วงศ์ตะพาบ (
อังกฤษ: Soft-shelled turtle) เป็น
วงศ์ของ
เต่าจำพวกหนึ่ง ที่ใช้
ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Trionychidae ตะพาบ เป็นเต่าที่มีลักษณะเด่นคือ ลำตัวแบน จมูกแหลม กระดองอ่อนนิ่ม มี
กระดองหลังค่อนบ้างเรียบแบน กระดองมีลักษณะเป็นหนังที่ค่อนข้างแข็งเฉพาะในส่วนกลางกระดอง แต่บริเวณขอบจะมีลักษณะนิ่มแผ่นกระดองจะปราศจากแผ่นแข็งหรือรอยต่อ ซึ่งแตกต่างจากกระดองของเต่าอย่างสิ้นเชิง ซึ่งขอบที่อ่อนนิ่มนี้เรียกว่า "เชิง" กระดองส่วนท้องหุ้มด้วยผิวหนังเรียบ มีส่วนที่เป็นกระดูกน้อยมาก กระดองจะมีรูปร่างกลมเมื่อ ยังมีขนาดเล็ก และจะรีขึ้นเล็กน้อยเมื่อโตเต็มวัยตั้งแต่คอส่วนบนไปจรดขอบกระดองจะมีตุ่มแข็งเล็ก ๆ ขึ้นอยู่ ส่วนหัวมีขนาดใหญ่ คอเรียวยาวและสามารถเอี้ยวกลับมาด้านข้าง ๆ ได้ มีจมูกค่อนข้างยาวแต่มีขนาดเล็กและส่วนปลายจมูกอ่อน ตามีขนาดเล็กโปนออกมาจากส่วนหัวอย่างเห็นได้ชัด มีฟัน ขากรรไกรแข็งแรงและคม มีหนังหุ้มกระดูกคล้ายริมฝีปาก ขาทั้งสี่แผ่กว้างที่นิ้วจะมีพังพืดเชือมติดต่อกันแบบใบพายอย่างสมบูรณ์ มีเล็บเพียง 3 นิ้ว และมีหางสั้นมักอาศัยอยู่ในน้ำมากกว่าบนบก โดยตะพาบสามารถกบดานอยู่ใต้น้ำได้นานกว่าเต่า แม้จะหายใจด้วยปอด แต่เมื่ออยู่ในน้ำ ตะพาบจะใช้อวัยวะพิเศษช่วยหายใจเหมือนปลา เรียกว่า "Rasculavpharyngcal capacity" ตะพาบจัดเป็นเต่าน้ำที่จะพบได้ใน
แหล่งน้ำที่เป็น
น้ำจืดและ
น้ำกร่อยใน
เขตร้อนทุกทวีปทั่วโลก ทั้ง
อเมริกาเหนือ,
แอฟริกา และ
เอเชีย ไปจนถึง
โอเชียเนียเมื่อจะวางไข่ ตะพาบจะคลานขึ้นมาวางไข่ในพื้นทรายริมตลิ่งริมน้ำที่อาศัย โดยขุดหลุมแบบเดียวกับ
เต่าทะเลและเต่าจำพวกอื่นทั่วไปตะพาบเป็นสัตว์ที่กิน
สัตว์มากกว่าจะกิน
พืช โดยหลายชนิดมีอุปนิสัยที่ดุร้ายกว่าเต่าตะพาบเป็นเต่าที่
มนุษย์นิยมนำมาทำเป็น
อาหาร โดยเฉพาะ
ซุปใน
อาหารจีนและ
อาหารญี่ปุ่น หรือ
อาหารเกาหลี โดย
เชื่อว่าทั้งเนื้อและกระดองเป็นเครื่องบำรุงกำลังและเสริมสมรรถนะทางเพศ โดยตะพาบชนิดที่นิยมใช้เพื่อการบริโภคนี้คือ
ตะพาบไต้หวัน (Pelodiscus sinensis) ซึ่งในหลายประเทศได้มีการเพาะเลี้ยงตะพาบไต้หวันเป็น
สัตว์เศรษฐกิจรวมทั้ง
ประเทศไทยด้วย
[1]สำหรับตะพาบชนิดที่หายากที่สุดในโลก หลายข้อมูลระบุว่าคือ
ตะพาบยักษ์แยงซีเกียง (Rafetus swinhoei) ซึ่งเป็นตะพาบขนาดใหญ่ เป็นสัตว์พื้นเมืองที่พบได้เฉพาะใน
ประเทศจีนและ
เวียดนามเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันพบเพียง 5 ตัวใน 2 ที่เท่านั้น คือที่
สวนสัตว์ในประเทศจีน 4 ตัว และที่
ทะเลสาบคืนดาบที่เมือง
ฮานอย 1 ตัว
[2]แต่ในทัศนะของ
กิตติพงษ์ จารุธาณินทร์ นักสำรวจ
ธรรมชาติและผู้เชี่ยวชาญเรื่อง
สัตว์น้ำและ
ปลาน้ำจืดชาวไทย ที่มีผลงานค้นพบปลาน้ำจืดชนิดใหม่ของโลกหลายชนิด เห็นว่า ตะพาบชนิดที่หายากที่สุดในโลกน่าจะเป็น "กริวดาว" หรือ "ตะพาบหัวกบลายจุด" ซึ่งเป็นตะพาบที่เคยจัดให้เป็นชนิดเดียวกับ
ตะพาบหัวกบ (Pelochelys cantorii) ซึ่งเป็นตะพาบขนาดใหญ่อีกชนิดหนึ่ง ที่พบได้ในพื้นที่
ภาคกลางของประเทศไทย แต่ทว่า กริวดาว นั้น มีความแตกต่างจากตะพาบหัวกบ คือ มี
จุดสีเหลืองอ่อนเป็นวงกระจายอยู่บริเวณขอบกระดอง โดยที่ไม่แปรเปลี่ยนไปตามวัย เหมือนตะพาบหัวกบ ซึ่งถึงแม้จะเป็นตะพาบขนาดใหญ่แล้ว แต่ลายจุดนี้ยังคงเห็นได้ชัดเจน ซึ่งกิตติพงษ์ได้ระบุไว้ว่า ตะพาบแบบนี้ไม่ได้พบเห็นมานานตั้งแต่ปี
ค.ศ. 1991 หรือ พ.ศ. 2534 แล้ว และแต่เดิมก็พบเห็นได้ยากมาก ซึ่งถ้าใช้หลักการ
อนุกรมวิธานตามแบบปัจจุบัน เชื่อว่า กริวดาวต้องถูกจัดเป็นชนิดใหม่อย่างไม่ต้องสงสัย เนื่องจากมีความแตกต่างจากตะพาบหัวกบอย่างพอสมควร แต่เสียดายที่ไม่ได้มีการศึกษามากกว่านี้ เนื่องจากไม่มี
ตัวอย่างต้นแบบให้ศึกษา โดยตัวสุดท้ายที่ค้นพบและมี
ภาพถ่ายที่สมบูรณ์ มีขนาดยาวราว 30
เซนติเมตร น้ำหนัก 5
กิโลกรัม จับได้จาก
แม่น้ำแควใหญ่ ที่
อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อเดือน
กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2529[3]