บทความนี้ใช้ระบบคริสต์ศักราช เพราะอ้างอิงคริสต์ศักราชและคริสต์ศตวรรษ หรืออย่างใดอย่างหนึ่ง
ลาเฟอร์รารี่ (
อังกฤษ: LaFerrari) หรือในสำเนียงอิตาลี เรียกว่า
"ลาแฟรารี่" หรือรู้จักกันดีในรหัส "F150"
[4] เป็น
รถยนต์นั่งไฮบริดสมรรถนะสูงจำกัดจำนวน เครื่องยนต์กลางลำหลัง ขับเคลื่อนสองล้อท้าย (RMR) 2 ประตู 2 ที่นั่ง ผลิตโดยบริษัทรถยนต์สัญชาติ
อิตาลี เฟอร์รารี่[5] ได้รับการออกแบบโดย นักออกแบบรถยนต์สัญชาติอิตาลี ฟลาวีโอ แมนโซนี (Flavio Manzoni) เจ้าของรางวัล "European Automotive Design Award"
[6] โดยที่ตอนออกแบบ ลาร์เฟอร์รารี่ได้ใช้ชื่อโปรเจกต์ว่า F150 รถได้เปิดตัวครั้งแรกในงานเจนีวาออโตชว์ปี ค.ศ. 2013 เป็นการแทนที่รุ่น
เอ็นโซ และ
เอฟเอ็กซ์เอ็กซ์ ซึ่งได้ยกเลิกการผลิตไปใน 6 ปีที่แล้ว ลาเฟอร์รารี่ ประกอบด้วยรูปแบบตัวถัง 2 ประเภท คือ แบบคูเป ที่มีการจำกัดจำนวนเพียง 500 คัน กับแบบสไปเดอร์ เปิดประทุน และจำกัดจำนวนเพียง 209 คันเท่านั้น ใช้ชื่อการค้าใหม่ว่า อเพอร์ทา (Aperta) ได้เปิดตัวครั้งแรกในงานปารีสมอเตอร์โชว์ ค.ศ. 2016
[7][8][9]เฟอร์รารี่ ได้ออกมาเปิดเผยว่า ลาร์เฟอร์รารี่สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 350 กม./ชม. (220 ไมล์/ชม.) โดยที่อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (62 ไมล์/ชม.) สามารถทำได้ในเวลาเพียง 3 วินาที, 200 กม./ชม. (120 ไมล์/ชม.) ใช้เวลาเพียง 7 วินาที และ เมื่อแตะไปถึง 300 กม./ชม. (190 ไมล์/ชม.) ภายในเวลาเพียง 15 วินาที
[10] ที่สนามฟีโอราโน ลาเฟอร์รารี่ ก็ได้ลงทดสอบความเร็ว ผลปรากฏว่า ลาร์เฟอร์รารี่สามารถทำเวลาได้เพียง 1 นาที กับอีก 20 วินาที ทำให้ลาเฟอร์รารี่ เป็นรถบนถนน (Road-legal car) ที่เร็วที่สุดของเฟอร์รารี่ เท่าที่เฟอร์รารี่เคยผลิตมา
[11]ลาเฟอร์รารี่ ใช้เครื่องยนต์ไฮบริดขนาด 6.3 ลิตร (6262 ซีซี) มีกำลัง 800 PS (588 kW; 789 bhp) ที่ 9,000 rpm แรงบิดสูงสุดได้ที่ 700 N·m (516 lb·ft) ที่ 6,750 rpm ขับเคลื่อนด้วย 2 ล้อหลัง ใช้เกียร์กึ่งอัตโนมัติ 7 จังหวะ ในระบบคลัทช์คู่ (Dual-clutch) ที่สำคัญ ลาร์เฟอร์รารี่ เป็นรถคันแรกของเฟอร์รารี่ที่ใช้เครื่องยนต์
ไฮบริด ทำให้ปล่อย
คาร์บอนไดออกไซด์ เพียง 330 กรัม/กม. ลาร์เฟอร์รารี่ จะผลิตมาเพียง 499 คันเท่านั้น และแต่ละคันมีราคาสูงถึง 1 ล้านยูโร และผู้ซื้อจะต้องเป็นเจ้าของเฟอร์รารี่อยู่แล้วอย่างน้อย 4 คัน
[12]ในวันที่ 3 ธันวาคม ค.ศ. 2016 ลาเฟอร์รารี่ ได้รับการประมูลออกไปกว่า 7 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 5,743,500.00 ยูโร ทำให้มันกลายเป็น "รถศตวรรษที่ 21 ที่มีราคาประมูลสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา"
[13]