วงศ์ปลาผีเสื้อ (
วงศ์: Chaetodontidae,
อังกฤษ: Butterflyfish, Bannerfish, Coralfish) เป็น
วงศ์ของ
ปลาทะเลจำพวกหนึ่ง ใน
ชั้นปลากระดูกแข็ง อันดับปลากะพง (Perciformes)ประกอบไปด้วยสมาชิกแบ่งออกเป็น
สกุลต่าง ๆ ได้ 10 สกุล พบประมาณ 114
ชนิด มีลักษณะโดยรวม คือ มีลำตัวสั้น แบนด้านข้าง ปากมีขนาดเล็กอาจยืดหดได้ ภายในปากมีฟันละเอียด ครีบหลังมีอันเดียว ประกอบด้วยก้านครีบแข็งอยู่ส่วนหน้าและก้านครีบอ่อนอยู่ถัดไป ครีบทวารมีก้านครีบแข็ง 3 อัน และแผ่นยื่นรับกับครีบหลัง มีนิสัยเฉื่อยชา
ว่ายน้ำหรือเคลื่อนไหวไปอย่างช้า ๆ ไม่ว่องไว มี
สีสันและลวดลายที่สดใส
สวยงาม มีพฤติกรรมอาศัยเป็นฝูงหรือเป็นคู่ใน
แนวปะการัง พบแพร่กระจายพันธุ์ใน
มหาสมุทรแอตแลนติก,
มหาสมุทรอินเดีย และ
มหาสมุทรแปซิฟิคเป็นปลาที่ออกหากินในเวลา
กลางวัน โดยอาศัยการแทะกิน
สิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ ตามแนวปะการัง ส่วนในเวลา
กลางคืนจะอาศัยหลับ
นอนตามโพรงหินหรือ
ปะการัง และจะเปลี่ยนสีตัวเองให้เข้มขึ้นเพื่ออำพรางตัวจากศัตรู ซึ่งในหลายชนิดและบางสกุล จะมี
จุดวงกลมสีดำขนาดใหญ่คล้ายดวง
ตาอยู่บริเวณท้ายลำตัวเพื่อล่อหลอกให้ศัตรูสับสนได้อีกด้วยคล้ายกับ
ผีเสื้อที่เป็น
แมลงมีการสืบพันธุ์วางไข่โดยการปล่อยไข่ให้ล่องลอยไปตามกระแสน้ำ ก่อนจะรอวันให้ลูกปลาฟักออกมาเป็นตัวและกลับไปอาศัยในแนวปะการังต่อไป ลูกปลาผีเสื้อแทบทุกชนิดมีรูปร่างหน้าตาแทบจะเหมือนกับตัวเต็มวัย โดยมักจะมีจุดบริเวณครีบหลัง และเมื่อลูกปลาโตขึ้นจุดที่ว่านี้ก็จะหายไปเช่นเดียวกับปลาในแนวปะการังอื่น ๆ อีกหลายชนิด ด้วยความสวยงามและรูปร่างที่
น่ารัก จึงทำให้นิยมเลี้ยงเป็น
ปลาสวยงาม ซึ่งในบางชนิดสามารถฝึกให้กิน
อาหารสำเร็จรูปได้ หลายชนิดเลี้ยงได้ไม่ยากนัก ขณะที่บางชนิดที่เลี้ยงได้ยาก
[1]สำหรับใน
น่านน้ำไทยพบปลาในวงศ์ปลาผีเสื้อนี้ไม่ต่ำกว่า 40 ชนิด อาทิ
ปลาผีเสื้อนกกระจิบ (Chelmon rostratus),
ปลาผีเสื้อทอง (Chaetodon semilarvatus),
ปลาผีเสื้อจมูกยาวขอบตาขาว (Forcipiger flavissimus),
ปลาโนรีเกล็ด (Heniochus diphreutes) เป็นต้น
[2] โดยจะพบในด้าน
ทะเลอันดามันมากกว่า
อ่าวไทยซึ่งปลาในวงศ์ปลาผีเสื้อนั้น ในอดีตเมื่อเริ่มมีการ
อนุกรมวิธาน ด้วยลักษณะปากที่ยื่นยาวทำให้มีความเข้าใจผิดว่า สามารถพ่นน้ำจับ
แมลงได้เหมือนเช่น
ปลาเสือพ่นน้ำ (Toxotidae) ซึ่งเป็น
ปลาน้ำจืด โดยความผิดพลาดเกิดขึ้นเมื่อปี
ค.ศ. 1764 เมื่อมีการส่งตัวอย่างปลาในยัง
กรุงลอนดอนเพื่อลง
รูปตีพิมพ์ลงใน
หนังสือ ปรากฏเป็นภาพของปลาผีเสื้อนกกระจิบ และถูกบรรยายว่าสามารถพ่นน้ำจับแมลงกินเป็นอาหารได้ จึงถูกกล่าวอ้างต่อมาอย่างผิด ๆ อีกนาน
[3]