม.) (เฉลี่ย 10 นาที) 993 mbar (hPa; 29.32 inHg) |
เมนูนำทาง
ฤดูพายุไซโคลนภูมิภาคออสเตรเลีย_พ.ศ._2561–2562 พายุใกล้เคียง
ฤดูพายุไต้ฝุ่นแปซิฟิก พ.ศ. 2565 ฤดูพายุไต้ฝุ่นแปซิฟิก พ.ศ. 2564 ฤดูพายุไต้ฝุ่นแปซิฟิก พ.ศ. 2560 ฤดูพายุไต้ฝุ่นแปซิฟิก พ.ศ. 2563 ฤดูพายุไต้ฝุ่นแปซิฟิก พ.ศ. 2562 ฤดูพายุไต้ฝุ่นแปซิฟิก พ.ศ. 2556 ฤดูพายุไต้ฝุ่นแปซิฟิก พ.ศ. 2545 ฤดูพายุไต้ฝุ่นแปซิฟิก พ.ศ. 2559 ฤดูพายุไต้ฝุ่นแปซิฟิก พ.ศ. 2554 ฤดูพายุไต้ฝุ่นแปซิฟิก พ.ศ. 2566แหล่งที่มา
WikiPedia: ฤดูพายุไซโคลนภูมิภาคออสเตรเลีย_พ.ศ._2561–2562 http://www.bom.gov.au/australia/charts/archive/ind... http://www.bom.gov.au/cgi-bin/wrap_fwo.pl?IDQ20023... http://www.bom.gov.au/cgi-bin/wrap_fwo.pl?IDW27600... http://www.bom.gov.au/climate/cyclones/australia/ http://www.bom.gov.au/climate/tropical-note/ http://www.bom.gov.au/cyclone/outlooks/seasonal/wa... http://www.bom.gov.au/fwo/IDY00050.pdf http://www.bom.gov.au/nt/forecasts/tcoutlook.shtml http://www.bom.gov.au/products/IDQ65002.shtml http://www.bom.gov.au/qld/forecasts/cyclone.shtml